รัฐบาลเมียนมาปฏิเสธรายงานของยูเอ็นที่กล่าวหาว่ากองทัพเมียนมาร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา และเรียกร้องให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายทหารระดับสูง
เวบไซต์หนังสือพิมพ์ โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานอ้างถ้อยแถลงของซอ เทย์ โฆษกรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่ได้อนุญาตให้คณะเจ้าหน้าที่สืบสวนหาความจริงของสหประชาชาติเข้าไปในเมียนมา จึงไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับรายงานสรุปของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนอิสระของเมียนมาเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาเท็จจากยูเอ็นและประชาคมโลก
คณะเจ้าหน้าที่สืบสวนหาความจริง ที่แต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น จัดทำรายงานจากการสัมภาษณ์เหยื่อและพยาน วิเคราะห์เอกสาร, วิดีโอ, ภาพถ่ายและภาพดาวเทียม และสรุปว่า มีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการฟ้องร้องนายทหารระดับสูง 6 นาย รวมทั้งพลเอกอาวุโส มิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่จากการกวาดล้างครั้งใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
นอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลเมียนมา ยังโจมตีเฟซบุ๊กที่ถอดเพจของผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำกองทัพคนอื่น โดยระบุว่าการทำเช่นนั้นเป็นอุปสรรคความพยายามสร้างความปรองดองภายในประเทศ
ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวานนี้ หลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ผู้นำกองทัพเมียนมาถุกดำเนินคดี ฐานก่ออาชญากรรมสงคราม
นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวว่า รายงานการสอบสวนของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญาสอดคล้องกับรายงานของคณะเจ้าหน้าที่สืบสวนหาความจริงของยูเอ็น แต่เธอไม่ได้ใช้คำว่า "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และระบุว่า กระทรวงต่างประเทศยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามีความเห็นตรงกันเกี่ยวกับประเด็นเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรายงานของยูเอ็น รายงานของสหรัฐที่ได้จากการสุ่มสอบถามชาวมุสลิมโรฮิงญา พบว่า พวกเขาเห็นการฆาตกรรม การใช้ความรุนแรงทางเพศ และการข่มขืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง