ข่าว

มาเลเซียเปิดรายงาน"เอ็มเอช370"ไม่ตัดปมมือที่สามมีเอี่ยว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ญาติร่ำไห้ไร้ข้อมูลใหม่รายงานเอ็มเอช370 ไม่มีคำตอบทำไมสูญหาย แต่ไม่ตัดความเป็นไปได้"มือที่สาม"แทรกแซง 


                    รัฐบาลมาเลเซียเปิดเผยรายงานฉบับเต็มความยาว 1,100 หน้า เกี่ยวกับการสูญหายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์  ระหว่างเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้ากรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 


                    แต่การสอบสวนตลอด 4 ปี ไม่พบหลักฐานสรุปได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่หายสาปสูญพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน  สร้างความผิดหวังและไม่พอใจอย่างมากแก่ญาติพี่น้องผู้โดยสารที่รอแถลงรายงานฉบับนี้มานาน เพราะไม่มีอะไรใหม่ในความคิดของพวกเขา  นอกจากนี้ ในห้องแถลงข่าวที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ยังไม่มีตัวแทนจากทีมค้นหาหรือจากกระทรวงคมนาคม มานั่งแถลงข่าวด้วยและตอบข้อซักถาม 


                    หลายคนร่ำไห้ขณะออกจากห้องประชุม  และบางคนก็เดินออกขณะยังแถลงไม่เสร็จ กระนั้น รายงานเล่มหนาได้เผยความผิดพลาด ระเบียบปฏิบัติ คู่มือที่ไม่ได้รับการปฏิบัติตาม กับหลักฐานชี้ไปทางข้อสรุปที่ว่า เครื่องบินอยู่ในความควบคุมของคน และการออกนอกเส้นทางไปยังมหาสมุทรอินเดีย เป็นความจงใจ


                    ก๊อก ซู ชอน หัวหน้าทีมสอบสวนความปลอดภัยของเอ็มเอช 370 บอกผู้สื่อข่าวว่า ผลสอบสวนที่สามารถยืนยันได้ก็คือ เที่ยวบินเอ็มเอช370 หันหัวกลับ ที่ไม่ใช่เพราะเกิดเหตุขัดข้องในระบบกลไก และเป็นการวกกลับภายใต้การควบคุมของ “คน” ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ แต่ทีมสอบสวนไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุใดเครื่องบินจึงออกนอกเส้นทางการบิน และเหตุใดจึงสูญหายไป 


                    ส่วนประวัตินักบินและนักบินผู้ช่วย  ทีมสอบสวนพอใจกับผลตรวจสอบปูมหลังด้าน สุขภาพจิตและการฝึกอบรม และไม่คิดว่าอาจเป็นการกระทำของนักบิน นอกจากนี้ จิตแพทย์สองคนในทีมสอบสวนที่รับผิดชอบตรวจสอบเสียงโต้ตอบของนักบินก็ไม่พบสัญญาณผิดปกติใดๆ ไม่มีความเครียดหรือตื่นเต้นในน้ำเสียง 


                   แต่ทีมสอบสวนก็ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากการตัดสัญญาณการสื่อสาร และการออกนอกเส้นทางบิน เป็นการควบคุมโดยคน บ่งชี้ถึงการแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายจากฝ่ายที่สาม ซึ่งคำถามต่างๆเหล่านี้ อาจหาคำตอบได้หากเจอซากเครื่องบิน รายงานฉบับนี้จึงไม่ใช่ฉบับสุดท้าย 


                    ส่วนผู้โดยสารทั้งหมดที่มาจาก 15 ประเทศ ได้รับข้อมูลตรวจสอบประวัติส่งกลับจากประเทศของพวกเขาแล้ว ไม่พบความผิดปกติใดๆ  


                   ทีมสอบสรุปว่า หอควบคุมการบินทั้งของกัวลาลัมเปอร์ และโฮจิมินห์ ไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่กำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การค้นหาและกู้ภัยล่าช้าไปด้วย  


                    เกรซ นาทาน ซึ่งมารดาของเขาเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเที่ยวบินปริศนา และได้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในช่วงเช้า กล่าวว่า ผู้แถลงย้ำว่า รายงานฉบับนี้เป็นการสอบสวนประเด็นความปลอดภัย และทีมสอบสวนมีข้อจำกัดจากข้อมูลที่ได้รับ  ซึ่งเราหวังว่าความผิดพลาดเหล่านี้จะไม่เกิดซ้ำรอย ควรมีมาตรการป้องกันในอนาคต 


                    วอยซ์ 370 กลุ่มตัวแทนญาติ ระบุว่ารายงานแจกแจงความผิดพลาดของศูนย์ควบคุมการบิน (เอทีซี) มาเลเซีย  มีความพยายามโทรศัพท์จากภาคพื้นดินไปยังเครื่องบินเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ห่างกัน  4-5 ชั่วโมง  แต่คำถามใหญ่คือเหตุใดจึงใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าทางการจะตื่นตัว และเหตุใดจึงค้นหาผิดจุดอยู่นานถึง 8 วัน 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ