สรุป-ลำดับเหตุการณ์ก่อนหายนะภัยเขื่อนแตก 

                                  ความคืบหน้าภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลัน หลังเขื่อนเสริมในโครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกในลาว นายชนะ เมี้ยนเจริญ กงสุลไทยประจำประเทศลาว กล่าวที่ศูนย์บรรเทาภัยพิบัติในแขวงอัตตะปือว่า ถึงบ่ายวันพุธ ( 25 ก.ค.)  เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพได้ 26 ราย  มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คนอยู่ในโรงพยาบาล

 

 

 

                                ด้านสำนักข่าวลาว รายงานว่า มีผู้สูญหายหลักร้อย เฉพาะบ้านใหม่แห่งเดียว สูญหายอย่างน้อย 50 คน

                               ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวลาว และมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 6,000 คนใน 8 หมู่บ้านใกล้เขื่อน

                              เวียงจันทน์ไทมส์ อ้างเจ้าหน้าที่แขวงอัตตะปือว่า ได้ช่วยเหลือชาวบ้านจากพื้นที่ประสบภัย 2,851 คน และได้รับการร้องขอกู้ภัยกว่า 3,000 ราย ไม่อาจยืนยันตัวเลขความสูญเสียแบบเป็นทางการได้ จนกว่าการช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างจะแล้วเสร็จ แต่การกู้ภัยยังทำได้ลำบากมาก ด้วยสภาพน้ำที่สูงถึงหลังคา ยิ่งพื้นที่น้ำท่วมห่างไกลเข้าถึงได้ทางเฮลิคอปเตอร์และเรือท้องแบนเท่านั้น  เนื่องจากถนนเสียหายหนักหรือถูกน้ำซัดขาด 

                                ภาพจากสถานีโทรทัศน์ลาว แสดงให้เห็นชาวบ้านเกาะกลุ่มบนหลังคารอการกู้ภัย ขณะน้ำสีโคลนไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่าง 

 

 

                                ขณะเดียวกัน มีคำถามถึงสาเหตุเขื่อนพัง และการเตือนภัยในเวลาที่กระชั้นมาก ชาวบ้านที่กลายเป็นคนไร้ที่อยู่เผยว่า ได้รับการแจ้งเตือนให้อพยพออกจากบ้านไม่กี่ชั่วโมงก่อนหายนะมาเยือน 

                                จู ฮินลา วัย 68 ปี จากหมู่บ้านบ้านหินใต้ ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดแห่งหนึ่ง กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า น้ำมาเร็วมากแทบไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย ทั้งหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ สมาชิก 4 คนในครอบครัวของเขาสูญหายไปไม่รู้ชะตากรรม 

                                บริษัทเกาหลีใต้ 2 แห่ง ได้แก่ เอสเค เอ็นจิเนียร์ริง แอนด์ คอนสตรักชัน (เอสเค อีแอนด์ซี) กับ โคเรีย เวสเทิร์นพาวเวอร์ บริษัทไฟฟ้าของทางการเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในโครงการสร้างเขื่อน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ( อีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จากไทย และ ลาว โฮลดิง สเตท เอ็นเตอร์ไพรซ์ ) ได้ให้ข้อมูลในวันนี้

                               

                               โดย เอสเค เอ็นจิเนียร์ริงฯ เปิดเผยว่า พบความเสียหายก่อนเขื่อนแตก 1 วัน                                                              

                               ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างลำดับเหตุการณ์ที่บริษัท โคเรีย เวสเทิร์น พาวเวอร์ ยื่นให้สมาชิกสภาเกาหลีใต้ระบุว่า  พบรอยทรุด 11 เซนติเมตรที่ส่วนกลางของเขื่อนตั้งแต่วันศุกร์แล้ว แต่ไม่สามารถซ่อมได้เพราะรอยทรุดหนักยิ่งขึ้น โฆษกบริษัท บอกว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรทำให้เกิดรอยทรุดและกลายเป็นรอยแตก แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังมีฝนตกหนัก

   

 

                                ต่อไปนี้เป็นลำดับเหตุการณ์ตามข้อมูลจาก เอสเค เอ็นจิเนียร์ริง และบีบีซี

วันอาทิตย์ 22 ก.ค.

                                21.00 น. - เอสเค เอ็นจิเนียร์ริง แอนด์ คอนสตรักชัน เตือนทางการลาว พบส่วนบนของเขื่อนเสียหาย ทางการสั่งชาวบ้านใกล้เขื่อนเริ่มอพยพ ทีมวิศวกรเข้าซ่อมแซม พยายามป้องกันน้ำล้นทะลักตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในช่วงนั้น มีฝนตกหนักมากกว่าปกติถึง 3 เท่า  ประกอบกับถนนทางเข้าหน้างานเสียหายหนัก การนำเครื่องมือหนักเข้าไปทำได้ล่าช้า 

วันจันทร์ 23 ก.ค. 

                                03.00 น. - เปิดวาล์วฉุกเฉินหนึ่งใน 2 เขื่อนหลัก เพื่อพยายามลดแรงกดดันในเขื่อนดินปิดช่องเขาต่ำ (saddle dam - เขื่อนเสริมพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมน้ำในอ่างเก็บน้ำที่เกิดจากเขื่อนหลัก เพื่อให้สามารถยกระดับน้ำให้สูงขึ้นและเก็บน้ำได้  -อ้างอิง International River ) 

                                12.00 น.  -ทางการท้องถิ่นสั่งชาวบ้านท้ายน้ำอพยพ หลังได้รับแจ้งว่าอาจเกิดความเสียหายเพิ่มเติม 

                               18.00 น. - ยืนยันสภาพความเสียหายของเขื่อน น้ำเริ่มทะลัก

                               20.00 น. - เขื่อนเสริมพัง ปล่อยน้ำ 5,000 ลูกบาศก์เมตรไหลสู่หมู่บ้านในอัตตะปือ ใกล้ชายแดนเวียดนามกับกัมพูชา 

อังคาร 24 ก.ค. 

                               1.30 น. - น้ำท่วมหมู่บ้านใกล้กับเขื่อนเสริม และท่วม 7 หมู่บ้านภายในเวลา 9.30 น .