รัฐบาลแคนเบอร์ราลงทุนครั้งใหญ่เสริมแนวป้องกันทางทะเล ทุ่มงบ 1.7 แสนล้านซื้อโดรนไฮเทคสอดส่องน่านน้ำกว้างใหญ่รวมถึงทะเลจีนใต้
ออสเตรเลียประกาศจะใช้งบ 7,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ( ราว 1.7 แสนล้านบาท ) พัฒนาและซื้ออากาศยานบังคับระยะไกล (โดรน) “เอ็มคิว-4ซี ไทรทัน” ( MQ-4C Triton) จากบริษัทอาวุธสหรัฐยักษ์ใหญ่ นอร์ททรอป กรัมแมน จำนวน 6 ลำ
โดรนสอดแนมทางทะเลลำแรกจาก 6 ลำ ราคา 1,400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย จะเข้าประจำการได้ราวกลางปี 2023 เสริมเครื่องบินสอดแนม โพไซเดอน P-8A ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 7 ลำ และคาดว่าจะนำเข้าประจำการได้ทั้ง 6 ลำ ภายในปลายปี 2025
นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลกล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้จะช่วยปกป้องชายแดนและทำให้ภูมิภาคของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะจะขยายขีดความสามารถด้านต่อต้านเรือดำน้ำ ศักยภาพในการโจมตีทางทะเล ตลอดจนภารกิจค้นหาและกู้ภัย
โดรนไทรทัน มีช่วงปีกกว้างเท่ากับ โบอิ้ง 737 จุดเด่นอยู่ที่ทำการบินได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ที่ความสูง 1.8 หมื่นเมตร ให้ภาพมุมมองแวดล้อม 360 องศาครอบคลุมพื้นที่ 4.4 หมื่นตารางกิโลเมตร หรือบินระยะ 1.8 หมื่นกิโลเมตรได้ก่อนที่จะต้องเติมน้ำมันอีกครั้ง ออสเตรเลียจะนำเข้าไปใช้แทนเครื่องบินสอดแนมโอเรียน AP-3C
สหรัฐใช้โดรนรุ่นนี้ตรวจการณ์ทะเลจีนใต้เช่นกัน
คริสโตเฟอร์ พายน์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวว่าออสเตรเลียรับผิดชอบพื้นผิวของโลกราว 10% ในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก เรื่อยไปถึงแอนตาร์กติกา และทะเลจีนใต้ การออกแบบให้บินไกลได้ เพื่อให้สามารถดูแลมหาสมาทุรอินเดียและแปซิฟิกอย่างทั่วถึง สอดส่องตรวจจับเรือต่างชาติ การทำประมงผิดกฎหมาย หรือเรือลักลอบขนคน
รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลียกล่าวด้วยว่า ออสเตรเลียยืนยันในสิทธิในการเดินทางผ่านทะเลจีนใต้ ในน่านน้ำสากลดังที่เคยกระทำเสมอมา ไม่ว่าจะด้วยเรือบนผิวน้ำ หรือเครื่องบิน
โดรนไทรตันไม่ติดอาวุธเพราะออกแบบมาเพื่อใช้ตรวจการณ์อย่างเดียว ส่วนข้อมูลที่โดรนสอดแนมรวบรวมได้ ออสเตรเลียจะแชร์กับพันธมิตร รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดาและนิวซีแลนด์ ฐานประจำการจะอยู่ที่ฐานทัพอากาศในเมืองเอดินเบอร์ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง