ไม่ใช่มาตรการภาษีแบบหมัดต่อหมัดเท่านั้นที่ปักกิ่งจะนำมาใช้ตอบโต้สหรัฐ นักวิเคราะห์ชี้จีนมีทางเลือกหลากหลายในคลังแสง
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ชัดเจนขึ้นทุกที หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่าสินค่าจีนมูลค่า 4.5แสนล้านดอลลาร์หรือเกือบทั้งหมดของสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐ อาจถูกเก็บภาษีเพิ่ม ข้างจีนก็ตอบโต้ทันควันเรื่อยมา และล่าสุดเรียกคำขู่ของทรัมป์ว่า เป็นการแบล็คเมล์
แต่ด้วยจีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วเพียง 1.3 แสนล้านดอลลาร์ แล้วจีนจะใช้ทางเลือกใดให้สมกับคำขู่ว่า จีนจะจัดหนักมาตรการโต้กลับทั้งคุณภาพและปริมาณ
คำถามแรกว่าเหตุใดปักกิ่งจึงต้องตอบโต้ ยูคอน หวง นักวิชาการสถาบัน Carnegie Endowment for International Peace ที่เคยถกประเด็นตึงเครียดการค้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนมาก่อน กล่าวว่า การตอบโต้ต้องมี หากไม่ทำจะสูญเสียยิ่งกว่า และนั่นจึงกลายสงครามการค้า
นักวิชาการท่านนี้กล่าวว่า สงครามการค้าคือแพ้ทั้งคู่ แต่หากไม่ตอบโต้ ก็จะแพ้อยู่ฝ่ายเดียว หลายประเทศศึกษาบทเรียนจากญี่ปุ่น ที่เคยมีปัญหาตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐครั้งใหญ่ ซึ่งคลี่คลายด้วยการที่รัฐบาลโตเกียวยอมรับโควตาการส่งออกไปสหรัฐ ลดภาษีนำเข้าและยอมให้เงินเยนแข็งค่า ผลคือญี่ปุ่นสูญเสีย 20 ปี ยักษ์เศรษฐกิจเอเชียไม่มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจอีกเลย 2 ทศวรรษ
ถ้าไม่ใช่กำแพงภาษี แล้วมาตรการอื่นที่จีนเล่นงานสหรัฐได้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ไอโฟนเอ็กซ์ รถบูอิค เอ็กเซลของจีเอ็ม กาแฟสตาร์บักส์ และหนังฮอลลีวูด เป็นสินค้ายอดนิยมในจีน และทั้งหมดนี้อาจตกเป็นเป้าได้ หากความตึงเครียดลุกลามเป็นสงครามการค้าเต็มรูปแบบขึ้นมาจริงๆ
ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งเคยแสดงให้หลายประเทศได้ประจักษ์มาแล้วว่า สามารถใช้สารพัดกลยุทธเพื่อลงโทษทางเศรษฐกิจได้ เช่นเมื่อปีที่แล้ว ความไม่พอใจที่เกาหลีใต้ตกลงให้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทาดของสหรัฐเพื่อป้องกันภัยจากเกาหลีเหนือ จีนสั่งห้ามกรุปทัวร์ไปเกาหลีใต้ ทำให้ตลาดเครื่องสำอางและท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ซบเซาทันที ส่วนกลุ่มธุรกิจลอตเต ที่ให้ที่ดินของตัวเองใช้ติดตั้งระบบขีปนาวุธ ได้รับผลกระทบหนักจนต้องปิดร้านสาขา 120 แห่งในจีน
ดูเหมือนธุรกิจสหรัฐก็เริ่มกระทบ เมื่อเดือนที่แล้ว จีนเพิ่มการตรวจเข้มสินค้านำเข้าสำคัญจากสหรัฐ อย่างรถยนต์และเนื้อหมู บางส่วนติดค้างที่ท่าเรือ เนื่องจาก “ปัญหาหลายอย่าง”
แอนดรูว์ โพล์ค นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า จีนมีอาวุธมากมายให้ใช้ทันทีที่มาตรการเชิงปริมาณหมดลง
เกาหลีเหนือ ?
มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติ ที่ผ่านความเห็นชอบและการบังคับใช้จากรัฐบาลปักกิ่ง ผลักดันเปียงยางมาสู่โต๊ะเจรจา ทำให้เกิดการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์ กับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์เมื่อ 12 มิถุนายน
เฉิง เซียวเหอ นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน กล่าวว่า การปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะสำเร็จลุล่วงได้ ทรัมป์ยังต้องอาศัยปักกิ่งมาลงเรือลำเดียวกันต่อไปในแง่ของการใช้มาตรการคว่ำบาตร แต่สงครามการค้าอาจเปลี่ยนวิธีคิดของจีนก็เป็นได้
ความร่วมมือระหว่างจีนกับสหรัฐด้านเกาหลีเหนือ อาจจะกลายเป็นเรื่องซับซ้อนและยากขึ้น การที่คิมจองอึนเยือนจีนรอบสามแล้วในปีนี้ และเป็นการเยือนหนึ่งสัปดาห์พอดีหลังประชุมสุดยอดประวัติศาสตร์ทรัมป์ เพื่อสรุปการหารือให้กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สะท้อนได้ดีถึงอิทธิพลของจีน
ที่มา : สำนักข่าว เอเอฟพี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง