ปลื้มไม่หยุดฉุดไม่อยู่!แห่ลงชื่อหนุน"มหาธีร์"ชิงโนเบล 

 

                                        มีผู้ยื่นคำร้องออนไลน์ผ่านเวบไซต์  Change.org รณรงค์ให้นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้ โดยเพียงวันเดียวมีผู้ร่วมลงชื่อเกือบ 4 หมื่นชื่อแล้ว 

 

                                       Alexandria Abishegam ผู้ริเริ่มคำร้องถึงมูลนิธิรางวัลโนเบล เผยแพร่เมื่อวานนี้ ( 26 พ.ค.) ระบุว่า ดร.มหาธีร์ควรได้รับการเสนอชื่อ จากความมุ่งมั่นแน่วแน่หวนคืนการเมืองในวัย 92 ปี ละวางอคติทางการเมืองร่วมมือกับอดีตฝ่ายตรงข้าม เพื่อกอบกู้มาเลเซีย เป็นแรงบันดาลให้ชาวมาเลเซียหลายล้าน ออกมาแสดงพลังโค่นอำนาจรัฐบาลผสมแนวร่วมแห่งชาติ (บีเอ็น) ที่ผูกขาดอำนาจปกครองมาเลเซีย 6 ทศวรรษ อย่างสงบปราศจากความรุนแรง    

 

(จำนวนการลงชื่อถึง 18.00 น. 27 พ.ค.) 

 

                                       อดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ เป็นผู้นำที่ถือเป็นแบบอย่าง ยอมรับอย่างเปิดเผยถึงความผิดพลาดของตนเองในอดีต และขอโทษในความผิดพลาดนั้น ทั้งยังเปรียบเทียบกับ นายแนลสัน แมนเดลา รัฐบุรุษนักต่อสู้เพื่อยุติการแบ่งแยกสีผิวของแอฟริกาใต้ ผู้นำวัย 92 ดำเนินการการถ่ายโอนอำนาจอย่างสงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกาศว่ารัฐบาลใหม่จะไม่คิดแก้แค้น เป็นผู้ให้ความหวัง กอบกู้ศรัทธา เหนือสิ่งอื่นใด กอบกู้ความภาคภูมิใจในความเป็นมาเลเซีย 

                                      คำร้องในเรื่องนี้ หวังเลียนแบบความสำเร็จเมื่อครั้งที่มีการรณรงค์เสนอชื่อ มาลาลา ยูซาฟไซ นักเคลื่อนไหวเพื่อการศึกษาของเด็กหญิงปากีสถานเมื่อปี 2555 เข้าชิงโนเบลสันติภาพ ครั้งนั้นมีผู้ร่วมลงชื่อเกือบ 3 แสน  

                                       ยูซาฟไซได้รับการเสนอชื่อในปีถัดไปและได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2557 

                                       ชาวมาเลเซียหันใช้คำร้องออนไลน์ เป็นช่องทางแสดงความเห็นและเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่ในหลายประเด็น นับจาก ปากาตัน ฮารับปัน หรือพันธมิตรแห่งความหวัง  จัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม  โดยคำร้องเสนอชื่อดร.มหาธีร์ชิงโนเบลสันติภาพ เป็นคำร้องที่ 4 แล้ว 

                                       คำร้องแรกเมื่อ 19 พฤษภาคม แสดงความไม่พอใจเรื่องการตั้งรัฐมนตรีศึกษาคนใหม่ และต้องการให้ดร.มหาธีร์ ยืนยันควบอีกกระทรวง แม้มีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดนโยบายของพันธมิตรที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีจะต้องไม่ควบรัฐมนตรี 
                                       คำร้องที่สอง มีขึ้นเพื่อสนับสนุน ดร.มัสลัค มาลิก เป็นรัฐมนตรีศึกษา และเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว มีคำร้องที่ 3 เรียกร้องให้รัฐมนตรีมหาดไทย มูห์ยิดดิน ยัสซิน สั่งห้ามนักเทศน์หัวรุนแรงเข้ามาเลเซีย