ข่าว

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มคราฟต์เบียร์ นักร้องหญิงหมอลำสุดเท่ นักเคลื่อนไหว นักการเมืองหน้าใหม่ ได้รับเลือกเป็น 50 ชาวเอเชียที่น่าจับตา

               หนังสือพิมพ์ สเตรทส์ไทมส์ ของสิงคโปร์ จัดทำทำเนียบบุคคลที่น่าจับตาในเอเชีย จาก 16 ประเทศ กับหนึ่งดินแดน (ไต้หวัน) จำนวน 50 คน ในฐานะผู้สร้างหรือกำลังจะเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่า และทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงของพวกเขา
               บุคคลเหล่านี้มีทั้งวัยรุ่น อายุ 15 ปี คนหนุ่มสาว วัยกลางคน ที่เป็นดาวดวงใหม่ หรือมีความโดดเด่นใน 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจ ศิลปวัฒนธรรมและกีฬา และภาคสังคม-สาธารณะ

 

 

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

ภาพ : straitstimes.com

 

 

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

 

 

 

               ในส่วนของประเทศไทย มี 5 คน ที่ได้รับเลือก โดย 2 คน อยู่ในกลุ่มศิลปวัฒนธรรมและกีฬา ได้แก่ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร บัณฑิตนิติศาสตร์จากรั้วธรรมศาสตร์ผู้จุดประเด็นถกเถียงเรื่องคราฟต์เบียร์ รัสมี เวระนะ นักร้องนักแต่งเพลงแนวรำเต้ยเสียงโซลอีสาน
               อีก 3 คน โดดเด่นอยู่ในกลุ่มสังคม-สาธารณะ ได้แก่ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักศึกษานักเคลื่อนไหว กับหน้าใหม่การเมืองไทย พริษฐ์ วัชรสินธุ กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร


               สเตรทส์ไทมส์ ระบุว่า เมื่อหนึ่งปีก่อน หนุ่มไทยรายนี้ถูกจับกุมและปรับ 5,000 บาท ฐานขายคราฟต์เบียร์ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคให้ เท่าพิภพ หรือ เท่า เลิกฝันถึงธุรกิจคราฟ์เบียร์ แต่ครั้งนี้จะถูกกฎหมาย เขากับเพื่อน 3 คน หันไประดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิง เพื่อเดินหน้าโครงการ “เท่าพิภพ บาร์ โปรเจกท์” และเวลานี้ขายเบียร์อยู่ในบาร์เล็กๆ ตกแต่งแนวเก่าแต่เก๋ อยู่ในย่านนนทบุรี
               หนุ่มวัย 29 ปี เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายที่เขาระบุว่า เป็นกำแพงกั้นสูงลิ่ว เป็นการแข่งขันไม่เป็นธรรมและระบอบเล่นพวกพ้อง ในอุตสาหกรรมเบียร์มูลค่า 1.8 แสนล้านบาทของไทย กล่าวหารัฐบาลไทยเอื้อประโยชน์กลุ่มบริษัทใหญ่ที่ผลิตเบียร์ไม่กี่ยี่ห้อที่รู้จักกันดี เวลานี้ เท่าพิภพ มีแผนเปิดโรงต้มเบียร์ในเวียดนาม วางกลยุทธการตลาดให้สาโทท้องถิ่น และรณรงค์ให้แก้ไขพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 เพื่อเปิดทางให้กับธุรกิจเล็กๆ ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

รัสมี เวระนะ วัย 34 ปี


               นักร้องนักแต่งเพลงที่พลิกโฉมเพลงหมอลำ ด้วยการใส่กลิ่นอายบลูส์ ร็อก ป็อป และแนวเพลงแอฟริกาผสมผสานอย่างลงตัว เจ้าของรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ สาขาศิลปินหญิงยอดเยี่ยม อัลบั้มยอดเยี่ยมและเพลงยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว และรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด ในปี 2559
               เธอทำเพลงภาษาไทย ลาวและเขมร มีแฟนเพลงในเขตเมืองทั้งในไทยและไกลถึงยุโรป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               รัสมี กล่าวว่า ปกติแล้ว หมอลำเป็นเพลงลูกทุ่งแนวหนึ่ง บ่อยครั้งถูกดูแคลนจากคนเมือง แต่ผู้ชมคอนเสิร์ตของเธอ มีทุกประเภท ตั้งแต่สังคมชั้นสูง ชาวกรุงเทพฯ จนถึงคนต่างจังหวัด คนต่างชาติจากหลายประเทศ ทุกเพศทุกวัย ทุกระดับชั้นการศึกษาและพื้นเพ
               เธอกล่าวด้วยว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่เพลงหมอลำ ได้รับการยกย่องเป็นส่วนหนึ่งของมรดกวัฒนธรรมของไทย”

 

-----------------------

(ขอบคุณเว็บไซต์ ยูทูบดอทคอม : rasmee - Rasmee - Maya - รัสมี - มายา (Rasmee Isan Soul) 【OFFICIAL MV】

TEDx Talks - เสียงแห่งอิสานโซล | รัสมี เวระนะ | TEDxBangkok)

 

 

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล


               นักศึกษารัฐศาสตร์ วัย 21 ปี ที่เข้าสู่เส้นทางนักเคลื่อนไหวตั้งแต่สมัยมัธยมปลายครั้งแรกด้วยการเรียกร้องปฏิรูประบบศึกษาไทย เมื่อปีที่แล้ว เนติวิทย์จุดประเด็นถกเถียง หลังจากออกโรงวิจารณ์การหมอบกราบ ในงานพิธีหนึ่งของมหาวิทยาลัย ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ถูกปลดถอดจากประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์
               เนติวิทย์จะเป็นหนึ่งในปาฐกของออสโล ฟรีดอม ฟอรัม งานประชุมประจำปีว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งเขาจะพูดเรื่องประชาธิปไตย การศึกษาและการเกณฑ์ทหาร ที่เขามองว่าเป็นความคร่ำครึล้าสมัย และตัดโอกาสยกระดับตัวเองของผู้ชายไทย

 

สื่อใหญ่สิงคโปร์จัด 5 คนไทยเข้าทำเนียบบุคคลน่าจับตา

พริษฐ์ วัชรสินธุ วัย 25 ปี กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ วัย 39 ปี


               สองหนุ่มที่ถูกจับตาในฐานะหน้าใหม่สุดในการเมืองไทย นับจากรัฐประหารเมื่อปี 2557 ทั้งคู่มีความฝันทางการเมือง มาจากครอบครัวร่ำรวยและมีบทบาท
               พริษฐ์ เป็นหลานชายของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปร่ำเรียนที่อีตันคอลเลจ และจบปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์ การเมืองและปรัชญา มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
               ธนาธร ทายาทกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ไทย ซัมมิต ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิ์ที่ทำกินสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาถูกมองว่าเป็นนักธุรกิจที่มีจิตสำนึกสังคม และนักอุดมคติที่ปฏิบัติได้ 
               ทั้งสองกำลังผลักดันแนวคิดปฏิรูปเสรีนิยมของตัวเอง และพร้อมลงเลือกตั้งทั่วไปในคราวหน้า ซึ่งเชื่อว่าทุกสายตาจะจับจ้องว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวไทย จะเทใจให้กับความกระตือรือร้น สติปัญญา และคำสัญญาประชาธิปไตยที่มีอนาคตจากสองคนนี้หรือไม่ในวัยที่ถือว่ายังหนุ่มอยู่มาก

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ