รัสเซียอ้างว่าระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียสกัดครูซมิสไซล์อย่างมีนัยสำคัญ จากที่ระดมยิงไปกว่าร้อยลูก
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เครื่องบินรบและเรือรบสหรัฐกับพันธมิตร ระดมยิงขีปนาวุธ และขีปนาวุธชนิดพื้นสู่อากาศกว่า 100 ลูกโจมตีสถานที่ตั้งทางทหารและพลเรือนในซีเรีย แต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสกัดไว้ได้จำนวนมาก โดยที่หน่วยป้องกันทางอากาศของรัสเซียไม่ได้เกี่ยวข้อง
“ขีปนาวุธจำนวนไม่น้อยถูกระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียที่สร้างโดยสหภาพโซเวียตเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ยิงตก” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส มาจากเรือรบสหรัฐ 2 ลำที่ประจำการในทะเลแดง การสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเครื่องบินทิ้งระเบิด ร็อคเวลล์ บี-แลนซอร์ จากฐานทัพอากาศ”อัล-ทานฟ์”ของพันธมิตรนำโดยสหรัฐ ที่จังหวัดฮอมส์ ของซีเรีย
รัสเซียไม่ได้ประจำการระบบป้องกันทางอากาศในซีเรีย เพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธจากสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุก่อนหนานี้ ไม่มีขีปนาวุธสหรัฐและพันธมิตรลูกใดเฉียดใกล้เขตที่อยู่ในความคุ้มครองทางอากาศของรัสเซีย เหนือเมืองท่าทาร์ทัส และฐานทัพอากาศ Khmeimim
สนามบินทหาร Al-Dumayr ของซีเรียที่อยู่ห่างจากกรุงดามัสกัส ไปทางตะวันออก 40 กิโลเมตร ถูกขีปนาวุธโจมตี 12 ลูก แต่ระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียสกัดได้หมด
ก่อนหน้านั้น รัฐบาลดามัสกัสได้เตรียมพร้อมรับการโจมตี โดยติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธชนิดพื้นสู่อากาศที่สร้างในสมัยโซเวียต รวมถึง S-125 S-200 2K12 Kub และ Buk
พล.อ.โจ ดันฟอร์ด ประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ กล่าวว่า การโจมตีเพื่อลงโทษซีเรียใช้อาวุธเคมี พุ่งเป้าเป้าหมาย 3 แห่งเกี่ยวข้องกับโครงการอาวุธเคมี ได้แก่ ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ใกล้เมืองหลวง โกดังอาวุธในเมืองฮอมส์ และเป้าหมายที่สาม เป็นกองบัญชาการและคลังเก็บวัสดุในพื้นที่เดียวกัน ทั้งสามเป้าหมายชัดเจนว่าห่างไกลกับที่ตั้งหรือบุคลากรของรัสเซีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง