ข่าว

อดีตผู้บริหารชี้ "เฟซบุ๊ก" ทำลายสังคม 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตผู้บริหารเฟซบุ๊ก ชี้อันตรายของสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีต่อสังคมทั่วโลก

 

          ชามัท พาลีหปิติยา ( Chamath Palihapitiya )อดีตผู้บริหารเฟซบุ๊ก กล่าวว่า เขารู้สึกผิดมากที่มีส่วนสร้างเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ทางสังคม ทั้งแนะนำให้ผู้คนพักตัวเองจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างจริงจัง

          ความเห็นของชามัท มีขึ้นระหว่างร่วมงานเสวนาที่สแตนฟอร์ด บิสเนสส สกูล เมื่อเดือนพฤศจิกายน และเว็บไซต์ข่าว Verge ได้นำมาเผยแพร่ในสัปดาห์นี้

          ชามัท เข้าทำงานในเฟซบุ๊กเมื่อปี 2550 และเคยนั่งตำแหน่งรองประธานฝ่ายขยายการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ ก่อนลาออกในปี 2554 ปัจจุบันเป็นผู้บริหารบริษัท โซเชียล แคปปิตัล ที่มุ่งให้ทุนสนับสนุนบริษัทด้านการดูแลสุขภาพและการศึกษา

          การวิจารณ์ของเขาไม่ได้หมายถึงเฟซบุ๊กเท่านั้น แต่หมายรวมถึงระบบนิเวศออนไลน์ทั้งหมดว่า ไม่ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็น ไม่ร่วมมือกัน ข้อมูลผิด และลดทอนความจริง ระบบฟีดแบ็กที่สร้างขึ้นมา ที่รวมถึงการแสดงออกด้วยการให้หัวใจ กดไลค์ หรือยกนิ้วหัวแม่มือ ล้วนทำลายการทำงานของสังคม

          “ไม่ใช่ปัญหาของอเมริกา ไม่ใช่แค่เรื่องการลงโฆษณาของรัสเซีย นี่เป็นปัญหาของโลก มันกำลังกัดกร่อนถึงฐานรากพฤติกรรมระหว่างกัน” อดีตรองประธานเฟซบุ๊กกล่าว และได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอินเดียที่มีการแชร์ข้อมูลมั่วบนแอพพลิเคชั่น WhatsApp (ซึ่งเป็นของเฟซบุ๊ก) นำไปสู่การประชาทัณฑ์ผู้บริสุทธิ์ 7 คน

          ชามัท กล่าวว่า เขาไม่สามารถควบคุมสื่อสังคมออนไลน์ได้ แต่คุมการตัดสินใจของตัวเองได้ด้วยการใช้เฟซบุ๊กน้อยที่สุด และควบคุมการตัดสินใจของลูกได้ ด้วยการไม่อนุญาตให้ใช้ นอกจากนี้เขายังแนะนำให้ผู้ฟังการเสวนาในวันนั้น สำรวจความสัมพันธ์ของตัวเองกับสื่อสังคมออนไลน์ หลายคนไม่รู้ตัวว่าพฤติกรรมของเรากำลังถูกตั้งโปรแกรมไว้ แต่ขณะนี้ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะยอมจำนน และเป็นอิสระทางความคิดแค่ไหน กระนั้นเขายังเชื่อว่า ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กทำเรื่องดีๆแก่โลกมากมาย

 

 

          เมื่อเดือนที่แล้วเช่นกัน ฌอน พาร์คเกอร์ อดีตประธานรุ่นก่อตั้ง ที่เคยช่วยสร้างเฟซบุ๊กจนกลายเป็นบริษัททรงอิทธิพล แต่รู้สึกเสียใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในวันนี้ พาร์คเกอร์ วิจารณ์ว่าเฟซบุ๊กและสื่อสังคมออนไลน์อื่น ประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากความเปราะบางในจิตใจคน ผ่านวงจรฟีดแบ็กที่ทำให้คนโพสต์เพื่อยอดไลค์และความเห็น "การใช้เฟซบุ๊คเหมือนกับอาหารขยะ คุณได้ความพึงพอใจทันทีเมื่อโพสต์เพื่อยอดไลค์และความเห็น มันเร็วและง่ายแต่แก่นสารน้อยนิด" 

          อดีตผู้บริหารยักษ์ใหญ่สังคมออนไลน์ออกมาแสดงความเห็นเชิงต่อต้าน ในห้วงเวลาที่หลายฝ่ายกำลังเพ่งเล็งอิทธิพลของเฟ๊ซบุ๊กอย่างไร้ขีดจำกัด ปีที่แล้วบทบาทของเฟซบุ๊กต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นประเด็นใหญ่ ตามด้วยข้อกังขาถึงศักยภาพของเฟซบุ๊กในการขยายข่าวลวงโลก หรือบทบาทของเฟซบุ๊กที่ทำให้ปัญหาการฆ่าล้างชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์ทวีความสับสน

...........................................
ที่มา : Stanford Graduate School of Business

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ