ฮุนเซนหมดคู่แข่งศาลสั่งยุบพรรคฝ่ายค้าน

                    ในที่สุดศาลสูงกัมพูชามีคำพิพากษาให้ยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศ จากความผิดคบคิดสหรัฐและกลุ่มคนในต่างประเทศวางแผนก่อปฏิวัติ ตามที่รัฐบาลเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านพยายามยึดอำนาจรัฐบาล โดยก่อปฏิวัติสี แบบในยูโกสลาเวีย เซอร์เบีย และตูนิเซีย
                   คำตัดสินยุบพรรคมีผลให้นักการเมือง 118 คนของพรรค ถูกห้ามเล่นการเมือง 5 ปีนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษา ทำให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เตรียมทำศึกเลือกตั้งทั่วไปปีหน้าแบบปราศจากคู่แข่ง
                    ประธานผู้พิพากษา ดิท มุนที กล่าวว่า เมื่อพรรคซีเอ็นอาร์พี ไม่ส่งทนายเข้าแก้ต่างก็เท่ากับเป็นการสารภาพตามข้อหารัฐบาลไปโดยปริยาย
                    พนมเปญโพสต์ รายงานว่า ภายใต้กฎหมายการเลือกตั้งฉบับแก้ไขใหม่ ซีเอ็นอาร์พีจะสูญเสียตำแหน่งหัวหน้าคอมมูนทั้งหมด 489 ที่นั่ง และเก้าอี้ส.ส. ทั้ง 55 ที่นั่ง
                    คำตัดสินประวัติศาสตร์ไม่ได้เหนือความคาดหมาย นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ผู้นำที่ผูกขาดบริหารประเทศนาน 32 ปี แสดงความมั่นใจก่อนหน้านี้แล้วว่าศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายค้านมีความผิดอย่างแน่นอน ทั้งยังเรียกร้องให้ส.ส.ซีเอ็นอาร์พีมาลงเรือลำเดียวกันก่อนถูกยุบพรรค นอกจากนี้ระบบยุติธรรมกัมพูชาก็ถูกมองว่าไม่ได้เป็นอิสระ ประธานผู้พิพาษา ดิท มุนที เอง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการประจำพรรคซีพีพีของฮุน เซน

                    การยุบพรรคถือเป็นการปิดท้ายกระบวนการบั่นทอนพรรคฝ่ายค้านหลักเรื่อยมาด้วยข้อหาและคดีความต่างๆ นับตั้งแต่ซีเอ็นอาร์พี เขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ในศึกเลือกตั้งปี 2556 โดยกวาดที่นั่งมากเกินความคาดหมาย รวมถึงเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อกลางปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับฝ่ายค้านก่อนเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ก่อนที่ต่อมา ทางการกัมพูชาจับกุมนายเกิ้ม สกคา ผู้นำพรรคซีเอ็นอาร์พี ในข้อหาทรยศชาติคบคิดสหรัฐโค่นล้มรัฐบาล และถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำห่างไกลเมืองหลวงใกล้ชายแดนเวียดนาม แกนนำพรรคและส.ส.อีกหลายสิบคนจึงพากันหลบหนีออกนอกประเทศด้วยเกรงจะถูกดำเนินคดี นอกจากฝ่ายค้านแล้ว คัมโบเดียเดลีย์ สื่อภาษาอังกฤษที่เป็นสื่ออิสระที่เหลือน้อยแล้วก็ต้องปิดสำนักงานหลังรัฐบาลสั่งเรียกเก็บภาษีก้อนโต
                    ด้านนายชารลส์ ซานติอาโก ประธานกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน จากมาเลเซีย กล่าวว่า ศาลสูงกัมพูชาตอกตะปูปิดฝาโลงประชาธิปไตยกัมพูชา คำตัดสินไม่เพียงทำให้กัมพูชาปราศจากพรรคค้านที่แท้จริงขณะเหลือเวลาก่อนเลือกตั้งไม่ถึงปี แต่ยังบ่อนทำลายกรอบการทำงานของสถาบันและหลักนิติรัฐของกัมพูชาอย่างสิ้นเชิง