เล็งคว่ำบาตรองค์กรจีนหนุนนิวเคลียร์‘โสมแดง’

           หลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ให้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ขณะนี้คาดว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรให้ครอบคลุมองค์กรในประเทศจีนหรือประเทศอื่นๆที่มีบทบาทสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

           บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระบุว่า แม้รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ตัดตัวเลือกการใช้กำลังทหารออกในการจัดการกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่รัฐบาลสหรัฐก็ไม่น่าจะชิงโจมตีก่อนเพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้

           สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จากการที่เกาหลีเหนือมีความคืบหน้ารวดเร็วกว่าที่คาดไว้ในเรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสและเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ ได้เรียกร้องให้ออกมาตรการกดดันเกาหลีเหนือในระดับสูงสุด โดยไม่ต้องรอความเห็นชอบหรือความร่วมมือจากจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ขัดขวางข้อเสนอของสหรัฐ ในการรวมคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือเข้าไปในมาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุด

           หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ฉบับเมื่อวานนี้ ระบุว่า นายเอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนฯสหรัฐ ได้เรียกร้องให้นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายจิม แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยกระดับมาตรการลงโทษต่อองค์กรในประเทศจีนที่มีบทบาทสนับสนุนกิจกรรมอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของเกาหลีเหนือ

           เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือได้อ้างความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและสามารถบรรจุเข้าไปในหัวรบของขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ที่อาจบินไกลได้ถึงดินแดนสหรัฐ นายรอยซ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับจอช โรจิน คอลัมน์นิสต์ประจำบทความข้างต้นว่า “ผมเชื่อว่าเราต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงให้สิ้นซาก เน้นที่สถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน”

           ทั้งนี้ จีนนับเป็นท่อน้ำเลี้ยงหลักของเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ โดยเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของเกาหลีเหนือด้วยสัดส่วนประมาณ 90% ของทั้งหมด และยังเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ของเกาหลีเหนือด้วย

           นายโรจิน คอลัมน์นิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ระบุว่า ทางคณะกรรมการของนายรอยซ์ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลสหรัฐ พร้อมรายชื่อองค์กรรายใหญ่ๆของจีนที่เห็นว่าควรถูกคว่ำบาตร ในจำนวนนี้รวมถึงธนาคารไชนีส อะกริคัลเจอรัล แบงก์ และไชน่า เมอร์แชนท์ แบงก์