ข่าว

ศาลฏีกาบังคับใช้คำสั่งห้าม6ชาติมุสลิมเข้าสหรัฐ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลฎีกาสหรัฐ พิพากษาห้ามนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิมและผู้ลี้ภัยทั้งหมดเข้าสหรัฐชั่วคราว ถือเป็นคำตัดสินที่บ่งชี้ถึงชัยชนะของประธานาธิบดีทรัมป์ 

 

          ศาลฎีกาลดขอบเขตคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่พิพากษาระงับคำสั่งพิเศษของนายทรัมป์ ที่ออกเมื่อวันที่ 6 มี.ค.อย่างสิ้นเชิง โดยรับวินิจฉัยการยื่นอุทธรณ์ของรัฐบาลในการพิจารณาครั้งต่อไป 

          ทั้งนี้ ศาลฎีกาจะเริ่มทำการไต่สวนกรณีดังกล่าวในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งระหว่างนี้ ศาลจะอนุญาตให้มีการบังคับใช้คำสั่งห้ามดังกล่าวในบางส่วน ระหว่างที่การพิจารณาคดีกำลังดำเนินไป 

          คณะผู้พิพากษาอนุมติคำร้องขอฉุกเฉินบางส่วนของรัฐบาล ที่ขอให้คำสั่งมีผลบังคับใช้ทันทีระหว่างการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่ศาลบอกว่า คำสั่งแบนจะมีผลบังคับใช้เฉพาะกับชาวต่างชาติที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับบุคคลหรือองค์กรใดๆในสหรัฐ และจะอนุญาตให้บังคับใช้คำสั่งห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 120 วัน เปิดทางให้รัฐบาลคัดผู้ขอลี้ภัยที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบุคคลหรือองค์กรสหรัฐอย่างแท้จริง ออกจากแผ่นดินอเมริกา 

          เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา นายทรัมป์ ลงนามคำสั่งห้ามพลเมืองจากประเทศมุสลิมฉบับใหม่ โดยห้ามนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิม ประกอบด้วย ลิเบีย, อิหร่าน, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรียและเยเมน เดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 120 วัน เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลใช้กระบวนการขัดกรองต่างๆเข้มงวดขึ้น แต่ถูกขัดขวางจากศาลหลายแห่ง ก่อนจะมีผลบังคับใช้ตามแผนในวันที่ 16 มี.ค. 

          การออกคำสั่งของนายทรัมป์ มีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อเหตุโจมตีก่อการร้ายจากฝีมือของพวกนักรบอิสลามิสต์ ทั้งในกรุงปารีส, ลอนดอน, บรัสเซลส์, เบอร์ลินและเมืองอื่นๆ แต่ฝ่ายเห็นต่างวิจารณ์ว่า เป็นคำสั่งที่สะท้อนถึงความใจแคบและไม่เป็นอเมริกัน 

          รัฐฮาวายและกลุ่มโจทก์ในแมรีแลนด์ ซึ่งมีสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันเป็นตัวแทน อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางและรัฐธรรมนูญที่ห้ามรัฐบาลเลือกปฏิบัติกับศาสนาใดกับศาสนาหนึ่ง โดยศาลอุทธณ์ภาคในเวอร์จิเนียและแคลิฟอร์เนีย ต่างพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในการห้ามคำสั่งดังกล่าว
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ