"ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์" วิจารณ์ชาวเยอรมันร้ายกาจ หลังสหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการขาดดุลมากที่สุดอันดับ 2 รองจากจีน
27 พ.ค. 60 - นิตยสารเดอ สปิเกล ของเยอรมนี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐวิจารณ์ชาวเยอรมันว่า “ร้ายกาจ” หลังจากที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนีในปีที่แล้ว
คำวิจารณ์ของผู้นำสหรัฐ มีขึ้นระหว่างพบกับบรรดาผู้นำยุโรป ได้แก่ นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมจี7 ที่เมืองตาออร์มินา ประเทศอิตาลีในเวลาต่อมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ก็เข้าร่วมการประชุมจี7 ครั้งนี้ด้วย
สื่อเยอรมนี รายงานว่า การลดการขาดดุลการค้าสหรัฐ ถือเป็นภารกิจอันดับแรกสุดของผู้นำสหรัฐ โดยนายทรัมป์ตำหนิการเกินดุลการค้าของเยอรมนีว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า และให้คำมั่นว่าจะยุติการจำหน่ายรถยนต์เยอรมันในสหรัฐ
รายงานเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุม นายยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับปธน.ทรัมป์ และปกป้องแนวคิดการค้าเสรี
ในเวลาต่อมา นายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นอีซี) ออกมาขยายความคำพูดของปธน.ทรัมป์ โดยระบุว่า ปธน.ทรัมป์เชื่อว่า เยอรมนีร้ายกาจ เรื่อง “การค้า” เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับประเทศเยอรมนีในภาพรวม และบิดาของนายทรัมป์เองก็มาจากเยอรมนี
สำหรับนายเฟรด ทรัมป์ บิดาของปธน.ทรัมป์ เกิดในนครนิวยอร์กและมีเชื้อสายเยอรมัน เนื่องจากบิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวเยอรมัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมกราคม ปธน.ทรัมป์ เคยให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมนีและวิจารณ์การค้าของเยอรมนีมาแล้วโดยระบุ ว่า การค้ารถยนต์ของเยอรมนีอยู่ในลักษณะที่ห่างไกลจากคำว่าสมดุล
ทั้งนี้ ในปี 2559 สหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนี 6.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลมากที่สุดอันดับ 2 รองจากจีน และการนำเข้ารถยนต์ ตลอดจนรถบรรทุกจากเยอรมนี เป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง