ข่าว

บึ้ม! แมนเชสเตอร์ สะท้อน'โลนวูล์ฟ'ระบาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เหตุระเบิดโจมตีแมนเชสเตอร์ ผู้ก่อการร้ายใช้กลยุทธ์ “หมาป่าเดียวดาย” หรือ “โลนวูล์ฟ” เป็นที่นิยม-ป้องกันยาก

 

                
               จากเหตุการณ์โจมตีที่คอนเสิร์ตของ “อาเรียนา แกรนเด” นักร้องชื่อดังชาวอเมริกันที่แมนเชสเตอร์ อารีนาในเมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค. ที่คนร้ายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในห้องโถงของแมนเชสเตอร์ อารีนาขณะที่ผู้ชมหลายพันคนกำลังทยอยเดินออกมาจากสถานที่จัดทันทีที่คอนเสิร์ตของนักร้องสาวจบลง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 59 คน สะท้อนถึงแนวโน้มล่าสุดในการก่อเหตุของกลุ่มก่อการร้ายที่ใช้วิธีลงมือเพียงลำพัง หรือที่เรียกว่า “โลนวูล์ฟ” กันมากขึ้น
               นายเอียน ฮอพกินส์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์แถลงว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดมีเด็กอายุเพียง 8 ขวบรวมอยู่ด้วย และเชื่อว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ติดระเบิดทำขึ้นเองไว้กับตัว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนว่าคนร้ายกระทำการเองเพียงลำพัง หรือเป็นสมาชิกของเครือข่ายก่อการร้ายใดหรือไม่
               อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดครั้งนี้แล้ว และบอกว่า สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม นำอุปกรณ์จุดระเบิดเข้าไปในสถานที่รวมตัวของ “คนนอกรีต”

 

บึ้ม! แมนเชสเตอร์ สะท้อน'โลนวูล์ฟ'ระบาด


               นายริชาร์ด เฟนนิง ซีอีโอของ “คอนโทรล ริสค์” บริษัทที่ปรึกษาด้านการเมืองในอังกฤษ มองว่า การโจมตีหลายครั้งหลังสุดบนแผ่นดินยุโรปทำให้เห็นถึงพัฒนาการของผู้ที่ถูกปลูกฝังแนวคิดสุดโต่ง เช่นเดียวกับเหตุการณ์โจมตีบริเวณสะพานเวสต์มินสเตอร์ใกล้กับรัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา คนเหล่านี้เลือกที่จะไม่เป็นจุดเด่นในสังคม ประกอบกับมีปัญหาส่วนตัวที่นำไปสู่การแยกตัวเองออกจากสังคมและพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง
               นอกจากนี้ นายเฟนนิงเตือนว่า หากมองในภาพกว้าง การโจมตีด้วยวิธีโลนวูล์ฟอาจคาดการณ์และป้องกันได้ยากกว่าสำหรับเจ้าหน้าที่
               ขณะที่นายเฟรด เบอร์ตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของบริษัทสแตรทฟอร์ และอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ บอกว่า การกำหนดเป้าหมายของมือระเบิดฆ่าตัวตายมีเจตนาเพื่อสังหารคนโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการลงมือที่วางแผนมาเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าเป็นปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสายตาของใครก็ตามที่ก่อเหตุ
               ด้านนายเบอร์ตันระบุว่า การยืนยันเพศของผู้ทำระเบิดอาจเป็นตัวช่วยสำคัญ ซึ่งจากประสบการณ์ของเขา เบาะแสนี้จะช่วยแกะรอยกิจวัตรของบุคคลนั้นในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุดได้ และที่สำคัญคือเครือข่ายของผู้ก่อเหตุ

 

บึ้ม! แมนเชสเตอร์ สะท้อน'โลนวูล์ฟ'ระบาด


               ส่วนนายชาแชงค์ โจชิ นักวิชาการอาวุโสของสถาบันรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิสเซส บอกว่า ประเด็นสำคัญที่สุดคือตำรวจพบศพที่เชื่อว่าเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายแล้ว หากสามารถระบุตัวตนของเขา เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถเริ่มแกะรอยความเคลื่อนไหว การติดต่อ และประวัติของคนร้ายได้ เพื่อวิเคราะห์ว่าเขาลงมือคนเดียว หรือมีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น ๆ หรือเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายหรือไม่
               อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ล่าสุดในเมืองแมนเชสเตอร์ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ก่อการร้ายก่อเหตุเพียงลำพัง โดยนอกเหนือจากเหตุโจมตีสะพานเวสต์มินสเตอร์แล้ว ในปีที่ผ่านมายังมีเหตุขับรถพุ่งชนฝูงชนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีและเมืองนีซของฝรั่งเศสด้วย
               เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว คนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนขณะร่วมงานวันชาติฝรั่งเศสในเมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 คน ต่อมาในเดือนธ.ค.ปีเดียวกัน คนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนเข้าไปในตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลินจนมีผู้เสียชีวิต 12 คน ขณะที่กลุ่มไอเอส อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีทั้งสองแห่ง
               ปัจจุบันกลุ่มไอเอสกำลังตกอยู่ใต้แรงกดดันอย่างหนักทั้งในซีเรียและอิรัก ซึ่งหนึ่งในฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายของกลุ่มไอเอสอย่างเมืองโมซุล กำลังถูกทวงคืนพื้นที่อย่างหนักจากกองทัพรัฐบาลอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากแนวร่วมปราบปรามกลุ่มไอเอสที่อังกฤษเข้าร่วมด้วย ซึ่งนั่นทำให้อังกฤษยังตกเป็นเป้า “ล้างแค้น”ของกลุ่มติดอาวุธต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ขอบคุณข้อมูล : ช่องนาว 26 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ