ไม่พลิก"มาครง-เลอเปน"เข้ารอบสองชิงประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

                กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เผยผลการตรวจนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่นับใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ปรากฎว่า เอ็มมานูเอล มาครง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจวัย 39 ปีที่สมัครในนามอิสระ ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 23.7%  ตามด้วย มารีน เลอ เปน หัวหน้าพรรคแนวร่วมแห่งชาติซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ได้คะแนน 21.9% เข้าไปชิงชัยในศึกเลือกตั้งรอบสอง 7 พฤษภาคมนี้    

                 เป็นครั้งแรกที่ไม่มีผู้สมัครคนใดจากพรรคหลักอย่าง รีพับลิกัน และโซเชียลิสต์ เข้าสู่รอบสองได้ในรอบ 60 ปี จึงถือว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของการเมืองระดับชาติ 

 

 

                มาครง ซึ่งไม่เคยลงเลือกตั้งมาก่อนและขึ้นแท่นเป็นประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ กล่าวต่อผู้สนับสนุนหลายพันคน ว่าผลเลือกตั้งสะท้อนถึงกระแสปฏิเสธพรรคการเมืองกระแสหลักดั้งเดิม ต้องการตัดขาดจากระบบที่ไม่สามารถหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆ ของประเทศมานานกว่า 30 ปี พร้อมให้คำมั่นว่า จะสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่ผู้รักชาติขณะผลักดันนโยบายสร้างการเมืองใหม่ฝรั่งเศส และยกระดับความทันสมัยรับมือกับเลอเปนและภัยคุกคามจากชาตินิยมสุดโต่ง 

                ด้าน มารีน เลอ เปน กล่าวว่า การเลือกตั้งรอบสอง จะเป็นการต่อสู้เพื่ออนาคตฝรั่งเศส และย้ำว่าประเด็นหลักการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การตีจากโลกาภิวัฒน์ ที่ทำให้อารยธรรมของฝรั่งเศสตกอยู่ในความเสี่ยง 

                ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยทันที เมื่อความหวาดกลัวที่ว่า ฝรั่งเศสอาจถอนตัวจากสหภาพยุโรปและระบบเงินตราสกุลเดียว ผ่อนคลายลง เนื่องจากมาครง เต็งหนึ่งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ทะลุเข้ารอบสองตามคาด มาครงเป็นคนที่สนับสนุนอียู เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลประธานาธิลดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ก่อนลาออกมาตั้งพรรคเอง

                ผลหยั่งเสียงเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์พบว่า มาครงที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจ จะเอาชนะเลอเปน ที่ชูนโยบายต่อต้านผู้อพยพและต้านอียู ในศึกเลือกตั้งรอบสอง 

                นักวิเคราะห์กล่าวว่า ชัยชนะของเลอ เปน ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อรวมคะแนนสนับสนุนกับผู้สมัครฝ่ายซ้ายที่ไม่เชื่อในอียู อย่าง ฌอง ลุค เมลองชง และนิโกลาส ดูปองต์ ไอนัน ผู้สมัครชาตินิยมแล้ว แตะเกือบ 50% แต่นักวิชาการผู้นี้ยังเชื่อว่าเลอเปนไม่น่าจะชนะ เพราะชัยชนะของเธอจะก่อผลสะเทือนต่อยุโรปและฝรั่งเศสอย่างมาก ขณะที่มาครง ได้เสียงผู้สนับสนุนที่เคยเทให้กับผู้สมัครจากพรรคใหญ่โซเชียลิสต์กับรีพับลิกันจากรอบแรกค่อนข้างแน่นอน