'ฮ่องกง'พัฒนายาต้านไข้หวัดนก'เอช7เอ็น9'

              
               คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงสามารถไขความลับของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 ว่า มีความสามารถสูงขึ้นในการแพร่เชื้อไปยังมนุษย์และเป็นหนึ่งในเชื้อไข้หวัดนกที่แพร่กระจายได้ง่ายได้อย่างไร ทำให้ฮ่องกงจะกลายเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนายาต้านไวรัสไข้หวัดนก
               บรรดานักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ดีเอ็นเอของไวรัส เอช7เอ็น9 ที่เก็บมาจากการแพร่ระบาดเมื่อปี 2556 และระบุการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ทำให้เชื้อไวรัสนี้สามารถปรับตัวเข้ากับเซลล์ของมนุษย์ได้ โดยผลวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์นานาชาติ “เนเชอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์” ในสัปดาห์นี้
               นายเฉิน หงหลิน ศาสตราจารย์จากห้องปฏิบัติการสำคัญด้านโรคระบาดเกิดใหม่ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะนักวิจัยชุดนี้ กล่าวว่า ผลวิจัยดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ต่อการเฝ้าระวังการเกิดและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในมนุษย์ และป้องกันการติดเชื้อระหว่างคนสู่คน เช่นเดียวกับการวางเป้าหมายใหม่สำหรับการพัฒนายาต้านไวรัสไข้หวัดนก
               เชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ เอช7เอ็น9 ได้รับการยืนยันครั้งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนมี.ค. 2556 โดยเริ่มจากแพร่ระบาดในประเทศก่อนจะลามไปถึงต่างประเทศ
               นับจนถึงวันเสาร์ (18 มี.ค.) ที่ผ่านมา ทั่วโลกยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9 รวมทั้งสิ้น 1,329 ราย นับตั้งแต่การแพร่ระบาดเมื่อปี 2556 และคร่าชีวิตผู้ป่วยไปแล้วอย่างน้อย 492 ราย
               รายงานไข้หวัดนกรายสัปดาห์ของศูนย์การป้องกันสุขภาพฮ่องกงระบุว่า ผู้ป่วยไวรัสชนิดนี้ส่วนใหญ่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่ฮ่องกงยืนยันจำนวนผู้ป่วยที่ 21 ราย และอีก 10 รายมาจากไต้หวัน แคนาดา มาเก๊า และมาเลเซีย
               นอกจากนี้ ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงยังพบการกลายพันธุ์ด้านพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์ เอช9เอ็น2 ที่เกิดจากสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 เมื่อปี 2556 รวมถึงยีนจากไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีนกป่าเป็นพาหะ ซึ่งวิวัฒนาการสู่ไวรัส เอช7เอ็น9 ที่สามารถแพร่สู่มนุษย์ได้
               นายเฉินระบุว่า เป็นเรื่องยากที่ไวรัสไข้หวัดนกจะแพร่สู่มนุษย์ แต่การกลายพันธุ์เฉพาะในกรณีนี้เกิดขึ้นอย่างเห็นชัดเจน แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเชื้อดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นในการแพร่ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน นอกจากนี้ยังไม่พบการกลายพันธุ์ลักษณะนี้ในไวรัสชนิดอื่นๆ
               อย่างไรก็ตาม นายเฉินเตือนว่า ตราบใดที่ผู้คนยังคลุกคลีกับสัตว์ปีกที่ติดเชื้อหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว ก็จะทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
               ทั้งนี้ สัญญาณและอาการของการติดเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9 ส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีไข้และไอ ในบางกรณี ผู้ป่วยสามารถเป็นโรคปอดบวมรุนแรง ช็อกจากภาวะติดเชื้อ และอวัยวะหลายอย่างทำงานล้มเหลว ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตได้