‘ไข้หวัดนก’ป่วนอุตสาหกรรมสัตว์ปีกเอเชีย

               ไข้หวัดนกกำลังแพร่ระบาดไปทั่วเอเชีย ซึ่งอาจจะลุกลามกลายเป็นการระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี หลังจากยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกเพิ่มขึ้นและมีไก่จำนวนมากถูกกำจัดในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ในความพยายามเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
               คณะกรรมาธิการสุขภาพและการวางแผนครอบครัวจีนรายงานว่า ในเดือน ม.ค.และ ก.พ.ที่ผ่านมา จีนมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก 140 ราย ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ถึง 147 ราย
               การระบาดของไข้หวัดนกระลอกนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีก เนื่องจากกระแสตื่นตระหนกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไก่ทำให้ราคาลดลงในจีน ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ต่างพึ่งพาการนำเข้าจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐ เพื่อผ่อนคลายภาวะขาดแคลนสินค้าภายในประเทศ
               องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ระบุว่า นับถึงต้นเดือน มี.ค. มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ “เอช7 เอ็น9” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในจีนขณะนี้ มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นรวมกันทั่วโลก
               ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ชี้ว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7 เอ็น9 ถูกตรวจพบครั้งแรกในจีนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และสามารถแพร่ไปยังมนุษย์และสัตว์ปีก แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ปีกมีชีวิตหรือสภาพแวดล้อมที่อาจปนเปื้อนเชื้อไวรัสดังกล่าว
               การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในจีนเท่านั้น แต่ที่เกาหลีใต้ยังเผชิญกับเชื้อไวรัสไข้วัดนกอีกสายพันธุ์หนึ่ง ทำให้รัฐบาลต้องสั่งกำจัดสัตว์ปีกไปแล้วกว่า 30 ล้านตัวทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่ในญี่ปุ่น ทางการได้กำจัดสัตว์ปีกไปแล้วหลายแสนตัว อีกทั้งยังพบการระบาดในพื้นที่อื่นๆ ของเอเชียยุโรป และสหรัฐในช่วงไม่กี่เดือนหลังสุด ซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดในฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซีของบริษัทในเครือ ไทสัน ฟู้ดส์ อิงค์ เมื่อต้นเดือน มี.ค.
               นายแนน-เดิร์ค มัลเดอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ราโบแบงก์ ระบุว่า ไข้หวัดนกสร้างความปั่นป่วนอย่างใหญ่หลวงในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกทั่วโลก ทั้งในแง่ของราคาและปริมาณสินค้า ขณะเดียวกันการที่จีนมีผู้ป่วยไข้หวัดนกจำนวนมาก ทำให้ความต้องการนำเข้าสัตว์ปีกลดลงในระยะสั้น
               ข้อมูลจากกระทรวงการเกษตรจีน ระบุว่า ราคาไก่เนื้อในจีนลดลง 1 ใน 3 จากเมื่อ 1 ปีก่อน ขณะที่ราคาไก่มีชีวิตลดลง 13% และแม้กระทั่งการนำเข้าไก่ยังลดลง 24% จากเมื่อปีที่แล้วในเดือน ม.ค.
               “บรรดาเกษตรกรต่างขายสัตว์ปีกในราคาต่ำกว่าท้องตลาด เพราะกระแสหวาดกลัวเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดนก” นายเฉิน เจียว นักวิเคราะห์ด้านการเกษตรของบริษัทโบรกเกอร์ “อินดัสเทรียล ซีเคียวริตีส์” กล่าว
               ขณะที่ในเกาหลีใต้ ราคาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไก่กลับสวนทางกัน หลังรัฐบาลกำจัดสัตว์ปีกจำนวนมากเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าภายในประเทศ เกาหลีใต้จึงต้องหันไปนำเข้าไข่หลายล้านฟองจากสหรัฐก่อนที่จะมีการระบาดในสหรัฐ
               นายเฉิน คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าในจีนจะฟื้นตัวเมื่อวิกฤตินี้ผ่อนคลายลง และว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่กำลังส่งผลกระทบในจีน มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายเร็วขึ้นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากเชื้อไวรัสไม่สามารถอยู่รอดได้ในฤดูร้อน และเมื่ออากาศอุ่นขึ้น สถานการณ์ก็อาจจะดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงการระบาดของไข้หวัดนกด้วย
               แม้ว่าจีนจะสั่งห้ามนำเข้าไก่จากสหรัฐเมื่อปี 2558 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับไข้หวัดนกในช่วงนั้น แต่บรรดาผู้นำเข้ารายอื่นๆ เช่น ไทย อาจได้รับประโยชน์จากความต้องการที่ฟื้นตัวขึ้น
               ทั้งนี้ กระทรวงการเกษตรสหรัฐคาดการณ์ว่า การนำเข้าไก่ของจีนจะเพิ่มขึ้นเกือบ 10% สำหรับทั้งปีนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นตามคาด จีนก็จะกลายเป็นผู้นำเข้าสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากเม็กซิโก