พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ไม่พอใจ อดีต ปธน. แถลง 'สักวันความจริงจะปรากฏ' เท่ากับไม่ยอมรับ-ท้าทายคำตัดสินของศาล
อดีตประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ ออกจากทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อคืนวันอาทิตย์ และออกแถลงการณ์ว่าสักวันความจริงจะปรากฏ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการท้าทายคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่อนุมัติถอดถอนพ้นตำแหน่ง
อดีตผู้นำหญิงคนแรก ออกจากทำเนียบประธานาธิบดี และกลับถึงบ้านพักส่วนตัวในย่านซัมเซียง-ดองในกรุงโซลเมื่อคืนวาน เพียงสองวันหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินตามมติของรัฐสภาให้ถอดถอนเธอพ้นตำแหน่ง เดิมเธอควรจะออกจากทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันศุกร์หลังทราบคำตัดสิน แต่ต้องล่าช้าสองวันเพราะรอการปรับปรุงบ้านพักส่วนตัว
อดีตโฆษกของเธอ เปิดเผยว่า ปักกล่าวกับผู้สนับสนุนที่มาต้อนรับหน้าบ้านพักอย่างเนืองแน่นว่า "ฉันขอโทษที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ครบวาระ และขอขอบคุณคนที่ไว้ใจและสนับสนุนฉัน" พร้อมกันนี้เธอกล่าวว่า พร้อมยอมรับผลลัพธ์ที่จะตามมาทั้งหมด แต่ก็แสดงความไม่เห็นด้วยกับกระบวนการถอดถอนและข้อกล่าวหาทุจริต โดยระบุว่า "อาจต้องใช้เวลา แต่ฉันเชื่อว่าความจริงจะปรากฏในที่สุด"
คำพูดของเธอสร้างความไม่พอใจให้พรรคฝ่ายค้านและกลุ่มนักเคลื่อนไหวซึ่งออกมาชุมนุมขับไล่เธอในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งของพรรคประชาธิปไตย กล่าวว่า คำแถลงของปักเป็นการไม่ยอมรับว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอื้อฉาว และเหมือนเป็นการท้าทายคำตัดสินของศาล พร้อมทั้งเตือนด้วยว่า ปักจะต้องเผชิญการสอบสวนของอัยการในฐานะผู้ต้องสงสัย และบอกด้วยว่าเธอได้ทิ้งโอกาสสุดท้ายในการขอโทษไปแล้ว
นอกจากนี้พรรคประชาชน ออกแถลงการณ์ระบุว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าของประเทศและของปัก ที่เธอไม่ยอมรับการกระทำผิดของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกถอดถอนพ้นตำแหน่ง และกลุ่มภาคประชาสังคมที่ชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์เรียกร้องให้อัยการดำเนินการห้ามปักออกนอกประเทศและจับกุมตัวเพื่อดำเนินการสอบสวนคดีอาญา
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันศุกร์วินิจฉัยว่าเธอละเมิดกฎหมายและใช้อำนาจในทางมิชอบที่ปล่อยให้ชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิท ก้าวก่ายกิจการของรัฐและบังคับให้ธุรกิจบริจาคเงินเข้ามูลนิธิของนางชเว มีผลให้ปักต้องพ้นตำแหน่งก่อนจะครบวาระ 5 ปีในเดือน ก.พ.ปีหน้า และรัฐบาลต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน รวมทั้งเธอยังถูกเพิกถอนเอกสิทธิคุ้มครอง ซึ่งจะทำให้อัยการสามารถดำเนินคดีอาญาและควบคุมตัวเธอได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง