ส่งฟ้องแล้วทายาทซัมซุง ข้อหาสินบน-ยักยอก 

                        ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า นายอี แจ ยอง รองประธานซัมซุม อิเล็กทรอนิกส์ จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีในข้อหาติดสินบน ยักยอก ซุกซ่อนทรัพย์สินในต่างประเทศและเบิกความเท็จ หลังจากอัยการพิเศษที่สอบสวนคดีทุจริตอื้อฉาวเขย่าการเมืองและธุรกิจที่ทำให้ประธานาธิบดีปักกึนฮเยถูกสภาลงมติถอดถอน  ส่งฟ้องศาลซึ่งถือเป็นการแจ้งข้อหาอย่างเป็นทางการต่อทายาทรุ่นสามแห่มซัมซุง  กลุ่มบริษัทใหญ่สุดของเกาหลีใต้ หลังจากศาลอนุมัติหมายจับและถูกควบคุมตัวในเดือนนี้่ 

                        การส่งฟ้องอี แจ ยอง และผู้บริหารอีก 4 คน ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้เผชิญความไม่แน่นอนยิ่งขึ้นไปอีก ขณะกำลังพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์จากการเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว  
                        หลังอัยการส่งฟ้องผู้บริหารระดับสูง ซัมซุง ออกแถลงการณ์สั้นๆความยาว 5 บรรทัด ว่าจะยุบสำนักงานยุทธศาสตร์อนาคต ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานการตัดสินเรื่องใหญ่ในต่างประเทศ เช่น การซื้อกิจการ หรือเริ่มธุรกิจใหม่ โดยซัมซุงระบุว่าเป็นแผนปฏิรูป 

                        อี  วัย 48 ปี ซึ่งขึ้นกุมบังเหียนอาณาจักรซัมซุงมาตั้งแต่บิดาล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเมื่อปี 2557 ถูกกล่าวหาจ่ายสินบนเกือบ 40 ล้านดอลลาร์ให้กับนางชเว ซุน ซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปักกึนเฮ เพื่อแลกกับนโยบายเอื้อต่อธุรกิจ นอกจากนี้ยังถูกกล่าวหาซุกซ่อนทรัพย์สินที่ยักยอกไป แต่เขาปฏิเสธข้อหาทั้งหมด ส่วนผู้บริหารคนอื่นๆเผชิญข้อหาเดียวกัน ยกเว้นเบิกความเท็จ 

                        การส่งฟ้องมีขึ้นขณะอัยการพิเศษที่ได้รับแต่งตั้งเมื่อธันวาคม มีกำหนดจะต้องโอนคดีกลับไปยังอัยการแห่งรัฐในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) หลังจากรัฐบาลปฏิเสธคำร้องขยายเส้นตายสอบสวนที่จะสิ้นสุดลงในวันนี้  ที่ผ่านมา อัยการพิเศษส่งฟ้องผู้ต้องสงสัย 29 คน รวมถึงอดีตรัฐมนตรีวัฒนธรรมและอดีตหัวหน้าที่ปรึกษาประธานาธิบดี หลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับอัยการเกาหลีใต้ว่าจะสอบสวนกลุ่มบริษัทอื่น อาทิ ฮุนได มอเตอร์ส และลอตเต หรือไม่ 

คดีอื้อฉาวมีศูนย์กลางที่ชเว ซุน ซิล ที่ถูกกล่าวหาใช้สัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปัก บีบบังคับบริษัทต่างๆบริจาคเงินเกือบ 70 ล้านดอลลาร์เข้ามูลนิธิที่เธอตั้งขึ้นเพื่อใช้แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว โดยซัมซุงเป็นผู้บริจาครายใหญ่สุด