แรงงานอินโดนีเซียอ้างถูกขโมยไตโดยไม่รู้ตัว ระหว่างไปทำงานในกาตาร์เมื่อสามปีก่อน
สรี ราบิตาห์ สตรีอินโดนีเซียวัย 25 ปีที่เข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านในกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ เมื่อปี 2557 เผยสื่อในประเทศเมื่อวานนี้ ( 27 ก.พ.)ว่า เพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเมื่อไม่นาน หลังเดินทางกลับบ้านที่เกาะล็อมบอก และไปโรงพยาบาลเพราะปวดหลัง หมอบอกกับเธอว่าไตของเธอหายไปหนึ่งข้าง
ราบิตาห์ เป็นหนึ่งในสตรีอินโดนีเซียหลายล้านที่เข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยแม่บ้านในประเทศร่ำรวยน้ำมัน เดิม เธอเข้าใจว่าจะถูกส่งไปทำงานกับครอบครัวหนึ่งในกรุงอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่สุดท้าย ไปทำงานให้กับนายจ้างชาวปาเลสไตน์ ที่โดฮา ประเทศกาตาร์
วันที่ 3 หลังทำงาน นายจ้างบอกให้เธอไปตรวจร่างกาย ระหว่างนั้น หมอวางยาสลบโดยไม่ได้ขอความยินยอม แค่บอกว่าเธอร่างกายอ่อนแอ ขอให้ทำใจให้สบาย เธอจำได้ว่าถูกส่งเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ก่อนตื่นขึ้นมาอีกครั้งในวันถัดไปด้วยความเจ็บปวด กับมีรอยเย็บแผลผ่าตัดที่ท้อง เธออ้างว่านายจ้างไม่เคยอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น และส่งเธอกลับสำนักจัดหางาน
แม้ว่าต่อมา เธอได้นายจ้างคนใหม่ แต่ที่สุดก็ถูกส่งกลับบ้านในปีเดียวกันนั้น เพราะเธอล้มป่วยบ่อย
ราบิตาห์ ซึ่งมีกำหนดเข้ารับการผ่าตัดในสุดสัปดาห์นี้ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลช่วยฟ้องเอาผิดคนที่ขโมยไตของเธอ
จาการ์ตาโพสต์ อ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า ราบิตาห์ตกเป็นเหยื่อของการค้าอวัยวะ และเรียกร้องสอบสวน
อินโดนีเซียสั่งห้ามสตรีไปทำงานในตะวันออกกลางในปี 2558 หลังพบว่ามีหลายคนตกเป็นเหยื่อค้าอวัยวะและล่วงละเมิด โดยกาตาร์เป็นหนึ่งในประเทศต้องห้าม กระนั้น สตรีหลายพันยังคงไปหางานทำที่นั่นอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง