ฮิปโปตายหลังถูกทำร้ายเลือดเย็นในสวนสัตว์ 

 

                     "กุสตาบีโอ" ฮิปโปอายุ 15 ปี ดาวเด่นของอุทยานสวนสัตวศาสตร์แห่งชาติ ทางใต้ของกรุงซานซัลวาดอร์ เมืองหลวงของเอลซัลวาดอร์  ถูกคนร้ายจำนวนหนึ่ง บุกเข้าไปใช้ท่อนโลหะ มีดและก้อนหิน ทุบตีและแทงที่ท้อง จมูกและอีกหลายจุดทั่วร่างกาย เมื่อคืนวันพุธที่แล้ว ทำให้มันซมทรมานอยู่นาน 4 วันและตายลงในที่สุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.)

                    เจ้าหน้าที่สวนสัตว์สังเกตเห็นอาการผิดปกติในเช้าหลังวันเกิดเหตุ  กุสตาบีโอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในกรง ไม่ออกมากินอาหารเหมือนอย่างเคย  เมื่อสัตวแพทย์มาตรวจจึงพบแผลฟกช้ำ แผลเหวอะที่หัวและลำตัว เป็นตะคริวและปวดช่องท้อง นอกจากนี้ ยังพบแผลที่เท้า บาดแผลลึกที่แก้มซึ่งน่าจะเกิดจากวัตถุปลายแหลม ตลอดจนแผลภายในปากซึ่งน่าจะเกิดจากความพยายามป้องกันตัว ต่อมา เจ้าหน้าที่่ยังพบก้อนหินและเศษโลหะอยู่ในบริเวณนั้น สัตวแพทย์เตรียมผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป 

 

 

                    ซิลเบีย เรกาลาโด รัฐมนตรีวัฒนธรรมเอลซัลวาดอร์ กล่าวว่า สัตวแพทย์และคนงานที่อุทยานสวนสัตวศาสตร์ พยายามกันอย่างสุดชีวิตตลอด 24 ช.ม. เพื่อช่วยชีวิตของฮิปโป แต่ก็ไม่สำเร็จ  เธอรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดเหตุอย่างสุดซึ้ง ด้าน เมารีซีโอ เบลาสเกซ ประธานมูลนิธิสัตววิทยากล่าวว่า ไม่อยากจะเชื่อว่า มีคนทำกับสัตว์ที่ไร้ทางป้องกันตัวแบบนี้ได้  

 

  

                 อุทยานแห่งนี้เลิกซื้อสัตว์มาเพิ่มเมื่อ 8 ปีก่อน และอยู่ระหว่างเปลี่ยนโฉมเป็นศูนย์คุ้มครองและสงเคราะห์สัตว์พื้นถิ่น กุสตาบีโอเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์ เข้าไปอยู่ในเอลซัลวาดอร์นานกว่า 12 ปีหลังถูกนำมาจากกัวเตมาลา  ชาวสังคมออนไลน์โกรธแค้นกับเหตุการณ์นี้ เรียกร้องตำรวจหาตัวคนร้ายให้ได้และร่วมไว้อาลัยกับฮิปโป