ข่าว

ศึกฆ่าล้างตระกูลหรือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดโลกวันอาทิตย์....บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์


 

                    ใครที่ชอบดูซีรีส์จักรๆ วงศ์ๆ ของแดนโสมขาวเกาหลีใต้ แม้กระทั่งในซีรีส์อมตะตลอดกาลอย่าง แดจังกึม จะเห็นวิธีกำจัดศัตรูอย่างแนบเนียนด้วยการใช้ยาพิษผสมในอาหารหรือเครื่องดื่ม จนถึงขณะนี้การใช้ยาพิษก็ยังเป็นรูปแบบการลอบสังหารยอดนิยมในแดนโสม รวมทั้งในกลุ่มประเทศสังคมนิยม หรือในกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ ซึ่งต่างได้พัฒนาวิธีใช้ยาพิษ-สารพิษให้ได้ผลรวดเร็ว ออกฤทธิ์ในวงกว้างและแนบเนียนมากขึ้น

 

 

ศึกฆ่าล้างตระกูลหรือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ

 

                    เหยื่อลอบสังหารด้วยสารพิษรายล่าสุดก็คือ คิม จองนัม เทวดาตกสวรรค์แห่งแดนโสมแดงที่ต้องเร่ร่อนเที่ยวสิงสถิตตามบ่อนการพนันในมาเก๊า มาเลเซีย สิงคโปร์ และกรุงปารีส เมื่อถูกผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็นมือสังหาร 2 คน ใช้สารพิษฉีดพ่นเข้าที่ใบหน้า ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ขณะเตรียมขึ้นเครื่องบินของสายการบินโลว์คอสต์กลับไปมาเก๊า โดยใช้พาสปอร์ตในชื่อปลอมว่า คิม ชอล ตามชื่อของอดีตทหารใหญ่ของโสมแดงที่ถูกกำจัดไปแล้ว ก่อนที่คิม จองนัม จะเสียชีวิตขณะถูกหามส่งโรงพยาบาลปุตราจายา

                    เพียงไม่กี่นาทีที่ข่าวการเสียชีวิตของคิม จองนัม วัย 45 ปี กระจายไปทั่ว สื่อต่างๆ ต่างรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นฝีมือของสายลับหญิงของแดนโสมแดงเกาหลีเหนือ ตามคำบัญชาประกาศิตของผู้นำ คิม จองอึน น้องชายต่างแม่ที่อยากกำจัดเสี้ยนหนามตำตาให้หมด โดยไม่สนใจว่าจะเป็นพี่น้องร่วมพ่อเดียวกันก็ตาม ส่วนมือสังหารและผู้สนับสนุนที่ถูกจับได้อย่างน้อย 2-3 รายแม้จะใช้พาสปอร์ตของเวียดนามและอินโดนีเซีย แต่เชื่อกันว่าอาจจะเป็นสายลับโสมแดงที่ปลอมตัวมา

 

ศึกฆ่าล้างตระกูลหรือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ

 


                    สื่อโดยเฉพาะสื่อตะวันตกต่างวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่าแรงจูงใจที่ทำให้คิม จองอึน สั่งฆ่าคิม จองนัม เป็นเพราะไม่พอใจที่พี่ชายต่างแม่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกรักจนทำท่าจะเป็นทายาทการเมืองของอดีตผู้นำคิม จองอิล ผู้เป็นพ่อก่อนจะกลายเป็นลูกชัง กระทั่งถูกอัปเปหิจากแผ่นดินเกิดไปใช้ชีวิตในต่างแดนค่าที่เป็นลูกไม่รักดี ทำตัวเป็นเพลย์บอยและเป็นปีศาจพนันจนหมดเนื้อหมดตัว ต้องหากินด้วยการขายข่าวของตระกูลคิม รวมทั้งข่าวของน้องชายต่างแม่ให้สื่อตะวันตกโดยเฉพาะสื่อญี่ปุ่น ไม่นับรวมการพยายามสร้างภาพว่าตัวเองไม่เห็นด้วยกับระบบการสืบทอดอำนาจจากพ่อสู่ลูกเหมือนกษัตริย์โบราณ อีกทั้งยังสนิทสนมกับจาง ซองแท็ก อาเขยที่ถูกคิม จองอึน สั่งประหารด้วยวิธีโหดเหี้ยม จึงทำให้น้องชายต่างแม่ไม่พอใจ กระทั่งวางแผนจะกำจัดหลายครั้ง

                    แต่การวิเคราะห์ในทำนองนี้มีจุดอ่อนหลายประการทำให้มีคำถามตามมาหลายคำถาม โดยเฉพาะคำถามที่ว่าทำไมคิม จองอึน ถึงปล่อยให้พี่ชายต่างแม่ลอยนวลมาหลายปี จึงเพิ่งคิดจะกำจัดในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีแรงจูงใจใดๆ ในเมื่อ คิม จองนัมเองก็ปิดปากเงียบมานาน ใช้ชีวิตอยู่ตามบ่อนพนันที่มาเก๊า ซึ่งรู้กันดีว่าเจ้าตัวชอบเล่นสลอตแมชชีน หรือย้ายไปเล่นที่มาเลเซียและสิงคโปร์ นานๆ ครั้งจะบินไปที่กรุงปารีสเพื่อชิมอาหารที่ชื่นชอบ หรือบินไปที่แดนมังกรจีนซึ่งมีภรรยาอยู่อีกคนหนึ่งโดยมีข่าวว่ามีลูกด้วยกันหนึ่งคน

                    คิม จองนัม เองก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองตกอยู่ในอันตราย จึงไม่เคยมีองครักษ์ประจำตัวเพื่อคอยรักษาความปลอดภัย เพื่อนของคิม จองนัม ในมาเก๊าหลายคนยอมรับว่าคิมชอบอยู่กับเพื่อนฝูงมากกว่า เพราะรู้ดีว่าอย่างน้อยจีนก็คอยให้การดูแลอย่างลับๆ
                    ทฤษฎีที่มีความเป็นไปได้สูงพอกันก็คือ แดนโสมขาวเกาหลีใต้อาจเป็นตัวการลอบสังหารคิม จองนัม แล้วโบ้ยความผิดให้โสมแดง หรือบีบบังคับให้โสมแดงต้องชิงลงมือฆ่าก่อนเพื่อตัดปัญหาไม่ให้กลายเป็นเสี้ยนตำใจตามแผนของโสมขาว
                    โดย ศ.พิเศษทาเกซาดะ ฮิเดะชิ แห่งบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทากุโชกุ ให้ข้อสังเกตว่าเกาหลีใต้อาจจะพยายามจะเกลี้ยกล่อมคิม จองนัม ให้แปรพักตร์มาอยู่ที่เกาหลีใต้แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินก้อนใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าคิมจะไม่มีบารมีแต่อย่างใดในแดนโสมแดงแต่อาศัยชื่อว่าเป็นพี่ชายต่างแม่ของคิม จองอึน ก็อาจจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้แก่เกาหลีเหนือได้ หรือถ้าเป็นไปได้ โสมขาวอาจจะอุปโลกน์คิม จองนัม ให้ขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นเกาหลีเหนือในเกาหลีใต้ โดยมีชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ในจำนวนนี้มีนักการทูตระดับสูง นายทหาร ข้าราชการระดับสูงจะเข้าร่วมในรัฐบาลพลัดถิ่นนี้
                    หากข่าวลับนี้มีมูลความจริงและล่วงรู้ไปถึงหูของคิม จองอึน แน่นอน เจ้าตัวคงไม่ยอมนิ่งเฉย ต้องหาทางตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการกำจัดคิม จองนัม ไม่ให้ไปเข้ากับเกาหลีใต้ก็ได้

 


ศึกฆ่าล้างตระกูลหรือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ


                    จะว่าไปแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของเกาหลีที่คนในตระกูลคิมซึ่งสืบทอดอำนาจมา 3 ชั่วรุ่นได้สังหารคนในครอบครัวหรือศัตรูการเมืองโดยไม่อาจตรจสอบได้ว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด แม้กระทั่งคิม จองซุค เมียคนแรกของอดีตผู้นำคิม อิลซุง บิดาผู้สถาปนาประเทศเกาหลีเหนือ ผู้เป็นมารดาของอดีตผู้นำคิม จองอิล อนัยหนึ่งย่าของคิม จองอึน ก็ตายปริศนาโดยไม่มีใครทราบสาเหตุเมื่อปี 2492


                    ด้านอดีตผู้นำคิม จองอิล มีภรรยา 2 คน เฉพาะภรรยาที่มีลูกชายเป็นพยานรัก คนแรกคือ ซอง ฮเยริม อดีตดาราชื่อดังผู้เป็นแม่ของคิม จองนัม เธอเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดไม่แจ้งเมื่อปี 2545 บ้างก็ว่าเสียชีวิตขณะแปรพักตร์ไปอยู่ที่ประเทศตะวันตก บ้างก็ว่าเสียชีวิตที่มอสโกที่เธอเคยเดินทางไปรักษาตัวด้วยโรคใดไม่แจ้งอยู่บ่อยๆ


                    ซอง ฮเยริม มีหลานชายคนหนึ่งชื่อ อี ฮันยอง ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2540 ที่หน้าบ้านพักในเกาหลีใต้ หลังจากแปรพักตร์ไปอยู่ที่แดนโสมขาวตั้งแต่ปี 2525 และได้ตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำเปิดเผยรายละเอียดชีวิตส่วนตัวของ คิม จองอิล จนป่านนี้ทางการยังไม่สามารถจับมือปืนผู้ก่อเหตุที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้


                    เมียอีกคนของคิม จองอิล ชื่อ โค ยองฮี มีพยานรักให้คิม จองอิล 3 คนคือ คิม จองชอล ลูกชายที่เชื่อกันว่าเป็นคนรักร่วมเพศ คิม จองอึนและคิม ซอลซอง ลูกสาว โค ยองฮี เสียชีวิต เมื่อปี 2547 ด้วยโรคมะเร็งทรวงอกแม้จะเดินทางไปรักษาตัวที่ปารีส แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้


                    หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานว่าตลอดช่วงกว่า 4 ปีที่ขึ้นมามีอำนาจนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา คิม จองอึน ซึ่งขณะนั้นมีอายุแค่ 28-29 ปีได้แสดงออกถึงความเลือดเย็นและโหดเหี้ยมผิดธรรมดา กำจัดศัตรูการเมืองอย่างชนิดถอนรากถอนโคน โดยไม่คำนึงว่าเหยื่อผู้นั้นจะเป็นญาติสนิทมากแค่ไหน รวมแล้วกว่า 340 คน ด้วยวิธีการแปลกประหลาดเร้าใจ อาทิ ยิงด้วยปืนต่อต้านอากาศยาน หรือปตอ. หรือใช้เครื่องพ่นไฟพ่นใส่จนร่างกายลุกเป็นไฟ หรือบังคับให้เดินฝ่าดงกระสุนขณะมีการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง

ศึกฆ่าล้างตระกูลหรือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ

 

                    เหยื่อการกวาดล้างทางการเมืองที่ดังที่สุดก็คือนายพลจาง ซองแท็ก อาเขยแท้ๆ ในข้อหาพยายามจะยึดอำนาจจากหลานชายที่ตัวเองดูแคลนว่าไม่ประสีประสาทางการเมืองและฐานอำนาจยังอ่อนแอนัก ซึ่งเท่ากับ “ทรยศต่อประเทศของคนทุกรุ่น”, ”เลวร้ายยิ่งกว่าสุนัข” ว่ากันว่านายพลจาง ซองแท็ก อดีตผู้ยิ่งใหญ่และผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 2 ของโสมแดงถูกยิงด้วยปืนปตอ. เมื่อเดือนธันวาคม 2556 แถมคิมน้อยยังสั่งให้ใช้เครื่องพ่นไฟพ่นศพจนลุกเป็นไฟ เพราะไม่ต้องการให้มีอะไรหลงเหลือแม้กระทั่งเส้นผม
                    เท่านั้นยังไม่พอ คิม จองอึน ยังถอนรากถอนโคนสังหารคนตระกูลจางทั้งตระกูล แม้กระทั่ง คิม คยองฮุย อาแท้ๆ ของตัวเองที่แต่งงานกับจาง ซองแท็ก โดยวางยาพิษเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เพื่อป้องกันไม่ให้ใครลุกขึ้นมาล้างแค้นในภายหลัง ใครขัดขืนไม่ยอมถูกลากตัวออกจากอพาร์ตเมนต์ก็ถูกยิงตายต่อสายตาประชาชน
                    ในจำนวนนี้รวมไปถึง จาง เยซุน น้องสาวของจาง ซองแท็ก และยอน ยองจิน สามีซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำคิวบา ตลอดจน จาง ยองชอล หลานชายที่เป็นเอกอัครราชทูตประจำมาเลเซีย รวมถึงลูกชายอีก 2 คน และลูกหลานของพี่ชายอีกสองคนของ ซองแท็ก
                    นอกจากล้างตระกูลจางแล้ว คิม จองอึน ยังสั่งเก็บทั้งศัตรูและพันธมิตรของอาเขยด้วยเหตุผลเล็กน้อยมาก อาทิ งีบหลับระหว่างการประชุมหรือแอบดื่มเหล้า เป็นต้น
                    คิม ชอล รัฐมนตรีช่วยกองทัพบก ถูกประหารในปี 2555 ด้วยข้อหาดื่มเหล้าและจัดงานเลี้ยงในช่วงไว้ทุกข์ให้กับอดีตผู้นำคิม จองอิล ว่ากันว่าคิม ชอล ถูกบังคับให้เดินฝ่าดงกระสุนที่ทหารกำลังซ้อมรบด้วยกระสุนจริง จนร่างพรุนไปหมด
                    โอ ซางฮอน ผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงสาธารณะ เป็นพันธมิตรของซองแท็ก ถูกเครื่องพ่นไฟพ่นไฟใส่จนร่างลุกโชนเมื่อเดือนเมษายน 2557
                    ยอง ยองชอย รัฐมนตรีกลาโหม ว่ากันว่าถูกยิงด้วยปืนต่อต้านอากาศยานต่อหน้าฝูงชนหลายร้อยคนเมื่อเดือนเมษายน 2558 ในข้อหางีบหลับระหว่างประชุมและไม่ฟังคำแนะนำ
                    หนังสือพิมพ์จุง อัง อิลโบ รายงานว่า ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 2 คนถูกประหารด้วยปืนปตอ.เช่นกันที่สถาบันศึกษาทหารในเปียงยางเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
ฮวาง มิน อดีตรัฐมนตรีเกษตร ถูกประหารในข้อหาพยายามนำเสนอนโยบายใหม่ที่มองกันว่าเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นผู้นำของจองอึน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ