ข่าว

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดโลกวันอาทิตย์

 

            ในสายตาเกาหลีเหนือ แท ยองโฮ อดีตอัครราชทูตประจำกรุงลอนดอน เป็นสวะ และอาชญากรหมายเลขหนึ่ง แต่ในเกาหลีใต้ เป็นขุมทรัพย์ข้อมูลของคู่สงครามในทางเทคนิคและเป็นบุคคลสาธารณะระดับเซเลบ จากการเดินสายออกหลายรายการบนหน้าจอโทรทัศน์ เพราะใครๆก็อยากจะรู้เรื่องราวความเป็นไปของเพื่อนบ้านทางเหนือ จากชายวัย 54 ปีผู้คร่ำหวอดในสายการทูตของเกาหลีเหนือมาหลายสิบปี ก่อนมาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดที่แปรพักตร์มาจากรัฐบาลเปียงยางในรอบ 20 ปี

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

            แท ยองโฮ หลบหนีมาเกาหลีใต้พร้อมกับภรรยาและลูกชาย 2 คน เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว สามารถเริ่มพูดคุยแสดงความเห็นในฐานะพลเมืองเกาหลีใต้คนหนึ่งได้เมื่อปลายปี หลังเสร็จสิ้นกระบวนการขั้นตอนสำหรับชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ซึ่งใช้เวลานานหน่อยสำหรับบุคคลระดับนี้  แต่การเข้าถึงตัวเขายังจำกัด และยังอยู่ในความคุ้มกันของสำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ กระนั้นล่าสุด ได้ออกมาพูดกับสื่อต่างประเทศโดยตรงเป็นครั้งแรก เมื่อวันพุธที่แล้ว  และให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่ออีกจำนวนหนึ่ง อาทิ บีบีซี วอชิงตันโพสต์ ฯลฯ

            ใจความสำคัญที่สื่อหยิบมาพาดหัว คือการคาดการณ์ของอดีตนักการทูตระดับสูงรายนี้ว่า หนทางเดียวที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์คือ ล้มระบอบคิมจองอึน และจะล้มระบอบนี้ก็มีทางเดียวคือการลุกฮือต่อต้านของประชาชน และคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นภายในไม่เกิน 5 ปี 

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

            ไม่ใช่เกาหลีเหนือแปรพักตร์คนแรก ที่ทำนายว่าตระกูลผู้ปกครองดินแดนฤาษีมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง  ใกล้ถึงกาลล่มสลาย  แต่แล้วระบอบเปียงยางก็ยืนยงมาได้ถึงปี พ.ศ.2560 แม้ที่ผ่านมา มีการแปรพักตร์ของเจ้าหน้าที่หลายคน รวมถึงระดับผู้วางอุดมการณ์ปกครองประเทศอย่าง ฮวาง จางย็อพ ซึ่งเคยยืนเคียงข้าง คิม อิลซอง ผู้ก่อตั้่งประเทศ ก่อนเดินทางมาเข้ากับเกาหลีใต้เมื่อปี 2540

            แต่ครั้งนี้ แท ยองโฮ มีเหตุผลว่า ระบอบคิมไม่อาจควบคุมการรับรู้โลกภายนอกของประชาชนได้เหมือนในอดีต เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้กำแพงต้านข้อมูลข่าวสารของเปียงยางแตกร้าว  ชาวเกาหลีเหนือดูละครเกาหลีใต้ได้ไม่ยากเย็น รับรู้ข่าวผ่านยูเอสบี วิทยุและโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น ทางใดที่จะทำให้ชาวเกาหลีเหนือได้รู้ข่าวสารให้มากที่สุด  ก็ควรส่งเสริม เพื่อนำไปสู่การล่มสลายของคิม จองอึน

            ความพยายามสกัดกั้นข่าวสารและสินค้าจากนอกเกาหลีเหนือ ไม่สำเร็จไปเสียทุกทาง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตำรวจเองก็รับสินบน แลกกับการทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยคนลอบขนสินค้า และปล่อยคนที่ดูหนังและละครจากเพื่อนบ้านทางใต้

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์          

 

            อดีตนักการทูตกล่าวว่า การแพร่ข่าวสารจากภายนอกเข้าไปในเกาหลีเหนือ มีผลกระทบมากต่อบรรดาชนชั้นนำและประชาชนทั่วไป อย่างน้อยพวกเขาได้เห็นการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศอย่างกัมพูชา ลาว และอีกหลายส่วนในแอฟริกาที่แซงหน้าเกาหลีเหนือไปแล้ว

            อีกสัญญาณที่สะท้อนความอ่อนแอลงของระบอบคิม ก็คือ ตลาดแบบไม่เป็นทางการในเกาหลีเหนือ ที่มีผู้หญิงออกมาค้าขายสินค้าที่ส่วนใหญ่ลอบนำเข้าจากจีน ในอดีตแม่ค้าถูกเรียกว่า ตั๊กแตน เพราะจะรีบหอบข้าวของหนีกระเจิงเวลาเห็นตำรวจ แต่ปัจจุบันมีชื่อใหม่ว่า พวกเห็บหมัด เพราะจะปักหลักไม่หนี ยืนยันในสิทธิที่จะทำมาหาเลี้ยงท้อง ซึ่งยองโฮอธิบายว่า การขัดขืนลักษณะนี้แม้เป็นหย่อมเล็กๆแต่ก็ไม่เคยปรากฎมาก่อน

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

           แต่เกี่ยวกับตัวคิม จอง อึนนั้น แท ยองโฮ กล่าวว่า เขารู้น้อยมาก ผู้นำเกาหลีเหนือใช้ชีวิตแบบเก็บตัวเงียบ ไม่มีใครรู้กระทั่งพักอยู่ที่ไหน แต่เขาเชื่อ(เช่นเดียวกับรัฐบาลโซล)ว่า คิม จองอึน เป็นคนโหดเหี้ยม และไม่ควรประมาท เชื่อว่าเพื่อความอยู่รอดแล้ว คนคนนี้พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ทำได้  และแม้ว่าเวลานี้ คิม จองอึน ยังไม่มีวิธีการโจมตีสหรัฐ แต่กำลังพัฒนาขีดความสามารถ ทั้งเชื่อว่าหากมีคลังแสงนิวเคลียร์ก็พร้อมจะใช้

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

            แรงผลักดันให้แปรพักตร์

            ตามประวัติ แท ยองโฮ เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศชั้นนำในเปียงยาง และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก่อนเข้าทำงานที่กระทรวงต่างประเทศ  ปู่และพ่อของเขาทำงานถวายหัวให้แก่ระบอบคิม  ยองโฮเติบโตมารู้จักมักคุ้นแค่ลัทธิบูชาตัวบุคคล กระทั่งในคริสต์ทศวรรษที่ 1990 นักการทูตหนุ่มถูกส่งไปประจำในเดนมาร์ก ประเทศที่บุตรชายสองคนของเขาถือกำเนิด จากนั้น ไปประจำที่สวีเดน เขาเริ่มตาสว่างหลังจากไปทำหน้าที่ในประเทศที่เป็นรัฐสวัสดิการเหล่านี้ เริ่มมีคำถามว่าเกาหลีเหนือเป็นสังคมนิยมที่แท้จริงหรือ โดยช่วงนั้นตรงกับช่วงที่เกาหลีเหนือเผชิญภาวะอดอยากคร่าชีวิตประชาชน 3 ล้านคน

            “สังคมเกาหลีเหนือไม่มีแนวคิดเรื่องการเปรียบเทียบ แต่ยิ่งอยู่โลกข้างนอกมากเท่าไหร่ ความเสื่อมศรัทธาต่อระบบที่เติบโตมา จะมากขึ้นเรื่อยๆ” แท ยอง โฮกล่าว

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

            ความคิดแปรพักตร์ไม่ได้เกิดชั่วข้ามคืน แต่คิดมานาน และรู้มานานแล้วว่า เกาหลีเหนือไม่มีอนาคต แม้ในขณะที่ยังทำหน้าที่โฆษกเดินสายพูดปกป้องความดีงามของระบอบเปียงยางทั่วยุโรป

            เมื่อการผลัดเปลี่ยนอำนาจมาถึง คิม จองอึน เขามีความหวังลึกๆ ว่า ผู้นำหนุ่มวัยเพียง 33 ที่เคยร่ำเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ และรู้ว่าโลกไปถึงไหนแล้ว จะเปลี่ยนแปลงนโยบายและนำความทันสมัยมาสู่เกาหลีเหนือ แต่ต้องผิดหวังที่ทายาทรุ่นสาม ไม่ได้คิดจะแตกแถวจากพ่อและปู่เรื่องการแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์และลังเลเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ประเทศต้องการอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่เขาคนเดียว แต่เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ก็ผิดหวังกับนโยบายที่ไม่ต่างจากผลักเกาหลีเหนือเข้ามุมทำลายตัวเอง และเพราะคิม จองอึน ยังหนุ่มนี่เอง พ่อลูกสอง เกรงว่าลูกหลานของเขาอาจจะต้องอยู่ใต้ระบอบนี้ไปอีกนาน

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

            ขณะที่โลกทัศน์เริ่มเปลี่ยนไป แต่แท ยอง โฮ ยังปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ คือการนำเสนอเกาหลีเหนือเป็นวิมานของประชาชน บ้าน การรักษาพยาบาลและการศึกษาฟรี แต่ที่บ้าน ลูกชายสองคนที่ยังอยู่โรงเรียนมัธยมในตอนนั้น (ปัจจุบัน อายุ 19 กับ 26 ปี) ตั้งคำถามว่า ทำไมเกาหลีเหนือจึงไม่อนุญาตให้ใช้อินเทอร์เน็ต ทำไมไม่อนุญาตให้ดูหนังต่างประเทศ  ทำไมจึงอ่านหนังสือตามใจชอบไม่ได้ และทำไมเกาหลีเหนือถึงประหารเจ้าหน้าที่โดยไม่มีการพิจารณาคดี  ในฐานะพ่อ ยากมากที่จะพูดปดกับลูก และเริ่มเป็นหัวข้อโต้เถียงกันภายในครอบครัว ซึ่งมาถึงตอนนี้ เขามองว่า ระบบเกาหลีเหนือเป็นระบบไร้มนุษยธรรมอย่างแท้จริง ล่วงละเมิดได้กระทั่งความรักระหว่างพ่อแม่ลูก  จึงตัดสินใจปลดโซ่ตรวนให้ลูกทั้งสองคนพ้นจากความทาส

            แน่นอนว่า แท ยองโฮ ได้เปรียบกว่าชาวเกาหลีเหนืออีก 3 หมื่นคน ที่กว่าจะได้ไปใช้ชีวิตใหม่ในเกาหลีใต้นั้น ต้องผ่านเส้นทางสุดวิบากและจำนวนมากเลือดตาแทบกระเด็น การได้ประจำในสถานทูตต่างประเทศพร้อมกับภรรยาและลูก สะท้อนว่าเปียงยางไว้วางใจในตัวเขามาก

            หลังตระเตรียมการและวางแผนมาเป็นอย่างดี  จนตอนที่ใกล้หมดวาระประจำที่ลอนดอนในเดือนกรกฎาคม จึงได้พาครอบครัวหลบหนี แต่เขาปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดถึงวิธีการขั้นตอน และไม่บอกว่ามีใครยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง โดยอ้างว่า ไม่เช่นนั้นอาจปิดเส้นทางหลบหนีของแก่เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือคนอื่นๆ ในต่างประเทศ

            ญาติพี่น้องโดนลงโทษ

            ระหว่างให้สัมภาษณ์บีบีซี แท ยองโฮ มีน้ำเสียงสั่นและน้ำตารื้น ขณะยอมรับว่าเป็นห่วงและคิดถึงญาติพี่น้องในเกาหลีเหนือ เขามั่นใจว่า ครอบครัวของเขาจะถูกลงโทษ ด้วยการส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลหรือค่ายแรงงานอย่างแน่นอน ความจริงในข้อนี้ทำให้เขารู้สึกใจสลาย แต่ก็เป็นแรงฮึดให้ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อล้มระบอบคิมให้ได้ ไม่ใช่เพื่อช่วยให้ตนเองได้พบหน้าญาติพี่น้องอีกครั้งเพื่อกล่าวขอโทษเท่านั้น  หากยังเพื่อปลดปล่อยชาวเกาหลีเหนือทั้งหมดจากความเป็นทาส

 

โลกรู้อะไรบ้างจากนักการทูตเกาหลีเหนือแปรพักตร์

 

            การคาดการณ์ระบอบคิมจะล่มสลายแน่  เป็นถ้อยแถลงแนวชวนเชื่อของรัฐบาลเกาหลีใต้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเป็นเรื่องที่คาดเดาได้เพราะเวลานี้ เขาอยู่ในบทบาทใหม่ตรงข้ามกับกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยางในต่างแดนอย่างที่เคยเป็น  แต่ แท ยองโฮ ซึ่งขณะนี้ทำงานในหน่วยงานสายวิชาการของสำนักข่าวกรอง ยืนยันเมื่อให้สัมภาษณ์วอชิงตันโพสต์ว่า เขาพูดในสิ่งที่คิดจริงๆ และมุ่งหวังใช้อิทธิพลของตัวเองเพื่อเป้าหมายที่ดี  หากเขาแปรพักตร์มาอยู่บ้าน หรือใช้ชีวิตเงียบๆ จะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆในบ้านเกิด นอกจากนี้ ยังรู้สึกละอายใจกับบทบาทที่เคยทำ ราวกับเป็นนักแสดงที่เสแสร้งรักระบอบเปียงยาง มาเวลานี้เขาอยากจะแก้ตัว และตัดสินใจทุ่มชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความหมายและอยากทำอะไรที่สำคัญต่อครอบครัวและเพื่อประเทศชาติ

 

ที่มา BBC WSJ Washington Post Donga Ilbo

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ