ทีมทรัมป์ฉะสื่อ กดตัวเลขมวลชนร่วมสาบานตน

            ในวันที่สองของการทำงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเดินทางไปเยือนสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ที่เมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเรียที่อยู่ไม่ไกลจากวอชิงตัน ดีซี เป็นหน่วยงานแห่งแรก  เพื่อสมานรอยร้าว หลังจากที่เคยพูดไม่ยอมรับการประเมินของหน่วยข่าวกรองที่สรุปว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อช่วยทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ทั้งยังพูดว่าการรับฟังบรรยายสรุปจากซีไอเอไม่สำคัญนัก แต่ในโอกาสนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนยันว่า เขาสนับสนุนซีไอเอ 1,000 %  

            แต่หลังจากนั้น ผู้นำสหรัฐคนใหม่ก็เปลี่ยนประเด็น หันมาโจมตีสื่อที่รายงานขนาดของมวลชนที่มารวมตัวกันในลานเนชันแนล มอลล์ ในวอชิงตันดีซี บิดเบือน  ทรัมป์ยืนยันว่า ขณะกล่าวปราศรัย มองออกไป ลานกว้างเต็มไปด้วยคนเรือนล้าน หรือล้าน 5 แสนคน  แต่สื่อฉายภาพตรงที่มักไม่มีคนยืนอยู่แล้ว และมีสำนักข่าวหนึ่งถึงกับประเมินว่า ขนาดมวลชนแค่ 2.5 แสน ซึ่งทรัมป์บอกว่า ไม่แย่เท่าไหร่ แต่เป็นการโกหก ทั้งกล่าวด้วยว่าเหตุที่มีปัญหากับสื่อ เพราะคนเหล่านี้เป็นมนุษย์ที่หาความสัตย์ซื่อไม่ได้มากที่สุดในโลก ทำให้ดูเหมือนว่าเขาทะเลาะเบาะแว้งกับหน่วยข่าวกรอง

             ด้าน นายฌอน สเปนเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ก็ใช้การแถลงข่าวครั้งแรก ตำหนิสื่อที่นั่งต่อหน้าเขาเช่นกันว่า เจตนารายงานขนาดมวลชนคลาดเคลื่อน สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า สเปนเซอร์พูดด้วยน้ำเสียงอันดังและกึ่งตะคอกว่า นี่เป็นการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานสาบานตนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา ความพยายามบิดเบือนบรรยากาศ เป็นสิ่งที่ผิดและอัปยศ ก่อนออกจากห้องแถลงข่าวโดยไม่ตอบคำถาม

            สื่อในสหรัฐโดยทั่วไปรายงานว่าจำนวนผู้ไปร่วมชุมนุมในวันสาบานตนของทรัมป์ น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งประธานาธิบดีบารัก โอบามาสาบานตนในปี 2552 โดยนำภาพถ่ายทางอากาศมาเปรียบเทียบกัน ทางการวอชิงตันไม่ได้ประเมินตัวเลข แต่ภาพจากทีวีชัดเจนอย่างหนึ่งว่าฝูงชนไม่ได้ยืนเรียงรายเนืองแน่นตลอดแนว 20 ช่วงตึกก่อนถึงอนุสรณ์สถานวอชิงตัน อย่างที่ทรัมป์กล่าวอ้าง