อดีตผู้ร่วมแข่งเรียลิตี้โชว์ฟ้อง"ทรัมป์"หมิ่นประมาท

            ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว มีสตรีมากกว่า 10 คนที่ออกมากล่าวหาว่าเคยถูก โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์และพิธีกรรายการโทรทัศน์ ลวนลามและประพฤติไม่เหมาะสมทางเพศ แต่ทรัมป์โต้กลับสตรีเหล่านั้นว่า เป็นพวกโกหก และขู่จะยื่นฟ้องอย่างแน่นอนหลังเลือกตั้งเสร็จสิ้น แต่ถึงปัจจุบันยังไม่มีการยื่นฟ้องคนใด แต่ล่าสุด ซัมเมอร์ เซอร์วอส อดีตผู้ร่วมแข่งขันรายการเรียลริตี้ The Apprentice ปี 2005 ที่ทรัมป์เคยเป็นพิธีกร มอบหมายให้กลอเรีย อัลเรด ทนายความด้านสิทธิสตรีชื่อดัง เป็นตัวแทนยื่นฟ้องทรัมป์ในข้อหาหมิ่นประมาท เมื่อวันที่ 17 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ฐานกล่าวหาว่าเธอโกหก  

            เซอร์วอสเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนหนึ่งหากคำฟ้องไปถึงขั้นพิจารณาคดี แต่พร้อมจะถอนฟ้องหากทรัมป์ตกลงถอนคำพูดที่หาว่า เธอกุเรื่อง และหากทรัมป์ยอมรับว่า สิ่งที่เธอออกมาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วเป็นความจริง ทั้งนี้ เซอร์วอส เผยว่าถูกทรัมป์จูบและลวนลาม รวมถึงจับอวัยวะเพศ ขณะที่เธอเข้าไปพูดคุยเรื่องโอกาสในการทำงานกับเขา ที่โรงแรมเบฟเวอรี ฮิลส์ ในนครลอสแองเจลิส เมื่อปี 2550

            คำบอกเล่าของเซอร์วอส สอดคล้องกับเสียงของทรัมป์ที่พูดถึงพฤติกรรมของตัวเอง จากเทปเสียงลับอื้อฉาวที่สื่อในสหรัฐนำมาเผยแพร่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการพูดว่า เขามักจับต้องผู้หญิงโดยไม่สนความยินยอมเป็นประจำ เพราะเขาโด่งดังมีชื่อเสียง ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเซอร์วอส โดยยืนยันว่าไม่เคยพบกับสตรีคนนี้ในโรงแรมหรือเคยต้อนรับเธออย่างไม่เหมาะสมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

            ในคำฟ้องระบุว่า การที่ทรัมป์พูดโจมตีใส่ร้ายผู้หญิงคู่กรณี  ทำให้พวกเธอเหล่านั้น ถูกผู้สนับสนุนทรัมป์คุกคาม เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ และเสื่อมเสียชื่อเสียง            

            อัลเรด ทนายของเซอร์วอส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลูกความวัย 42 ปีเคยบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีกับว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ หากอีกฝ่ายถอนคำพูด แต่เธอเปลี่ยนใจแล้วเพราะทรัมป์ไม่เคยแสดงท่าทีสำนึกผิดในพฤติกรรมของตัวเอง ทั้งยังโกหกไปเรื่อยเพื่อปกปิด ทนายกล่าวว่า ลูกความตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญในการฟ้องเอาผิดบุคคลที่มีอำนาจที่สุดบนโลก แต่ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ รวมถึงว่าที่ประธานาธิบดี