ประธานาธิบดีปัก กึน เฮ ถูกพักงานทันที หลังสภามีมติถอดถอน รอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดอีกขั้นหนึ่ง
9 ธ.ค. สภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ระบบสภาเดียว ผ่านมติถอดถอนประธานาธิบดีปัก กึน เฮ ออกจากตำแหน่งด้วยคะแนนสนับสนุน 234 เสียง คัดค้าน 56 เสียง เกินจำนวนที่ต้องได้สองในสามจากสภา 300 ที่นั่ง จากข้อหาแพร่งพรายเอกสารลับให้กับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้มีตำแหน่งใด ปล่อยให้เพื่อนเข้ามาก้าวก่ายงานบริหารบ้านเมืองและแต่งตั้งบุคคล และล้มเหลวในการรับมือโศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่มเมื่อปี 2557 การกระทำเหล่านี้เข้าข่ายผิดต่อหน้าที่ประธานาธิบดีตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
, . . pic.twitter.com/ltUV2O8amc
— (@mediamongu) 9 ธันวาคม 2559
บรรยากาศหน้าสภา
ขั้นตอนหลังจากนี้ ประธานาธิบดีจะถูกพักงานทันที นายกรัฐมนตรีฮวาง คยอ อัน ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี ระหว่างรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติและกระบวนการถอดถอนชอบธรรมหรือไม่ โดยศาลมีเวลาพิจารณา 180 วัน
หากผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ 6 จาก 9 เสียง ลงความเห็นให้ยึดตามมติถอดถอน ประธานาธิบดีปักจะพ้นจากตำแหน่งทันที และมีผลให้ต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายในสองเดือน เร็วขึ้นจากกำหนดเดิมในเดือนธ.ค.2560 แต่หากคัดค้าน ประธานาธิบดีปักจะกลับเข้ามาบริหารประเทศจนครบวาระดังเดิม
ปูมหลังที่มาความสัมพันธ์ของประธานาธิบดีหญิง ปักกึนเฮ กับเพื่อนสนิท ที่ก่อเรื่องอื้อฉาวเขย่าเกาหลีใต้...อ่านต่อ
การผ่านมติถอดถอนเป็นผลสำเร็จ มาจากการออกเสียงของ 3 พรรคฝ่ายค้านหลักและส.ส.อิสระ 171 เสียง ที่เหลือเป็นเสียงสนับสนุนจากส.ส.ในพรรคเซนูรีของประธานาธิบดีเอง
นายชอง เซ คยอน ประธานสภาเกาหลีใต้ ประกาศว่า มติขับประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งผ่านความเห็นชอบแล้ว ไม่ว่าสนับสนุนหรือคัดค้าน ส.ส.ทุกคนและและชาวเกาหลีใต้ที่กำลังเฝ้ามองสถานการณ์ร้ายแรงนี้คลี่คลาย คงรู้สึกทุกข์ใจไม่ต่างกัน เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโศกนาฏกรรมลักษณะนี้จะไม่เกิดซ้ำอีกในประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญของเรา
ประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ เป็นผู้นำเกาหลีใต้คนที่สองที่ถูกสภาผ่านมติถอดถอน ต่อจากประธานาธิบดีโนห์ มู ฮยอน เมื่อปี 2547 ที่ถูกถอดถอนจากข้อหาวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง แต่ครั้งนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคว่ำมติ โดยใช้เวลาพิจารณา 62 วัน คาดกันว่ากรณีของประธานาธิบดีปัก ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น
Smiles in S Korea following news of passage of impeachment motion in Parliament RT @zwarin pic.twitter.com/pQBEGAo4yX
— Joseph Kim (@josungkim) 9 ธันวาคม 2559
ชะตากรรมของปักกึนเฮ วัย 64 ปี ที่เดินทางมาถึงจุดที่อาจจะถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่า เป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกขับจากตำแหน่ง เป็นผลจากการสอบสวน นางชเว ซุน ซิล เพื่อนสนิทของเธอ ใช้สายสัมพันธ์กับผู้นำประเทศ ก้าวก่ายกิจการบริหารบ้านเมือง และขู่เข็ญบริษัทในประเทศบริจาคเงิน 70 ล้านดอลลาร์ เข้ามูลนิธิส่งเสริมด้านกีฬาและวัฒนธรรม ก่อนนำเงินบางส่วนไปหาประโยชน์ส่วนตัว ทำให้ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นซัมซุง ฮุนได แอลจี และอีกหลายแห่ง ติดร่างแห เพิ่งเข้าให้การต่อสภาในสัปดาห์นี้ว่า บริจาคเงินสนับสนุนมูลนิธิของเพื่อนประธานาธิบดีด้วยเหตุใด
อัยการเกาหลีใต้ ถือว่าประธานาธิบดีปัก เป็นผู้ต้องสงสัยสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมส่วนใหญ่ที่นางชเวซุนซิล ก่อขึ้น แต่ไม่สามารถแจ้งข้อหาได้เพราะเอกสิทธิคุ้มครองประธานาธิบดีจากการถูกดำเนินคดีอาญา แต่หากพ้นตำแหน่ง เธอมีสิทธิที่จะถูกดำเนินคดี
นับจากเกาหลีใต้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีครั้งแรกในปี 2530 ประธานาธิบดีแทบทุกคนมักถูกสอบสวนข้อหาทุจริตหลังพ้นจากตำแหน่ง โดยมีหนึ่งคนคือนายโนห์ มู ฮยอน ที่ฆ่าตัวตายหลังครอบครัวถูกสอบทุจริต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง