การเมืองอิตาลีอึมครึม นายกรัฐมนตรีอิตาลียื่นใบลาออก หลังประชาชนโหวตไม่รับแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญผ่านการลงประชามติที่ถูกมองว่าเป็นการลงมติไม่ไว้วางใจ
5 ธ.ค.นายกรัฐมนตรีมัตเตโร เรนซีแห่งอิตาลี ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น หลังผลการนับคะแนนกว่า 90% จากการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์( 4 ธ.ค.)พบว่า ผู้มีสิทธิออกเสียง 59.7% ไม่รับแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเสนอ
รัฐธรรมนูญอิตาลีปี ค.ศ. 1948 ให้สภาล่างและสภาสูงมีอำนาจเท่ากันในการเห็นชอบกฎหมาย และนายกรัฐมนตรีเรนซี เสนอแก้ไขลดจำนวนกับอำนาจวุฒิสภาลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้การบริหารประเทศของรัฐบาลมีความคล่องตัว กฎหมายบางเรื่องไม่จำเป็นต้องผ่านวุฒิสภา เช่น งบประมาณ และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่สุดแล้ว จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้
ขณะฝ่ายต่อต้านระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอายุ 68 ปี เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย จะเป็นการล้มเลิกระบบถ่วงดุลอำนาจ
นายเรนซีประกาศก่อนหน้าว่าจะลาออกหากฝ่ายโหวตโนชนะ ทำให้ชาวอิตาลีที่เบื่อหน่ายการทุจริตและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ถือโอกาสนี้เป็นการลงมติไม่ไว้วางใจผู้นำประเทศไปในตัว และยิ่งชัดเจนเมื่อปรากฏว่า มีผู้ออกไปใช้สิทธิเกือบ 70% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงอย่างผิดปกติ
การชนะด้วยคะแนนทิ้งห่างร่วม 20 จุด ยังถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของพรรคแนวประชานิยมในอิตาลี โดยเฉพาะขบวนการ ไฟว์สตาร์ ภายใต้นายเบ็ปเป กริลโล อดีตนักแสดงตลกที่หันมาตั้งพรรคการเมือง ซึ่งมีนโยบายต่อต้านอียู กับพรรคสันนิบาตเหนือ ที่เน้นต่อต้านผู้อพยพ ผลที่ออกมาถูกใช้เป็นมาตรวัดกระแสต่อต้านสถาบันอำนาจเดิมในยุโรป รวมถึงสหภาพยุโรป หรือ อียู ด้วย
กระนั้น ชัยชนะของฝ่ายนี้ อาจไม่ได้ส่งผลกระทบลึกซึ้งต่ออิตาลีในทันทีแต่อาจเขย่าตลาดยุโรปและโลก เพราะความวิตกอนาคตที่ไม่แน่นอนของประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับสามของอียู และเกรงว่าจะเป็นลางร้ายต่อภาคธนาคารอันเปราะบางของอิตาลี
นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหลักฐานที่ชี้ว่ากระแสหนุนพรรคนอกกระแสหลักและแนวกังขาอียูกำลังมาแรง ตามรอยเบร็กซิทในสหราชอาณาจักร และชัยชนะของมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์
ขั้นตอนหลังจากนายกฯอิตาลียื่นใบลาออก ประธานาธิบดีเซร์จีโอ มาตาเรลลา จะหารือพรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลใหม่ หากไม่สำเร็จ ก็จะต้องจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าความน่าจะเป็นคือการตั้งรัฐบาลรักษาการไปจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2018 แต่ฝ่ายค้านต้องการให้เลือกตั้งก่อนกำหนด ที่อาจเปิดทางให้พรรคต้านอียูอย่างขบวนการไฟว์สตาร์ เข้ามามีอำนาจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง