ข่าว

สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดโลกวันอาทิตย์ โดย บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์



           ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ ซิกซ์ตีมินิต ของโทรทัศน์ซีบีเอส ถือเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อเป็นครั้งแรกหลังชนะเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของแดนดินถิ่นอินทรีผยองยอมรับว่าอาวุธลับอย่างหนึ่งที่ทำให้ตัวเองชนะเลือกตั้งก็คือสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆว่าโซเชียลมีเดียที่ว่านั้นคือสื่อใด ของใครและช่วยด้วยวิธีการใด

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 

            กระนั้น คนทั่วไปก็รู้กันว่าโซเชียลมีเดียที่เป็นอาวุธลับของทรัมป์ก็คือ เบรทบาร์ท นิวส์ ของสตีเฟน หรือ สตีฟ แบนนอน วัย 62 ปี ที่ทรัมป์เพิ่งจะตอบแทนบุญคุณด้วยการตั้งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสประจำทำเนียบขาวควบผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ประจำทำเนียบขาว ซึ่งถือเป็นคนสนิทและผู้ทรงอิทธิพลที่สามารถกระซิบความลับบอกทรัมป์ที่ข้างหูได้ทุกเมื่อ

            แนนซี เพโลสกี ผู้นำสส.เสียงข้างน้อยสังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งเคยตราหน้าแบนนอนว่าเป็นพวกคลูคลักซ์แคลนหรือเคเคเค. ขบวนการผิวขาวต่อต้านผิวดำ ให้ความเห็นว่าไม่มีอะไรปิดบังความจริงได้เลยว่านโยบายของทรัมป์จะเป็นเช่นใด เมื่อดูจากการตั้งแบนนอน อดีตทหารเรือ อดีตวานิชธนกรของโกลด์แมน แซคส์ ซีอีโอเบรทบาร์ท นิวส์ และเจ้าของสถานีวิทยุซิริอุส เอ็กซ์เอ็ม เป็นผู้อำนวยการยุทธศาสตร์ประจำทำเนียบขาว ในเมื่อรู้กันดีว่าแบนนอนเป็นพวกชาตินิยมสุดโต่ง คลั่งผิวขาว เหยียดผิว เกลียดชังต่างชาติ ต่อต้านยิว

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 


           ขณะที่จอน โลเวตต์ อดีตคนเขียนร่างสุนทรพจน์ให้กับประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าวว่าการตั้งแบนนอนสะท้อนว่าทรัมป์กำลังสร้างความสะพึงกลัวขึ้นในประเทศ ไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็นการทำจริงๆ นักเคลื่อนไหวหลายกลุ่มต่างกล่าวหาทรัมป์คล้ายๆกันว่ากำลังทำให้สังคมก้าวไปสู่สังคมแห่งความเกลียดชัง โดยศูนย์กฎหมายเพื่อคนยากไร้ทางภาคใต้ ซึ่งต่อต้านวาทกรรมแห่งความเกลียดชังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงมะกันชนว่าอาณาจักรสื่อของแบนนอนได้เผยแพร่บทความต่างๆที่ต่อต้านการอพยพเข้าเมือง สนับสนุนการโยงชนกลุ่มน้อยเข้ากับการก่อการร้ายและอาชญากรรม


            “ภายใต้การนำของแบนนอน เบรตบาร์ท นิวส์ ได้ตีพิมพ์ข้อเรียกร้องให้เชิญธงชาติให้สูงและโบกสะบัดอย่างงามสง่าเพียง 2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ที่บาร์เกย์ในเมืองชาร์ลส์ตัน ขณะที่ทั่วประเทศกำลังโศกเศร้ากับโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น ในยุคของแบนนอน เบรทบาร์ท นิวส์ ได้ตีพิมพ์บทความของกลุ่มสุดโต่งที่ต่อต้านมุสลิม โดยผู้เขียนใช้คำว่า”การข่มขืนทางวัฒนธรรม”เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อจะตอบโต้ความเลวร้ายของอิสลาม และแบนนอนเองก็โพสต์ข้อความดูหมิ่นเหยียดหยามชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันว่าโดยธรรมชาติแล้วเป็นพวกก้าวร้าว นิยมความรุนแรง”


            อดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของแบนนอนในเบรทบาร์ท นิวส์ ก่อนจะลาออกเมื่อเดือนมีค.เนื่องจากมีความเห็นขัดแย้งกันอย่างรุนแรงได้โพสต์ความเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทรัมป์จะตั้งแบนนอน เพราะตัวเองเคยกล่าวหาแบนนอนว่ากำลังทำให้เบรทบาร์ท นิวส์ กลายเป็น สำนักข่าวปร้าฟดาของทรัมป์ เลียนแบบสำนักข่าวปร้าฟดา กระบอกเสียงของอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย แล้วแบนนอนก็ได้รับรางวัลตอบแทนจากการขายอุดมการณ์ให้กับทรัมป์ก็คือได้เป็นผู้จัดการหาเสียงให้ทรัมป์เมื่อเดือนสค.”

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 

            ก่อนหน้าทรัมป์จะกลายเป็นจุดสนใจของมะกันชน แบนนอนได้ขับเคลื่อนกระแสเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มขวาสุดโต่งมานานแล้ว ด้วยการตั้ง”ขบวนการชาตินิยมประชาชาติ” เป็นตัวขับเคลื่อนข้อเรียกร้องให้ยุบพรรครีพับลิกัน แล้วตั้งพรรคแนวร่วมแห่งชาติอเมริกันขึ้นมาแทน ขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างศัตรูสิบทิศขึ้นเมื่อประนามกลุ่มสิทธิพลเมืองกลุ่มต่างๆว่า ”ไม่ใช่ชาวอเมริกัน”พร้อมกับกล่าวหาว่ากลุ่มเหล่านี้ “ได้แรงบันดาลใจมาจากคอมมิวนิสต์” นอกจากนี้ ยังกล่าวหา ”ฝ่ายซ้าย”ว่าวางแผนจะยึดครองอเมริกาด้วยการกระพือข่าวกรณีตำรวจยิงคนผิวดำ แต่ปิดปากเงียบเมื่อตำรวจ 5 คนในเดลาแวร์ถูกคนดำส่องดับด้วยสไนเปอร์

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 


            อีกเครื่องมือหนึ่งที่ทรงพลังของแบนนอนก็คือขบวนการ Alt-Right ซึ่งแบนนอนกล่าวว่าเป็นทางเลือกใหม่ของกลุ่มขวาสุดโต่งที่ไม่เห็นด้วยกับขวาอนุรักษ์ ขบวนการขวาสุดโต่งนี้เชื่อว่าวัฒนธรรมตะวันตกไม่สามารถแยกออกจากวัฒธรรมในยุโรปได้ 
            เหตุนี้จึงต้องการปรับเปลี่ยนกลุ่มขวาอนุรักษ์สู่กลุ่มประชาชาตินิยมขวาจัดในยุโรป โดยเฉพาะต้องการจะนำพรรครีพับลิกันไปผูกโยงเข้ากับพรรคขวาจัดในยุโรป อย่างกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติฝรั่งเศส นำโดยของมารีน เลอ เพน ซึ่งมีนโยบายคล้ายๆกัน ไม่ว่าการต้องการเนรเทศผู้อพพยพต่างชาติ คุมเข้มการอพยพเข้าเมืองของมุสลิม ฟื้นฟูลัทธิกีดกันทางการค้า ฟื้นสกุลเงินฟรังก์ฝรั่งเศสแทนที่จะใช้เงินยูโร ตลอดจนการเรียกร้องให้ลงโทษหนักอาญากร เป็นต้น

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 


            สื่อบางสื่อเผยว่าแบนนอนได้หารือกับเลอเพน ซึ่งได้พบกับไนเจล ฟาเรจ แห่งพรรคอิสรภาพอังกฤษหรือยูคิป ก่อนที่ฟาเรจจะบินไปพบกับทรัมป์หลังชนะเลือกตั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับการจับมือกันตั้งเป็น “พันธมิตรขวาจัดโลก” 
            แบนนอนยืนกรานว่าขบวนการทางเลือกใหม่ไม่ใช่พวกเหยียดผิว แต่เป็นพวกชาตินิยมเท่านั้น เหมือนกับกลุ่มชาตินิยมในยุโรปอย่างชาตินิยมฝรั่งเศศ ที่ต้องการฟื้นฟูอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศขึ้นมาใหม่ อย่างการฟื้นฟูสกุลเงินของประเทศนั้นๆแทนการใช้เงินยูโร
 

กำเนิดเบรทบาร์ท นิวส์ (Breitbart News) 

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์
 

 
            เบรทบาร์ท นิวส์ เป็นสื่อออนไลน์ของขบวนการ “alt -right” หรือขบวนการทางเลือกใหม่ของกลุ่มขวาตกขอบที่มีแนวคิดสุดโต่งยิ่งกว่ากว่ากลุ่มขวาอนุรักษ์นิยมด้วยนโยบายหลุดโลกหรือเปลี่ยนโลกใหม่ เน้นการปลูกค่านิยมว่าคนขาวยิ่งใหญ่ที่สุด ส่วนอิสลามนั้น ไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นอุดมการณ์ทางการเมือง และกฎหมายอิสลามหรือชารีอะห์ ก็เหมือนกับกฎหมายของนาซี-ฟาสซิสม์และคอมมิวนิสต์
            ผู้ก่อตั้งเวบไซต์นี้ก็คือแอนดรูว์ เบรทบาร์ท นายทุนสื่อหัวอนุรักษ์สุดโต่งซึ่งเคยทำงานสื่อออนไลน์ให้กับนักบุกเบิกสื่อออนไลน์อาเรียนนา ฮัฟฟิงตันและแม็ตต์ ดรูดจ์ ตัดสินใจตั้งเวบไซต์ชื่อ Breitbart.tv เมื่อปี 2550 เพื่อตอบโต้การครอบงำของสื่อกระแสหลักนำโดยบรรณาธิการและนักข่าวสายเสรีนิยม
            ต่อมา แอนดรูว์ได้ยกระดับเวบไซต์ออกเป็นเวบไซต์ข่าว 3 เวบไซต์ แก่ Big Journalism, Big Hollywood and Big Government, ทำข่าวครอบคลุมทั้ง 3 ส่วนในมุมมองของกลุ่มปีกขวา

 


            แม้ว่าสื่อกระแสหลักจะพยายามละเลงภาพของเบรทบาร์ทว่าเป็นคนบ้าคนวิกลจริต เป็นนายทุนสื่อเลือกข้าง นำเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง แต่เบร์ทบาร์ทก็โต้กลับด้วยการนำเสนอข่าวเจาะพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของกลุ่มกระแสหลักหลายกลุ่มรวมทั้งการสะท้อนภาพของข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นพวกเหยียดผิว  หนำซ้ำยังเป็นเวบไซต์แรกที่นำเสนอข่าวของแอนโธนี ไวน์เนอร์ อดีตสส.นิวยอร์กที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเผยแพร่ภาพโป๊อนาจารเด็กผ่านทางมือถือ

 

 สตีฟ แบนนอน ยอดกุนซือขวานิยม ของโดนัลด์ ทรัมป์

 

            เมื่อเบรทบาร์ทเสียชีวิตกะทันหันเมื่อปี 2555 ด้วยโรคหัวใจกำเริบ ขณะที่กำลังจเปิดเวบไซต์ใหม่ชื่อเบรตบาร์ต สตีเฟนหรือสตีฟ แบนนอน อดีตทหารเรือและวานิชธนกรแห่งโกลด์แมน แซคส์ นอกเหนือจาก ผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและผู้อำนวยการผลิตภาพยนตร์สารคดี ได้ขึ้นมาสวมหัวโขนเป็นกรรมการอำนวยการหรือซีอีโอของเบรทบาร์ต นิวส์ แทน พร้อมกับประกาศว่าจะนำเวบไซต์นี้ให้เป็น”ฮัฟฟิงตัน โพสต์ของพวกขวา” และได้ปรับเปลี่ยนเวบไซต์นี้ให้เป็นเวบไซต์ของกลุ่มชาตินิยมขวาจัดคลั่งผิวขาวมากขึ้น หรือพูดง่ายๆก็คือ เบรทบาร์ทได้เปลี่ยนไปจากที่เป็นสื่อของกลุ่มขวาอนุรักษ์กลายเป็นกระบอกเสียงหรือฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มชาตินิยมสุดโต่งที่เชิดชูผิวขาวสุดๆ ในการจุดกระแสต่อต้านอิสลาม ต่อต้านยิว ต่อต้านความหลากหลายทางเชื้อชาติ สีผิว วัฒนธรรม รวมทั้งความหลากหลายทางเพศ มุ่งสนับสนุนกลุ่มนีโอนาซี และทฤษฎีสมคบคิดอื่นๆ


            พาดหัวข่าวจะเน้นแต่การสร้างความแตกแยกทางสังคม อาทิ”อยากให้ลูกเป็นเฟมินิสต์หรือมะเร็ง,การคุมกำเนิดทำให้ผู้หญิงไร้เสน่ห์และงี่เง่า,ห้ามจ้างผู้หญิงที่มีอคติเรื่องเพศเข้าทำงานในอุตสาหกรรมไฮเทค เป็นต้น


            ปรากฎว่ายอดผู้อ่านได้พุ่งกระฉูดอย่างรวดเร็วจากคนที่คลิกเข้ามาอ่าน 2.9 ล้านคนในปี 2555 เป็น 17 ล้านคนในปี 2559 กลายเป็นเวบไวต์ข่าวของกลุ่มหัวเก่าที่มีคนอ่านมากที่สุดในอเมริกา เฉพาะเมื่อปีที่แล้วยอดพุ่งถึง 124 เปอร์เซนต์ ส่วนหนึ่งมาจากการสัมภาษณ์ทรัมป์ตอนประกาศจะลงชิงทำเนียบขาวใหม่ๆ

            ระหว่างช่วยทรัมป์หาเสียงเลือกตั้ง สตีฟ แบนนอนใช้เบรทบาร์ท นิวส์และสื่อของกลุ่มขวาจัดเป็นเครื่องมือในการปล่อยข่าวลือ-ข่าวลวงต่างๆเพื่อทำลายคะแนนนิยมของฮิลลารี คลินตัน รวมไปถึงการปลุกกระแสสร้างภาพยนตร์เรื่อง”คลินตัน แคช” กล่าวหาสองสามีภรรยา บิล- ฮิลลารี คลินตัน ให้สิทธิพิเศษกับผู้บริจาคเงินก้อนใหญ่เข้ามูลนิธิการกุศลคลินตัน อีกทั้งยังเป็นต้นตอปล่อยข่าวว่าฮิลลารีได้สมคบคิดทางการเมือง การเงินจากการจับมือกับสื่อยักษ์ใหญ่ที่ซื้อตัวมาเป็นพวก ระหว่างที่ฮิลลารีกับทรัมป์โต้วาทีสดทางโทรทัศน์ครั้งที่ 2 แบนนอนได้นำผู้หญิง 3 คนที่กล่าวหาบิล คลินตันว่ามีสัมพันธ์ชู้สาวด้วยมาร่วมแถลงข่าว ฯลฯ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ