ผู้ว่าจาการ์ตาตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมิ่นศาสนา | คมชัดลึก

       
            16 พ.ย.ตำรวจอินโดนีเซีย ได้ข้อสรุปหลังการไต่สวนนานหนึ่งสัปดาห์ว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า บาซูกิ ซาฮาจา ปูร์นามา หรือ อาฮก ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา หมิ่นศาสนา มีมูล และประกาศให้เป็นผู้ต้องสงสัยอย่างเป็นทางการ  พร้อมกับสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศระหว่างถูกพิจารณาคดี แต่จะไม่ควบคุมตัวไว้ตามเสียงเรียกร้องของหลายกลุ่ม

 

 

            ข้อหาหมิ่นศาสนา มาจากการที่อาฮก ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนและนับถือศาสนาคริสต์ กล่าวหาคู่แข่งในศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าจาการ์ตาว่า อ้างบัญญัติในพระคัมภีร์อัลกุรอานที่ว่า มุสลิมไม่ควรเลือกผู้ที่มิใช่มุสลิมเป็นผู้นำ มาหลอกคนไม่ให้เลือกตนเอง ซึ่งบรรดาองค์กรศาสนาหลายแห่งถือว่าเป็นการหมิ่นศาสนาร้ายแรง และมวลชนเรือนแสน ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้เอาผิดผู้ว่าจาการ์ตาเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่โดยรวมเป็นไปโดยสงบ แต่สุดท้าย มีพวกสุดโต่งก่อเหตุรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 1 คน  

             ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ติโต คาร์นาเวียน ยอมรับว่า ตำรวจตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ และมีความเห็นขัดแย้งกันมาก กระนั้น ก็เห็นพ้องว่า ควรให้ดำเนินคดีต่อและหาข้อยุติในศาลแบบเปิด  ทั้งนี้ ข้อหาหมิ่นศาสนามีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี

 

 

            ด้าน นายปูร์นามา หรือ อาฮก ยืนยัน จะไม่ถอนตัวจากการเลือกตั้งในกุมภาพันธ์ปีหน้า และยังมีความหวังกับกระบวนการยุติธรรมในศาล 
             ก่อนหน้านี้ เขาขอโทษกับความเห็นที่เป็นปัญหาเมื่อเดือนกันยายนแล้ว โดยระบุว่า เขาวิจารณ์คู่แข่งการเมืองที่ใช้บัญญัติในคัมภีร์ มิใช่วิจารณ์พระคัมภีร์ แต่ก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น 

 

             คดีนี้กำลังถูกจับตาว่าเป็นบททดสอบความอดกลั้นในประเทศมุสลิมใหญ่สุดในโลก ที่ระยะหลัง มีเหตุโจมตีชนกลุ่มน้อยทางศาสนาบ่อยขึ้น การตัดสินใจของตำรวจสร้างความประหลาดใจ เดิมคาดหมายกันว่าตำรวจจะให้คดีนี้ตกไปเพราะหลักฐานอ่อน แต่หากเป็นเช่นนั้น อาจเป็นชนวนให้กลุ่มมุสลิมแข็งกร้าวโกรธแค้นขึ้นมาอีก  และพวกเขามีแผนชุมนุมใหญ่อีกระลอกในสัปดาห์นี้
            โทเบียส บาซูกิ นักวิเคราะห์การเมืองจากศูนย์ยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา ในจาการ์ตา กล่าวว่า รัฐบาลและตำรวจคงประเมินสถานการณ์แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นการถ้าวถอยหลังสำหรับอินโดนีเซีย 
.