สามีภรรยาชาวจีนโดนสังคมเน็ตจีนรุมกระหน่ำหนักจนภรรยาตัดสินใจลาออกจากงาน หลังขโมยฝารองนั่งชักโครกขณะพักโรงแรมญี่ปุ่น
การท่องเที่ยวเทศบาลหนิงโป ย้ำผ่านเวบไซต์สังคมออนไลน์ เว่ยโป เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขอให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ประพฤติตัวอย่างมีอารยะขณะเดินทางในต่างประเทศ หลังจากเกิดเหตุชายคนหนึ่งซึ่งได้รับการเปิดเผยนามสกุลว่า หลี่ และภรรยา ขโมยฝารองนั่งชักโครกสำรองจากโรงแรมที่พัก
เหตุเกิดระหว่างสองสามีภรรยา ซึ่งเริ่มท่องเที่ยวญี่ปุ่น 6 วันแบบหมู่คณะ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม แต่ก่อนออกจากโรงแรมโตเกียว อินน์ นาโงยา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายหลี่พบฝารองนั่งชักโครกไฟฟ้าใหม่อยู่ในกล่องใต้เตียง หลี่คิดเองเออเองว่าอาจเป็นของนักท่องเที่ยวอีกคนลืมไว้ จึงเก็บใส่กระเป๋าไปด้วย แต่กลับทราบภายหลังว่าเป็นของโรงแรม หลังจากทางโรงแรมติดต่อมายังผู้จัดการบริษัท ชางไห่ สปริง แอนด์ ออทัม อินเตอร์เนชันแนล ทราเวล เซอร์วิส สาขาเมืองหนิงโป ที่จัดกรุ๊ปทัวร์ โดนตอนแรก เขาปฏิเสธ แต่จำนนต่อของกลางที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง
นายหลี่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และนำกลับไปคืนในวันเดียวกันด้วยความช่วยเหลือของไกด์ประจำคณะ และเขียนจดหมายขอโทษ ซึ่งทางโรงแรมไม่ได้ติดใจเอาความ
อย่างไรก็ดี เมื่อข่าวสะพัดไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจีนพากันตำหนิเซ็งแซ่ว่า หลี่ทำให้ภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวจีนเสียหาย เวบไซต์ข่าวท้องถิ่น zjol.com รายงานว่ากระแสวิจารณ์จากชาวเน็ต รุนแรงจนกลายเป็นการไล่ล่าทางไซเบอร์ พยายามเปิดเผยตัวตนของสามีภรรยาคู่นี้ จนทำให้ทั้งสองตัดสินใจแยกตัวออกจากกลุ่มทัวร์ ที่มีกำหนดเดินทางกลับจีนในวันเสาร์
นอกจากนี้ ภรรยาซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารในเมืองไถ้โจว มณฑลเจ้อเจียง ถึงกับขอลาออกจากบริษัท เพื่อไม่ให้บริษัทต้องอับอายไปด้วย ขณะชาวจีนบางส่วนมองว่า เป็นอีกกรณีตัวอย่างสะท้อนว่า ชาวสื่อสังคมออนไลน์ทำเกินกว่าเหตุ ทำให้คนคนหนึ่งถึงกับต้องออกจากงาน
ด้าน สำนักงานการท่องเที่ยวหนิงโป ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้จัดท่องเที่ยวแบบกลุ่ม จะต้องทำความเข้าใจก่อนออกเดินทาง ถึงสิ่งที่ทำได้และไม่ควรทำ ขณะย้ำว่าควรปฏิบัติตามกฎหมาย วัฒนธรรมประเพณีและลักษณะนิสัยของคนท้องถิ่น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวจีนในสายตาชาวโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง