ดีเบตเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวอเมริกันได้ฟังมุมมองและวัดไหวพริบผู้เสนอตัวเป็นประธานาธิบดีก่อนตัดสินใจ แต่กว่าจะมาถึงวันถ่ายทอดสดที่ทั้งโลกรอดู ใครคือทีมเบื้องหลัง
ทุก 4 ปี ที่สหรัฐอเมริกา จะมีการเลือกคณะทำงานชุดหนึ่งจำนวนไม่ถึง 20 คน ให้มาร่วมวางแผนและตัดสินใจทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการโต้วิสัยทัศน์ หรือ ดีเบต ของผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี จึงนับว่าเป็นคณะทำงานที่มีอิทธิพลไม่น้อยในศึกเลือกตั้งของประเทศมหาอำนาจ รวมถึงศึกดีเบตครั้งแรกระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่คาดกันว่าจะเป็นดีเบตที่มีคนติดตามมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
แต่น้อยคนนักรวมถึงอเมริกันชนเอง ที่จะรู้ว่าคณะทำงานหลังฉากศึกดีเบตที่ได้เห็นอยู่หน้าจอทีวีเหล่านี้เป็นใครกันบ้าง และมีที่มาอย่างไร
นับจากดีเบตบันลือโลก ระหว่าง จอห์น เอฟ เคนเนดี ส.ว.หนุ่มจากพรรคเดโมแครต ท้าชิงเก้าอี้จาก ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในปี 2503 ซึ่งเป็นดีเบตครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และมีส่วนอย่างมากในการชี้ชะตาการเลือกตั้งในครั้งนั้นแล้ว การถ่ายทอดสดศึกดีเบตทางโทรทัศน์ได้ว่างเว้นไปนาน จนถึงศึกเลือกตั้งในปี 2519 กระนั้น เป็นการจัดและเตรียมการแบบเร่งรีบ ทั้งในปีเลือกตั้ง 2519 ปี 2524 และปี 2527 ขณะผู้สมัครมักถกเถียงกันเรื่องกฎกติกาจนถึงนาทีสุดท้าย
คณะกรรมการดีเบตประธานาธิบดี หรือ ซีพีดี (Commission on Presidential Debates) จึงถือกำเนิดในปี 2530 หลังจากผลการศึกษาของศูนย์ระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และสถาบันการเมืองมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ข้อสรุปว่า การดีเบตระหว่างผู้สมัครชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ควรเป็นส่วนประกอบหนึ่งของการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา และควรมีการตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ เพื่อให้การโต้วิสัยทัศน์ดำเนินไปอย่างราบรื่น ตามกฎกติกาและจัดเตรียมล่วงหน้า เปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ได้ชมผู้สมัครโต้วิสัยทัศน์อย่างได้เนื้อหาสาระ ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือก
คณะกรรมการซีพีดี ชุดปัจจุบัน มีนายแฟรงค์ เจ ฟาห์เรนคอปฟ์ จูเนียร์ อดีตประธานคณะกรรมการบริหารแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน และ ไมเคิล ดี แมคเคอร์รี อดีตเลขานุการฝ่ายสื่อของประธานาธิบดีบิล คลินตัน เป็นประธานร่วม
ส่วนกรรมการอื่นๆ อาทิ ผู้บริหารมูลนิธิ อดีตส.ว. ประธานมหาวิทยาลัย อดีตพิธีกรรายการข่าว เช่น จิม แลร์ อดีตบรรณาธิการบริหารและผู้ประกาศรายการนิวส์อาวร์ อันโด่งดังทางช่องพีบีเอส และคุ้นหน้าคุ้นตาในฐานะอดีตผู้ดำเนินรายการดีเบต
ข้อมูลจากเว็บไซต์ระบุว่า ซีพีดีมีสถานะเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ไม่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล พรรคการเมือง คณะกรรมการทางการเมืองหรือผู้สมัครคนใด และแม้ว่าประธานร่วมในปีนี้ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสองพรรคใหญ่ แต่ซีพีดียืนยันว่าจะไม่ยึดประโยชน์ของพรรคเป็นที่ตั้ง
บางคนอาจแย้งว่าไม่จริงเสียทีเดียว ไม่เช่นนั้น ซีพีดีก็คงเปิดพื้นที่ให้ แกรี จอห์นสัน ผู้สมัครจากพรรคเล็กอย่างพรรค ลิเบอร์ทาเรียน และจิล สไตน์ ผู้สมัครจากพรรคกรีน ขึ้นไปยืนบนเวทีด้วย
ซีพีดี มีข้อกำหนดว่า ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติได้ที่ยืนบนเวทีดีเบต จะต้องมีคะแนนนิยมทั่วประเทศจากผลสำรวจใหญ่ 5 ครั้งโดยเฉลี่ย 15% ขณะที่ จอห์นสัน ซึ่งมีคะแนนนิยมอยู่ที่ราว 10% โต้ว่า กฎแบบนี้ตั้งมาเอื้อประโยชน์กับผู้สมัครพรรคใหญ่ตั้งแต่แรกแล้ว
จอห์นสัน กล่าวว่า คณะทำงานนี้เป็นองค์กรเอกชนที่เดโมแครตกับรีพับลิกันตั้งขึ้นมาเมื่อ 30 ปีก่อน มีเป้าหมายชัดเจนคือเพื่อควบคุมการดีเบตถ่ายทอดทางโทรทัศน์
คณะทำงานยืนยันว่า คะแนนนิยม 15% เป็นเกณฑ์เหมาะสมพอที่จะรับประกันการมีส่วนร่วมแบบไม่ตกหล่น แต่บรรดาผู้สมัครจากพรรคที่สาม แย้งมาตลอดว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่เรียกว่า หันไปทางไหนก็ตัน เพราะพวกเขาจะได้เสียงสนับสนุนถึงเกณฑ์ที่ว่านี้ได้อย่างไร หากไม่เคยได้รับโอกาสได้แสดงให้ผู้มีสิทธิออกเสียงได้เห็นเสียก่อนว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้สมัครจากสองพรรคหลัก
(เลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ดำเนินรายการดีเบตรอบแรก )
สำหรับผู้ดำเนินรายการโต้วิสัยทัศน์ ก็มาจากการคัดเลือกของซีพีดีเช่นกัน โดยจะใช้เกณฑ์ เช่น ความคุ้นเคยกับผู้สมัครและประเด็นหลักที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ประสบการณ์ในงานออกอากาศสดทางโทรทัศน์ และความเข้าใจเรื่องการดีเบตที่จะต้องใช้เวลาคุ้มค่าที่สุดและความสนใจตัวผู้สมัครและมุมมอง แต่ซีพีดีเลือกเฉพาะตัวผู้ดำเนินรายการเท่านั้น ไม่ได้แตะว่าผู้ดำเนินการควรเลือกถามเรื่องใด
สำหรับผู้ดำเนินรายการดีเบตรอบแรกในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้ ได้แก่ นายเลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ประกาศภาคค่ำช่องเอ็นบีซี NBC Nightly News ซึ่งเป็นรายการข่าวค่ำที่มีผู้ชมมากที่สุด
สถานีเครือข่ายข่าวหลักและเคเบิล จะเริ่มแพร่ภาพสดเวทีดีเบตจากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา เมืองเฮมป์สเต็ด รัฐนิวยอร์ก เวลา 20.00 น. วันจันทร์ที่ 26 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น
สถิติจำนวนผู้ชมสูงสุดอยู่ที่ 80.6 ล้านคน เป็นศึกดีเบตระหว่าง จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีจากเดโมแครต กับผู้ท้าชิงจากรีพับลิกัน โรนัลด์ เรแกน อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2524 แต่ เกจิอาจารย์จำนวนมากคาดการณ์ว่า สถิตินี้จะถูกทำลาย หลังคลินตันกับทรัมป์ ขึ้นเวทีในเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาบ้านเรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง