"ทรัมป์"ลั่นจะรับรองเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงแบ่งแยกไม่ได้

. 
          ก่อนขึ้นเวทีดีเบต หรือโต้วิสัยทัศน์รอบแรกกับนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ค่ำวันจันทร์ ( 26 ก.ย.)ตามเวลาในสหรัฐ หรือเช้าวันอังคาร( 27 ก.ย.) ตามเวลาประเทศไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ได้พบหารือแบบส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ที่ทรัมป์ ทาวเวอร์ บ้านพักของเขา ในนครนิวยอร์ค เมื่อวันอาทิตย์

(เนทันยาฮู ออกจากที่พักของทรัมป์หลังพบหารือ /ภาพ Reuters ) 

 

          ทีมหาเสียงของทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ทรัมป์ยอมรับว่า เยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของชาวยิวมานานกว่า 3,000 ปี และหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี  สหรัฐภายใต้ทีมบริหารของทรัมป์จะรับรองเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงที่แบ่งแยกไม่ได้ของอิสราเอล ตามที่รัฐสภาสหรัฐผ่านความเห็นชอบมานาน ทั้งยังสัญญาว่า สหรัฐจะร่วมมือด้านการทหาร เทคนิกและยุทธศาสตร์อย่างพิเศษแก่อิสราเอล 

          อิสราเอลยึดพื้นที่ฝั่งอาหรับของเยรูซาเล็มในซีกตะวันออก ในช่วงสงครามอาหรับ-อิสราเอลปี 2510 และผนวกเป็นดินแดนในปี 2524 โดยประกาศให้เป็นเมืองหลวง  แต่สหรัฐอเมริกาและประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ของสหประชาชาติ ไม่ยอมรับการผนวกดินแดน และตระหนักว่า สถานะสุดท้ายของเยรูซาเล็ม เป็นเรื่องหลักที่จะต้องหาข้อยุติในการเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ ซึ่งต้องการให้เยูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของประเทศในอนาคต 

( อ่านต่อ ทำไมเยรูซาเล็มจึงสำคัญนักหนา? : โลกมุสลิม โดยศราวุฒิ อารีย์ ) 

 

          รัฐสภาสหรัฐผ่านกฎหมายตั้งแต่ตุลาคม 2538 เรียกร้องให้สหรัฐยอมรับเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของอิสราเอล และจัดสรรงบประมาณสำหรับย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลาวีฟไปที่เยรูซาเล็ม แต่ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดจากทั้งสองพรรค ลงนามเป็นกฎหมาย เพราะถือว่ารุกล้ำอำนาจของฝ่ายบริหารด้วยเหตุว่าเป็นนโยบายต่างประเทศ 

          สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ออกแถลงการณ์เรื่องการพบปะกับผู้สมัครประธานาธิบดีของรีพับลิกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแต่ไม่ได้เอ่ยถึงคำสัญญาของทรัมป์ 

          ผู้นำอิสราเอลได้เข้าพบนางคลินตัน ในค่ำวันเดียวกัน และแถลงการณ์จากทีมหาเสียงของเธอ ระบุว่าอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันในพันธกรณีที่จะทำงานภายใต้หลักการสองรัฐ ซึ่งให้หลักประกันว่าอิสราเอลจะเป็นรัฐยิวที่เป็นประชาธิปไตยและมีความมั่นคง พร้อมกับปาเลสไตน์ที่มีอธิปไตย ศักดิ์ศรีและเอกราช พร้อมให้คำมั่นว่า สหรัฐพร้อมช่วยเหลือทางการทหารตามข้อตกลงที่เห็นพ้องกันเมื่อไม่นานมานี้ (อ่านต่อ ..  ( สหรัฐเคาะงบช่วยทางทหารอิสราเอลทุบสถิติ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ) 

 

.