10 คำสัญญาพลิกโฉมฟิลิปปินส์ของ"โรดริโก ดูเตร์เต"

           ดูเตร์เต อดีตนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ 7 สมัย จะขึ้นมากุมบังเหียนประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตร้อนแรงสุดในภูมิภาคเอเชียรองจากจีน หนึ่งในมรดกที่อดีตประธานาธิบดีเบนีโญ อาคีโน มอบไว้ให้ แต่ที่ทิ้งไว้ด้วยคือปัญหาค้างคาอีกหลายอย่างที่ยังสะสางไม่สำเร็จ หรืออาจจะยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอัตราความยากจนในประเทศ และอาชญากรรมชุกชุม จนเป็นแรงส่งให้ชาวฟิลิปปินส์หันไปหาทางเลือกใหม่ ผู้มีนโยบายและคำสัญญาโดนใจมากมาย แทนผู้สมัครที่อดีตประธานาธิบดีอาคีโนวางตัวไว้ 

( โรดริโก ดูเตร์เต:นักบุญหรือคนบาป ... อ่านต่อ ) 

      หากว่าคำสัญญาสุดห้าวหาญและเรียกเสียงวิจารณ์ขรม ที่ได้ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียง แปรเปลี่ยนเป็นการกระทำ ฟิลิปปินส์จะเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงภายใต้ผู้นำชื่อดูเตร์เต 6 ปีต่อจากนี้ไป คำสัญญาเหล่านี้มีอะไรบ้าง  

สงครามอาชญากรรม

      ผู้นำวัย 71 ปีประกาศใช้มาตรการตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์เป็นรัฐยาเสพติด โวหารอันโด่งดังของเขาตอนหาเสียงคือ  อาชญากรจะถูกปลิดชีพเป็นแสน จนต้องนำศพไปทิ้งอ่าวมะนิลาให้ปลากินจนอ้วนพี ดังนั้น รัฐบาลของเขาจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยิงผู้ต้องสงสัยได้  หากเด็ดหัวนักค้ายาจะตบรางวัลให้ พลเมืองทั่วไปก็น่าจะมีสิทธิยิงผู้ต้องสงสัยค้ายานรกได้เช่นกัน  โทษประหารจะนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อใช้ล้างแค้นอาชญากรและสนับสนุนให้แขวนคอ เพราะไม่อยากเปลืองกระสุน 

     อย่างไรก็ดี หลังสาบานตน ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า ตนเองเป็นทนายมาก่อน รู้กฎหมายดีและจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปจากที่กฎหมายตีกรอบไว้

สหพันธรัฐ

     มีแผนจะเปลี่ยนรัฐบาลรวมศูนย์ ไปเป็นระบบสหพันธรัฐ อันหมายถึงการเกิดรัฐต่างๆที่จะมีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง เก็บภาษีส่วนใหญ่ได้เอง แต่การทำเช่นนี้ได้คือต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่หมด

ยุติการก่อกบฎ

      ประธานาธิบดีคนใหม่มั่นใจว่า มีความสามารถที่จะยุติการก่อกบฏแข็งข้อของกลุ่มคอมมิวนิสต์และมุสลิมที่ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายหลายพันคน การเจรจาสันติภาพกับกบฏคอมมิวนิสต์กำลังจะเริ่มในเดือนนี้ นอกจากนี้ เชื่อว่าแผนเปลี่ยนโครงสร้างการปกครองเป็นแบบสหพันธรัฐ จะยังความพอใจแก่กบฏมุสลิมที่ต้องการปกครองตนเอง

วางแผนครอบครัว

      ประชากรฟิลิปปินส์มีอัตราขยายตัวรวดเร็ว เพิ่งทะลุหลัก 100 ล้านเมื่อไม่นานมานี้ ดูเตร์เตมองว่าครอบครัวควรมีลูกมากสุดไม่เกิน 3 คน และต้องการให้รัฐบาลแจกถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดแก่คนยากจน  กฎหมายว่าด้วยการอนามัยเจริญพันธุ์ หรือคุมกำเนิดประชากร  ที่รัฐบาลประธานาธิบดีอาคีโน เข็นจนผ่านสภาได้สำเร็จเมื่อปี 2555 ยังไม่ถูกนำมาปฏิบัติใช้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเพราะยังถูกต่อต้านจากคริสตจักรแคธอลิกอันทรงอิทธิพล แต่ดูเตร์เตไม่เคยมีท่าทางเกรงใจคริสตจักรแม้แต่น้อย 

ความเหลื่อมล้ำ

      ดูเตอร์เตจัดตนเองว่า เป็นนักสังคมนิยม และสัญญาจะเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจที่ทำให้ฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำจน-รวยมากที่สุดในเอเชีย ปัจจุบัน ประชากรราว 1 ใน 4 มีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจน  ผู้นำใหม่ฟิลิปปินส์มองว่า การไม่กระจายอำนาจเป็นปัญหาหนึ่งของเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็มีแผนจะสานต่อนโยบายเศรษฐกิจที่ผู้นำคนก่อนได้ริเริ่มไว้และประสบความสำเร็จ

จัดระเบียบสังคม

        เยาวชนฟิลิปปินส์ในยุคดูเตร์เต อาจอยู่ภายใต้เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านตามลำพังหลัง 4 ทุ่ม นอกจากนี้ยังมีแผนห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืน และมีกฎคุมเข้มเกี่ยวกับสถานบันเทิงยามราตรี 

ปราบโกง

       ผู้นำใหม่สัญญาจะกำจัดการทุจริตที่ฝังรากลึกในหน่วยงานรัฐบาล ตำรวจและทหาร แต่นอกจากวาทะโผงผาง เช่น เจ้าหน้าที่โกงกินทั้งหลาย ควรเกษียณหรือไม่ก็ไปตายเสีย ยังไม่เคยแจกแจงเป็นข้อๆว่ามีไม้เด็ดอะไรที่จะมาแก้ไขหนึ่งในเชื้อโรคร้ายตายยากที่สุดของประเทศ

ฝั่งศพจอมเผด็จการ”มาร์กอส”

      ดูเตร์เตมีแผนจะอนุญาตให้ฝังศพอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส ที่สุสานวีรชนแห่งชาติ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อยุติความแตกแยกในสังคมที่ถกกันมานานในประเด็นนี้ แต่นักสิทธิมนุษยชนและญาติเหยื่อกดขี่ของจอมเผด็จการสมัยเรืองอำนาจกล่าวว่าจะกลายเป็นช่วยล้างบาปอาชญากรรมของอดีตผู้นำกำปั้นเหล็กมากกว่า

การลงทุนจากต่างประเทศ

       ประมุขทำเนียบมาลากันยังคนใหม่ สนับสนุนให้แก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญ ยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติ และสั่งหน่วยงานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ยกระดับโครงข่ายอินเตอร์เน็ตที่ติดอันดับช้าสุดในภูมิภาค ไม่เช่นนั้นแล้ว จะต้องเจอการแข่งขันกับต่างชาติ แต่ดูเตร์เตไม่เห็นด้วยกับการให้ต่างชาติถือครองที่ดิน 

กระชับสัมพันธ์จีน

            หลังจากความสัมพันธ์กับจีนย่ำแย่ลงในสมัยของอาคีโนจากกรณีพิพาททะเลจีนใต้ ลมอาจเปลี่ยนทิศในยุคดูเตร์เต ที่เคยกล่าวว่าต้องการจะรักษาสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับรัฐบาลปักกิ่ง อาคีโนปฏิเสธเจรจาโดยตรงกับจีนแต่หันไปใช้กลไกทางศาลระหว่างประเทศและจับมือกับพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐแนบแน่น แต่ดูเตร์เตพร้อมเปิดเจรจาแบบทวิภาคีกับรัฐบาลปักกิ่ง ทั้งยังทาบทามจีนให้เข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย