ข่าว

อินูอิกับการเปลี่ยนวิถีชีวิตเพราะโลกร้อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เวิลด์วาไรตี้ : อินูอิกับการเปลี่ยนวิถีชีวิตเพราะโลกร้อน

 
       ประเทศไทยอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตรมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว สามารถหากินได้ตลอดเวลาที่ต้องการ สภาพชีวิตเช่นนี้นับว่าสะดวกสบายกว่าชาวเผ่าอินูอิ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณขั้วโลกเหนืออย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ชาวเผ่าที่อาศัยในเขตหนาวเย็นเช่นนั้นต้องอดทน ต่อสู้กับสภาพการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นมิตรต่อการดำรงชีวิตอย่างที่สุด การทำมาหากินนั้นก็ยากเย็น ไม่สามารถเพาะปลูกอาหารขึ้นมาได้ การหาเลี้ยงปากท้องก็ต้องอาศัยการล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาวเป็นเครื่องประทังชีพ
 
       ซ้ำร้ายพวกชาวเผ่าอินูอิ ยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกที่ทำให้วิถีชีวิตของชนเผ่าที่แสนจะอดทนต้องเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง
 
       นาตาลี ทูคาลุค หนึ่งในชาวอินูอิที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกเล่าว่า จากฤดูหนาวที่เคยมาเยือนในช่วงเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ปัจจุบันนี้ก็ล่าช้าออกไป ขณะที่หิมะก็ละลายเร็วกว่าเดิมมาก ทำให้กวางคาริบูที่จะอพยพย้ายถิ่นไปตามแหล่งอาหารก็เคลื่อนย้ายลงไปยังพื้นที่ไกลออกไป ที่ๆ มีหญ้าและพืชอาหารที่หากินได้ง่ายกว่า
 
       เธอบอกว่า ใช้ชีวิตแบบชาวอินูอิดั้งเดิมที่อาศัยการล่าสัตว์ ทั้งกวาง ปลา และสัตว์อื่นๆ เป็นเครื่องดำรงชีวิต แต่ทุกวันนี้การตกปลาก็ไม่ได้ผล ไข่ปลาของโปรดที่เคยได้กินในฤดูกาลล่าปลาก็แทบจะหาไม่ได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่จะล่าปลาที่มีไข่เต็มท้องนั้นสั้นลงมาก และด้วยเหตุที่แผ่นน้ำแข็งกลางทะเลสาบบางลงเนื่องจากอุณหภูมิพื้นผิวสูงขึ้น ทำให้ฝูงปลามองเห็นนักล่าเหนือผิวน้ำแข็งและตื่นตัวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เธอเองเรียนภาษาอินุคทิทุท ภาษาถิ่นของชาวอินูอิ จนพูดได้ทั้งภาษาบ้านเกิดและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่โรงเรียนในหมู่บ้านที่ไกลปืนเที่ยงจากความเจริญ แต่ชาวบ้านคนอื่นกลับเริ่มเลือนความเป็นชนเผ่าอินูอิดั้งเดิม หันมาเรียนรู้วัฒนธรรมนำเข้า ตั้งแต่การสวมเสื้อผ้าแบบชาวเมืองใหญ่ ใส่กางเกงยีน สวมหมวกแก็ป สร้างบ้านเรือนแบบชาวเมืองใหญ่ แทนที่จะนุ่งห่มเสื้อผ้าจากหนังสัตว์ที่ล่ามาได้และอาศัยอยู่ในบ้านไม้แบบกระโจมแบบชาวพื้นถิ่น บ้านเรือนหลายแห่งมีโทรทัศน์จอใหญ่ และกินอาหารกล่องแบบเดียวกับชาวเมือง ที่เป็นวัฒนธรรมนำเข้าจากนักท่องเที่ยวและความเจริญที่เข้ามาเยือน
 
 
อินูอิกับการเปลี่ยนวิถีชีวิตเพราะโลกร้อน
 
 
ภาพจาก : http://2012annualreport.kinross.com/
 
 
       ชาวอินูอิกลุ่มนี้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านอูมิวจัคริมชายฝั่งอ่าวฮัดสันทางตะวันออกของแคนาดา ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งในโลกที่เผชิญกับการเพิ่มของอุณหภูมิโลกรุนแรงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ในโลกถึง 2 เท่า และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ก็ทำให้พื้นดินแข็งที่เป็นผลจากการก่อตัวของน้ำแข็งใต้ผิวดิน เริ่มมีการอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การคมนาคมออกสู่โลกภายนอกที่สามารถทำได้เพียงทางเดียวคือ การโดยสารเครื่องบินเล็ก ไปยังเมืองมอนทรีออลที่อยู่ห่างไป 4 ชั่วโมงทางเครื่องบินนั้น เป็นไปได้ลำบากขึ้น เนื่องจากการละลายของพื้นดินแข็งใต้ผิวรันเวย์สนามบินทำให้เกิดการทรุดตัว จนไม่ปลอดภัยที่จะนำเครื่องบินขึ้น-ลง จากสนามบินที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวอินูอิ 400 หมู่บ้านในบริเวณอ่าวฮัดสันได้
 
       เช่นเดียวกับบ้านเรือนที่ก่อด้วยอิฐ ในหลายพื้นที่ของหมู่บ้านอูมิวจัค รวมทั้งสถานีดับเพลิง 2 แห่ง ก็เริ่มเห็นร่องรอยการทรุดตัวของพื้นดิน จากสาเหตุเดียวกันนี้ ทำให้กำแพงอาคารเหล่านี้แตกร้าวและทรุดตัวลง
 
       ขณะเดียวกันความเจริญก็เข้ามายังพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้มากขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิในพื้นที่อุ่นขึ้น โดยตลอดช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรแบบเมืองใหญ่ในพื้นที่รอบอ่าวฮัดสันเบย์ รุกรานพื้นที่หากินของชาวอินูอิ ชนเผ่าที่ได้รับการยกย่องว่าอึดที่สุดในโลกที่สามารถใช้ชีวิตในดินแดนที่ไม่เป็นมิตรต่อการดำรงชีวิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกชนเผ่าหนึ่ง
 
       ไม่เพียงแต่พื้นดินเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป แต่พืชและสัตว์ วงจรชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่รองรับการดำรงอยู่ของชาวเผ่าอินูอิก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ตามการเปลี่ยนแปลงของวงจรการเกิดและละลายของหิมะที่สั้นลง
 
 
อินูอิกับการเปลี่ยนวิถีชีวิตเพราะโลกร้อน
 
 
       ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกยังส่งสัญญาณความรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่อาศัยของชาวอินูอิ ที่เคยเผชิญกับความหนาวเย็นของหิมะและน้ำแข็งตลอดปี
 
       เมื่อปี 2557 ชาวอินูอิต้องทนทรมานกับภาวะการเกิดคลื่นความร้อนที่ทำให้อากาศมีอุณหภูมิสูงถึง 29-30 องศาเซลเซียส นานถึง 3 วัน ซึ่งสำหรับคนบ้านเราแล้วเป็นเรื่องเล็กน้อยดูจะสบายๆ เสียด้วยซ้ำ แต่กับชนเผ่าที่เคยต่อสู้กับอากาศหนาวเย็นยะเยือกตลอดปีนั้น เป็นเรื่องที่แทบทนไม่ได้!!
 
       อนาคตของชาวอินูอินั้นตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมากเพราะพื้นฐานดั้งเดิมที่ผูกติดอยู่กับการใช้ชีวิตอย่างยากเย็นในอากาศหนาวเหน็บและน้ำแข็ง เมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่อุ่นขึ้น ทำให้ปริมาณอาหารที่ล่าได้น้อยลง ระยะเวลาในการล่าสัตว์เพื่อทำอาหารก็สั้นลงไปจากการที่ฤดูหนาวสั้นลง และมาล่าช้า เป็นโจทย์สำคัญต่อชาวอินูอิที่จะต้องตอบให้ได้ว่าจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกนี้ได้หรือไม่ และด้วยวิธีการใดเท่านั้น
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ