บันเทิง

คุยกับนางเอกเจ้าน้ำตา'ญาญ่า'อุรัสยา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไต่เต้าจากการเป็นนางแบบเพียงไม่กี่ปี จากนั้นหันมาชิมลางกับงานละคร ล่าสุดสาวลูกครึ่งหน้าคม "ญาญ่า" อุรัสยา เสปอร์บันด์ ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นนางเอกเต็มตัว กับผลงานละครเรื่อง "กุหลาบไร้หนาม" ทางช่อง 3 ที่กำลังเรียกคะแนนความสงสารจากคนดู

 วันนี้ "คม ชัด ลึก" เลยขอคว้าตัวเธอมานั่งสนทนาแบบเจาะลึก กับทุกเรื่องราวในชีวิต รวมถึงเรื่องหัวใจในวัย 17 ปี ว่าแล้วมาเริ่มค้นหาตัวตนของเธอกันเลย

กระแสตอบรับจากละครเรื่อง "กุหลาบไร้หนาม" เป็นอย่างไรบ้าง
 กระแสดี ยังไม่มีใครว่าอะไร เวลาไปไหนมาไหน เริ่มมีคนมาทัก อย่างไปเดินห้าง ก็มีคนเข้ามาทักน้องนุช ดีใจ มีคนมาทัก แสดงว่าเขาได้ดูละครที่เราเล่น ส่วนเรื่องติยังไม่มีใครมาพูดให้เราได้ยิน  มีแต่มาชมว่าน่ารัก เล่นธรรมชาติ ดีใจ วันที่ละครออนแอร์วันแรกพี่สาวโทรมาบอก ว่าทำไมเล่นได้โง่จัง พี่สาวญาญ่าอยู่ที่นอร์เวย์ เขาดูจากยูทูบ

ในละครโดนติงเรื่องพูดภาษาไทยไม่ชัด
 หนูอ่านภาษาไทยได้ แต่ยังพูดภาษาไทยไม่ชัด ซีเรียส การพูดก็สำคัญมาก พยายามทำให้เต็มที่

นางเอกเต็มตัวเรื่องแรกกระแสก็แรงเลย
 ดีใจมากเลย ไม่คิดว่าจะมีคนดูเราด้วย มีแต่คนชม รู้สึกดี หายเหนื่อย ที่เล่นละครมาถ่ายเหนื่อยแล้วก็ผ่านไปได้ด้วยดี

คาแรกเตอร์เรื่องนี้มีส่วนคล้ายญาญ่าไหม
 มี...ตัวหนูเป็นคนเรียบร้อยอยู่แล้วด้วย เป็นคนยิ้มง่ายๆ คล้ายๆ นุชจรี  ตัวนุชจรีร้องไห้เยอะมาก เป็นคนที่น่าสงสาร มองโลกในแง่ดีจนเกินไป แล้วก็มีแต่คนมาแกล้ง

ยากไหมกับการเป็นนางเอกเรื่องแรก
 ยากมากๆ เพราะเป็นตัวละครเจ้าน้ำตาด้วย คือต้องร้องไห้เกือบทุกฉาก ก็จะยากหน่อย แล้วก็เล่นเป็นคนอายุมากกว่าตัวจริงด้วย   ก็เลยยาก  (มีเทคนิคอย่างไรในการบีบน้ำตา) จะมีพวกพี่ๆ ที่กองถ่าย พี่ต๊ะ (วริษฐ์ ทิพโกมุท) พี่พลอย (เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์) แต่โฬม (พัชฏะ นามปาน) ก็จะมาช่วยบิวท์อารมณ์ให้ พี่ๆ ให้กำลังใจเยอะมาก พยายามทำให้หนูไม่เกร็ง

เรื่องแรกกระแสดีแบบนี้ ทำให้การทำงานเรื่องต่อไปจะกดดันไหม
 กดดัน อยากเก่งขึ้น อยากให้มีการพัฒนา ต้องทำการบ้านมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้กำลังถ่ายเรื่อง "ดวงใจอัคนี" ละครฉลอง 40 ปีของช่อง 3 เล่นกับพี่ณเดชน์ จะพลิกบทบาทนิดหนึ่งจะเป็นผู้หญิงที่ห้าว เอาจริงเอาจัง ละครแนวจบจูบนิดหนึ่ง เล่นละครเรื่องนี้แล้วเหนื่อย ต้องใช้พลังเยอะมาก ต้องเถียงกับพี่ณเดชน์ทั้งวัน (หัวเราะ)

ขอบเขตในการเล่นเลิฟซีน
 อันนี้ก็แล้วแต่ผู้กำกับ โดยส่วนตัวหนูคิดว่า มันเป็นการแสดง  เลยไม่ใส่อะไรเท่าไหร่ ถามว่าเด็กเกินไปไหมที่จะรับบทแบบนี้ หนูคงแล้วแต่ผู้ใหญ่มากกว่า  กับคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่ว่าอะไร  ถือว่าเป็นในละครอย่างเดียว

ติดใจงานละครไหม
 ติดใจ...จริงๆ หนูเป็นคนชอบการแสดงอยู่แล้ว ที่โรงเรียนก็จะเรียนการแสดงด้วย อยากมีละครต่อไปเรื่อยๆ

เส้นทางสู่วงการ

เป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆ เลยหรือเปล่ากับการก้าวสู่วงการบันเทิง
 ตอนเด็กก็ไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ เพราะตอนเด็กเป็นเด็กโก๊ะๆ นิดหนึ่ง ไปโรงเรียนก็ไม่หวีผม ตอนนี้ก็ตกใจนิดหนึ่ง ว่าเราเข้ามาวงการได้ยังไง ไม่เคยคิดเลยว่า จะได้มาเป็นนางเอก ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสนี้

แล้วเข้าสู่วงการได้อย่างไร
 ตอนแรกมีป้าตือ (สมบัษร ถิระสาโรช) ชวนมาเดินแฟชั่นโชว์ ถ่ายแบบ หนูเริ่มต้นด้วยการเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 13 มีถ่ายแบบ ถ่ายหนังสือเยอะเหมือนกัน ตอนที่เข้ามาครั้งแรกตื่นเต้นมาก   ก่อนวันเดินแบบวันหนึ่งป้าตือบอกว่าพรุ่งนี้มีแฟชั่นโชว์มาเดินนะ เราก็ฮะ หนูเป็นเด็กๆ ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น วันต่อมาก็ต้องแต่งตัว แต่งหน้า เดินบนเวที สนุกดี หนูชอบด้วย

จากวงการนางแบบก้าวมาเป็นนางเอกวิก 3 ได้อย่างไร 
 ป้าตือเหมือนเสนอที่ช่อง ผู้ใหญ่ทางช่องก็เห็นตามหนังสือ ตามนิตยสารก็เลยให้มาแคสติ้ง ก็เลยได้เซ็นสัญญา 3 ปี ถามว่าน้อยไปไหม คือตอนที่หนูเซ็นสัญญาพูดไทยไม่ชัดเลย พูดได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาแล้ว หนูไปเรียนพิเศษเพิ่มเต็ม แล้วคุณแม่ก็บังคับให้พูดภาษาไทยที่บ้านด้วย การพูดภาษาไทยไม่ชัดก็เป็นอุปสรรคกับการเล่นละครสำหรับหนูมาก ก็ต้องทำการบ้านเยอะมาก ถ้าได้บทมาก็จะต้องอ่านเป็น 20 รอบ แล้วก็ต้องอัดเสียงไว้ฟัง ไม่งั้นจะเพี้ยนมาก (หัวเราะ)

เป็นที่รู้จักมากขึ้นชีวิตเปลี่ยนไปไหม
 เปลี่ยนนิดหนึ่ง ก่อนออกจากบ้านก็ต้องเริ่มหวีผม(หัวเราะ) ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นตัวหนูตลอด

ชินกับการมีคนมาขอลายเซ็นหรือยัง
 ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เริ่มมีบ้าง แต่ก็รู้สึกดีที่เขาจำเราได้ ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร

ตอนนี้ชื่อเสียงที่เริ่มเข้ามา หลายคนเลยกังวล ว่าจะหลงระเริงกับตรงนี้จนลืมตัว
 ไม่คิดนะ หนูก็อยากเป็นแบบนี้ตลอด ไม่คิดจะเปลี่ยน เป็นตัวของตัวเองเราจะไม่เกร็ง  

ตอนนี้ต้องปรับตัวเยอะไหม
 ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะคุณพ่อจะเข้มกับการเรียนมาก คุณพ่อบอกว่าถ้าการเรียนดร็อปก็ต้องเลิกทำ หนูเลยต้องแบ่งเวลาให้ดีขึ้น มีเวลาว่างก็ต้องอ่านหนังสือ เลยไม่ค่อยได้เจอกับเพื่อนเท่าไหร่ ตอนนี้หนูเรียนที่จุฬาฯ คณะอักษรศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ปี1 การเข้ามาในวงการบันเทิง  ก็ต้องปรับตัว ยากนิดหนึ่ง มีแต่สิ่งแปลกๆ ที่ต้องทำ แต่ก็ไม่เท่าไหร่ เพราะมีผู้ใหญ่ และมีคุณแม่มาช่วยดูอยู่แล้ว
 
ถือว่าเด็กไปไหมที่ต้องมารับภาระหนัก ทั้งเรียนและทำงาน
 ไม่คิดว่าหนักนะ จริงๆ หนูอยากทำตรงนี้ด้วย เป็นความฝันของหนู หนูมีคุณพ่อคุณแม่สนับสนุน และให้กำลังใจ ไม่คิดว่าหนักเกินไปสำหรับเรา

ตั้งรับกับชื่อเสียงอย่างไรบ้าง
 จริงๆ หนูไม่คิดว่าจะมีชื่อเสียงอะไร แต่ก็มีพี่ๆ ผู้ใหญ่จะสอน ว่าจะต้องวางตัวยังไงบ้าง พี่ๆ จะบอกว่าให้น่ารักแบบนี้ตลอดไป โดยเฉพาะพี่ต๊ะ (วริษฐ์ ทิพโกมุท) จะเป็นคนที่สอนหนูเยอะมาก พี่ต๊ะเหมือนเป็นพี่ชายหนูคนหนึ่ง เขาจะสอนเรื่องการวางตัวเยอะเหมือนกัน

รับมือกับข่าวคราวที่จะเข้ามาอย่างไรบ้าง
 กลัวเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะมี ก็คงต้องระวังตัวมากขึ้น จริงๆ ไปไหนมาไหน หนูมีคุณแม่ไปด้วยตลอด คุณพ่อกับคุณแม่หวงพอๆ กัน แต่คุณแม่ห่วงมากกว่าหวง แล้วหนูก็ติดคุณแม่ด้วย (หัวเราะ) หนูเป็นคนติดบ้าน ถ้ามีเวลาว่าง ก็จะอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยไปเที่ยวไหน ส่วนเรื่องหนุ่มๆ คุณพ่อคุณแม่ก็คงมีหวงบ้าง แต่หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยคุยกับผู้ชายมาก ถ้ามีคนมาจีบหนูยังไม่รู้ตัวเลย(หัวเราะ)

มีคนทักว่าหน้าเหมือน เทย่า โรเจอร์
 ดีใจมากเลย มีคนทักเยอะเหมือนกัน หนูว่าเขาสวยมาก ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองเหมือนเขา รู้สึกดีที่คนบอกว่าหน้าเหมือน ถือว่าเป็นคนชม หนูไม่ซีเรียสเลยที่คนเอาไปเปรียบเทียบ ดีใจด้วยซ้ำ หนูเคยดูพี่เทย่าเล่นละครเรื่อง ปริศนา แต่ไม่เคยเจอตัวจริงๆ หนูชอบเขาอยู่แล้ว ก่อนเข้าวงการหนูปลื้มพี่เขาอยู่แล้ว ถ้าเจอก็คงขอถ่ายรูปคู่ด้วย (ยิ้ม)  แล้วก็มีคนทักเหมือนพี่แหม่ม คัทลียา ด้วย หนูก็อยากเหมือนมาก (หัวเราะ) เพราะพี่เขาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เหมือนเจ้าหญิงเลย แล้วหนูก็ปลื้มพี่เขาอยู่แล้วด้วย

ความรัก

ตอนนี้หัวใจเป็นสีชมพูไหม
 ยังไม่มีเลย หนูว่ายังเด็กด้วย กลัวจะแบ่งเวลาไม่เป็น อยากเน้นกับการงานและการเรียนมากกว่า

มีหนุ่มสเปกไหม
 มีนะ...ชอบผูชายอารมณ์ขัน แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องชอบด้วย ต้องเป็นสุภาพบุรุษ กับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรู้จักกันตั้งแต่ 4 ขวบ  ไม่มีใครกล้าจีบ เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนบอกว่าหนูติงต๊อง(หัวเราะ) แต่หนูว่าหนูยังเด็กไป ต้องอายุมากกว่านี้ถึงจะมีแฟน  คุณแม่บอกว่าต้องเรียนจบก่อนค่อยมีแฟน(หัวเราะ)

เคยคิดไหมอยากแต่งงานอายุเท่าไหร่
 หนูเป็นคนนิ่งๆ เงียบขี้เล่น มีแต่คนบอก ว่าทะเล้น ฉะนั้นตอนเด็กหนูเลยไม่คิดอะไร  เลยยังไม่คิด แต่วันหนึ่งก็อยากมีครอบครัวของตัวเอง มีความฝันอยากใส่ชุดแต่งงาน ใส่ชุดสวย มีงานแต่งที่สวยๆ

 แหม...เห็นความตั้งใจของเธอแบบนี้ อนาคตในวงการบันเทิงรุ่งชัวร์ !

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ