"โต้"สุหฤท สยามวาลาเมื่อผู้บริหารขอ"เก(เร)"อีกครั้ง

ด้วยประสบการณ์งานดีเจแนวElectro Minimal Progressive house นานกว่า 15 ปี แถมยังเคยออกอัลบั้มมาแล้วถึง 2 ชุด เริ่มจากอัลบั้มแรกชื่อ สุหฤท กับแนวแฮปปี้ ฮาร์ดคอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ตามด้วยอัลบั้ม "ดิจิตัล พังก์" ด้วยความสามารถทั้งในและต่างประเทศบวกกับสไตล์การแต่งตัวสุดล้ำไม่เหมือนใคร ทำให้ "โต้" สุหฤท เป็นที่สนใจและมีแฟนเพลงที่เฝ้ารอติดตามผลงานชิ้นใหม่

และหลังจากปล่อยให้แฟนเพลงรอมายาวนานเกือบ4 ปี วันนี้ "โต้" สุหฤท พร้อมแล้วกับการเปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อฟังแล้วเสียวอย่าง "เก" โดยได้คลอดซิงเกิลแรกสุหครับ ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างซาวนด์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ถนัดบวกกับเนื้อร้อง-ทำนองและเสียงกีตาร์ที่ บอล กับ เมื่อย วงสครับบ์ เป็นผู้แต่ง ทำให้ฟังแล้วแตกต่างจากทุกเพลงที่เขาเคยทำ กลายเป็นอัลบั้มอิเล็กทรอนิกส์-ป๊อปที่ฟังง่ายขึ้น

"โต้" สุหฤท เล่าให้ฟังว่า อัลบั้มนี้ใช้เวลาทำงานยาวนาน ด้วยเหตุเพราะต้องทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน การทำงานจึงเป็นลักษณะทำไปเรื่อยๆ บางครั้งกลับบ้านอยากจะทำเพลง แต่เมื่อลูกๆ เข้ามาเล่นด้วย ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนมาเล่นกับลูกๆ แทน หรือบางครั้งไม่มีอารมณ์ก็จะไม่ได้ทำงาน 

ด้วยระยะเวลาทำงานยาวนานสุหฤทยอมรับว่า ทำให้ต้องมีการปรับเรื่องของซาวนด์ และเรื่องเนื้อหาบ้าง เนื่องจากงานที่ทำไว้นานจะไม่เข้ากับยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการเมือง การเสียดสี ซึ่งจะต้องปรับไปตามสถานการณ์ ส่วนถ้าเป็นเรื่องของความรัก ความรู้สึกที่เป็นเรื่องคงที่ ก็จะไปปรับในเรื่องของซาวนด์

"อัลบั้มนี้จะมีเพลงใหม่ 10 เพลง นอกจากนี้ผมก็จะยังเอาเพลงที่คิดว่าดีๆ มารีมิกซ์ด้วย แล้วยังมีเพลงอีกส่วนหนึ่งที่ทำไว้ แต่จะเก็บไว้ก่อน เก็บไว้เป็นซิงเกิลใหม่ให้คนฟังมาดาวน์โหลดได้ฟรี ผ่านเว็บไซต์ของผม ผมอยากจะลองอะไรใหม่ๆ ไม่อยากให้แค่ซื้ออัลบั้มผมแล้วจบ ผมอยากทำให้แตกต่างจากแพทเทิร์นเดิมๆ ที่เคยเห็นกัน

เพลงใหม่ๆที่จะนำมาลงให้ดาวน์โหลดกัน ผมก็ไม่ได้กำหนดว่าจะมีกี่เพลง คือถ้าซื้ออัลบั้มไปก็จะได้รหัสไว้สำหรับดาวน์โหลด เมื่อไหร่ที่ผมทำเพลงใหม่ ผมก็จะเอาไปลงไว้แล้วก็เข้าไปดาวน์โหลดกันได้เรื่อยๆ ผมว่าทุกวันนี้รายได้จากการขายซีดีมันน้อยมาก วิธีนี้จะทำให้งานเราไปถึงแฟนเพลงได้ง่ายขึ้น" สุหฤทเล่าถึงงานในอัลบั้ม พร้อมกับบอกให้ฟังต่ออีกว่า

"ดนตรีในอัลบั้มนี้ก็จะเป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แบบที่ผมถนัด แต่สิ่งที่ผมพยายามใส่ลงไปคือ ปรับให้ป๊อปลงมาหน่อย ให้ฟังไม่ยากเกินไป ซึ่งได้ดีเจวราฤทธิ์ มังคลานนท์ เพื่อนสนิทของผมที่คลื่นแฟต เรดิโอ 104.5 มาช่วยโปรดิวซ์ให้ ทำให้ได้ความป๊อปเพิ่มเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับข่มขืนตัวเองว่าสุดท้ายเราก็ทำเพลงป๊อป เพราะจริงๆ แล้วผมเองอยากทำเพลงป๊อป เพียงแต่ป๊อปของผมมีคนชอบแค่กลุ่มเท่านี้ วันนี้ผมอยากให้มีคนชอบมากขึ้น ก็ลดความซับซ้อนทางดนตรีลงมา เปลี่ยนเป็นซาวนด์ที่ทันสมัยขึ้น"

นอกจากจะได้ดีเจวราฤทธิ์มาช่วยควบคุมการผลิตเพื่อให้งานฟังง่ายขึ้นสุหฤทยังได้เพื่อนๆ นักดนตรีอย่าง ตุลและปั๊ม อพาร์ตเมนต์คุณป้า, วงสครับบ์, "แอ๊นท์" ธรัญญา สัตตบุศย์, ดู เดย์ทริปเปอร์, วงมหาจำเริญ มาร่วมสร้างสรรค์งานในอัลบั้มนี้ให้มีสีสันมากขึ้น

"อย่างแขกรับเชิญทุกคนผมก็เลือกเอง ซึ่งก็เป็นเพื่อนๆ ในวงการที่ไม่ได้ถูกกรอบของค่ายล้อมไว้ อย่าง ปั๊ม กับ ตุล อพาร์คเมนต์คุณป้า ก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกันในงานปาร์ตี้ พอได้มาร่วมทำงานก็จะได้ความแสบของตุล บวกกับกีตาร์เท่ๆ ของปั๊มมา แก๊งนี้เรียกว่าทำงานกันสดๆ ในห้องอัดเลย หรืออย่างสครับบ์ ผมส่งกลองไป เขาก็ไปทำมา กลับมาก็เป็นสครับบ์มาก ผมก็กลับมาปรับให้เป็นอารมณ์เรา ใส่เสียงสังเคราะห์เข้าไปเพิ่ม แต่ไม่ให้มากเกินเพื่อให้มีความเป็นสครับบ์ด้วย งานที่ออกมาก็จะผสมกัน

เพลงของผมจะไม่มีแพทเทิร์นชัดเจนเพราะผมไม่รู้เรื่องโน้ตเลยสักตัวเดียว ผมจะเอาความรู้สึกของผมเป็นหลัก ถ้าผมฟังแล้วสนุกมันก็ใช่ หากจะเอาทฤษฎีดนตรีมาวัดผมไม่รู้เรื่องตรงนั้น เวลาทำงานกับเพื่อนๆ ศิลปิน ผมจะให้จังหวะไป แล้วให้เขาลุยเพลงตามที่ถนัด แล้วผมก็จะมาดูอีกทีว่าจะเสริมอะไรเข้าไป เป็นลักษณะช่วยกัน แต่ละคนก็ไม่ได้จู้จี้ ผมเองก็ต้องให้เกียรติเขา เพราะเขาก็ให้เกียรติมาทำงานให้ อีกอย่างก่อนที่ผมจะเลือกใคร ผมเองก็มั่นใจแล้ว มันก็เลยสนุกมากในการทำงานอัลบั้มนี้"

ในส่วนของเนื้อหาสุหฤทเล่าว่า "เรื่องเนื้อหา อย่างเพลงเก ผมก็ใช้วิธีเล่นคำ คนฟังอาจจะคิดว่าหมายถึงตุ๊ดแต๋ว แต่จริงๆ หมายถึงเกเร ชีวิตคนเรามันต้องมีเกเรกันบ้าง ซึ่งถึงจะเกเรเราก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรืออย่างเพลงยานแม่ ผมก็จะนึกถึงโลกดาวอังคารที่มีรักที่ดีมาก มีเซ็กส์ที่สมบูรณ์ แต่ผู้ชายก็ยังไม่ดี อยากกลับมายังโลก จนมาเจอผู้หญิงคนใหม่ แต่สุดท้ายผู้ชายก็รู้ว่ามันไม่ใช่ แล้วผู้หญิงคนเดิมก็เลยขึ้นยานมารับตัวผู้ชายกลับดาวอังคาร

อัลบั้มของผมจะไม่มีเพลงรักประเภทเธอทิ้งฉันแล้วฉันจะต้องตายโลกนี้จะต้องมลาย ผมจะไม่มีเพลงแบบนั้น เพราะผมแต่งไม่เป็น การทำงานของผมก็จะเป็นความรู้สึกตอนนั้น เป็นสิ่งที่เราเห็น คนที่มาทำงานด้วยกันก็ต้องจูนกันได้ คิดในทางเดียวกัน ให้ผมไปทำงานกับคนทำงานเพลงรักหวานแหวว ทำได้แต่จะแฮปปี้แค่ไหน อันนั้นไม่รู้"

ถามว่าการปรับให้มีความป๊อปมากขึ้นเพื่อทดลองอะไรบางอย่างกับคนฟังหรือเปล่าเพราะก่อนหน้านี้คนบางกลุ่มมักจะตั้งกำแพงว่า เพลงของเขาประหลาด ฟังไม่รู้เรื่อง ดีเจคนดังกล่าวตอบว่า

"ถ้าจะไปกาหัวว่าคนที่ฟังเพลงผมเป็นคนประหลาด มันไม่ใช่เลย การทำงานครั้งนี้ผมเลยลองมาหาจุดที่ลงตัวดู เอาความป๊อปใส่ลงไป จะเรียกว่าทดลองก็ไม่ใช่ ผมเชื่อว่าดนตรีที่ดีต้องมีความลงตัวหลายอย่าง หากจะทำเพลงยากๆ ให้คน 12 คนปรบมือให้ แบบนั้นผมก็ทำได้ แค่ทำให้คนที่บ้านฟังก็พอแล้ว วันนี้ผมกำลังค้นหาว่าความลงตัวตรงนี้คืออะไร ผมอาจจะแต่งเพลงรักแบบตลาดไม่เป็น แต่ผมอยากไปอยู่ตรงนั้นในแบบที่ผมเป็น ผมว่ามันยากยิ่งกว่า ผมว่าอัลบั้มนี้ลงตัว อาจจะไม่ลงตัวแบบฉลองล้านตลับ แต่ก็ลงตัวสำหรับผม"

ตบท้ายเมื่อถามถึงเรื่องการแต่งตัวที่จัดจ้านจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นเพราะอะไรที่ต้องทำถึงขนาดนั้นทั้งที่ตัวเขาก็มีหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัวที่ดี สุหฤทตอบสั้นๆ อย่างได้แง่คิดว่า

"การทำงานตรงนี้มาจากเงินที่ผมทำงานดีเจมา ไม่ได้เอาเงินที่บ้านมาใช้ หรือหากจะบอกว่าไม่ได้เอาเงินอนาคตของลูกมาใช้ก็ไม่ผิด พอเป็นเช่นนี้ผมเองก็อยากทำเต็มที่ อยากทำให้เห็นว่าผมทำเต็มที่จริงๆ ผมว่าไม่ว่าใคร หากรักที่จะทำอะไรก็ต้องไปให้สุด สนุกกันมันจริงๆ"

ใครที่สนใจหาซื้ออัลบั้มของเขามาฟังกันได้ที่ร้านน้องท่าพระจันทร์ ร้านดีเจสยาม และบีทูเอสทุกสาขา หรือ www.suharit.com