'เชน' รับ 'แพร' คือคนในครอบครัว

         บันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าเป็นคู่รักสายบุญคู่ใหม่สำหรับ “เชน” ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์  และ “แพร”พรรัมภา สุขได้พึ่ง ล่าสุดมีลงภาพไปเที่ยวพม่าขอพรเทพทันใจ งานนี้เลยต้องมีถามไถ่ว่าไปทำอะไร ซึ่งทั้งคู่ได้กล่าวแจงในงานแถลงข่าวกิจกรรม AEON MINI MARATHON #3 ที่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งหนุ่มเชนได้กล่าวถึงทริปนี้ว่า

"ล่าสุดไปพม่าเรียกว่าไปทำงานดีกว่า ผมว่ามันดีต่อวงการภาพยนตร์และวงการโทรทัศน์ รวมถึงการท่องเที่ยวด้วยเพราะเป็นการที่ประเทศไทยและประเทศพม่าจะจับมือร่วมกันผลิตรายการสารคดีเกี่ยวกับ 2 ประเทศนี้ เนื่องจากเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านกันถ้าทำธุรกิจตรงนี้ร่วมกันได้ผมว่ามันก็เป็นผลดีทั้งเขาและเรา พม่าเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน คนที่ไปก็จะรู้เรื่องไหว้พระที่เจดีย์ชเวดากอง หรือไปขอพรเทพทันใจ แต่เราไม่รู้ว่ามันจิมีกิมมิกเล็กๆ ประเทศพม่า อย่างคู่รักจะชอบไปนั่งริมทะเลสาป และต้องไปนั่งขุดหญ้าซึ่งมันน่ารักมาก แล้วหญ้าตรงนั้นจะเรียบมาก โดยไม่ต้องไปจ้างใครเลย ยังไม่รวมถึงสถานที่เที่ยวทางทะเลและอาหารการกิน มันก็เลยเป็นงานที่ร่วมกันขึ้นมา เรื่องขอพรผมมีขอแน่นอนแต่เมื่อวานผิดหวังไปเรียบร้อยแล้ว 

 

 

         เมื่อถามถึงเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน 

       ก็เป็นร้านเนื้อย่าง จุดเริ่มต้นมาจากที่ผมและแพรเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ทุกวันนี้ก็ทำทานที่บ้าน เวลาเราทำ เราก็อยากรู้ว่าอร่อยไม่อร่อยเราตัดสินเองไม่ได้ เราก็จะเชิญเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้าน เพื่อนถามว่าทำไมไม่ทำขายในเมื่อมันอร่อยมันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นทำ เราก็ทำมาเรื่อยๆ จนมาวันนี้มันมีโอกาสที่เราได้ออกอีเว้นท์และติดใจในรสชาติ และชอบถามว่า เมือ่ไหร่จะไปขายอีกซึ่งเราก็ไปขาย โดยจ้างเด็กแต่ที่เห็นในไอจีว่าเราไปขายเอง เพราะเรารู้สึกว่าเราอยากไปขายเองเราอยากเห็นสีหน้าเขาทานแล้วเขาบอกว่าเอาอีก  เราก็จะเอาเวลาว่างจากการถ่ายละครเข้าร้านให้มากที่สุด พอเราเข้าร้านแล้วครั้นจะไปนั่งดูเด็กขายมันก็ไม่สนุก 

 

 

          เมื่อถามต่อถึงธุรกิจเนื้อย่างที่ดีวันดีคืน ซึ่งหลายคนชื่นชมโดยนำภาพของทั้งคู่ตอนขายของไปแชร์ พร้อมชื่นชมว่าเป็นคู่รักไม่หมิ่นเงินน้อย ช่วยกันทำมาหากิน ซึ่งนักแสดงหนุ่มกล่าวว่า 

          "คือจุดประสงค์ตรงนี้ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีหรอก หลายคนจะออกมาบ่นว่าเศรษฐกิจตกต่ำ ผมมองว่าถ้าเราไม่อยู่เฉยมาทำอะไรก็ได้ เราเริ่มลงมือทำเมื่อไหร่ มันอาจจะได้แค่หลัก 10 บาท แต่ 10 บาทหลายๆ ครั้งก็รวมกันเป็นร้อยเป็นพันได้ มันทำได้ มันขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะทำหรือเปล่า ผมออกงานหรือถ่ายละคร ยอมรับว่ามันได้ตังค์เยอะ แต่มันคือความสุข คือถ้าเราว่างแล้วนอนอยู่บ้านมันไม่มีเงินงอกเงย แต่ถ้าเราเอาเวลามาทำตรงนี้ คือเราชอบทำด้วย เราชอบกินด้วย ทุกครั้งที่เรารับเงินส่วนนี้ เราจะรู้สึกมีค่ามาก

 

          (ทำธุรกิจร่วมกันขนาดนี้จะมีข่าวดีหรือยัง) ก็แต่งแน่ๆ คือผมไม่อยากบอกว่าเร็วๆนี้ เอาเป็นว่าถ้าเราพร้อมเดี๋ยวค่อยว่ากัน (มีพูดคุบเรื่องนี้กับผู้ใหญ่บ้างไหม)ทุกวันนี้ผมถือว่าแพรเป็นคนในครอบครัวผมอยู่แล้ว ผมกับแม่เขาก็สนิทกัน ส่วนแม่ผมเขาก็รักแพรมากกว่าผมเสียอีก เราก็ถือว่าเป็นครอบครัวแล้ว การมานั่งพูดคุยเรือ่งแต่งงานมันมีอยู่แล้ว ท่านก็บอกว่าให้รีบแต่งนะเราก็บอกว่าได้ แต่เราขอทำตรงนี้ให้โอเคก่อน เดี๋ยวค่อยแจ้ง"

 

            ส่วนแพรกล่าวถึงการโอกาสที่ได้เดินทางไปพม่าในครั้งนี้ว่า ที่เราได้เป็นตัวแทนอาจเป็นเพราะเขาดูไอจีเรา 

          "อาจจะเป็นเพราะในไอจีเรามีภาพไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เยอะหรือเปล่า คือเราทั้ง 2 คนชอบการท่องเที่ยว และ  ทางนั้นก็อยากให้นักแสดง ดาราไทยไปสถานที่ต่างๆ ของพม่า คือถ้าพูดถึงพม่า คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการไหว้พระทำบุญ แต่ตอนนี้เขาเริ่มรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งแพรกับเชนไปมา ก็มีหลายๆ อย่างที่เราเพิ่งรู้ว่าที่นั่นสวยและอันซีนเหมือนกัน ส่วนแพรไปถึงพม่าก็เลยไปขอพรเรื่องงาน ถ้าทุกคนเห็นไอจีก็จะเห็นธุรกิจเล็กๆ ของเรา ก็เลยขอเรื่องงานมากกว่า

 

 

           (คนไปแชร์ว่าเราเป็นคู่รักไม่หมิ่นเงินน้อย ช่วยกันทำมาหากิน) เห็น ก็ต้องขอบคุณ จริงๆ ธุรกิจนี้เราทำมาปีครึ่งแล้ว พอมีคนลงรูปมันก็เหมือนเป็นกำลังใจเล็กๆ ของเรา บางคนก็อยากให้เราแชร์ประสบการณ์ หลายคนอยากต่อยอดจากเรามาขอซื้อแบรด์เราไปทำ มันก็เลยมีคำว่าแฟรนไชส์ขึ้นมา"