'นิชคุณ'ยิ้มปลื้มแฟนคลับแน่นงานแถลง

          ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ถือว่าเป็นศิลปินคนไทยแรกๆ ที่ไปโด่งดังต่างประเทศ สำหรับ นิชคุณ หรเวชกุล หนึ่งในสมาชิกวงทูพีเอ็ม ล่าสุดศิลปินหนุ่มได้จัดคอนเสิร์ตโซโล่เดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในชีวิต “นิชคุณโซโล่ คอนเสิร์ต‘โฮม’อิน แบงคอก วิท ดร.จิลล์” (NICHKHUN SOLO CONCERT ‘HOME’ IN BANGKOK with Dr.Jill) โดยผู้จัดไฟแรง “อะชิ แอคทิเวชั่น” (A CHI ACTIVATION) ซึ่งงานแถลงข่าวได้จัดขึ้นที่ โรงแรมแลงคาสเตอร์ ห้องแลงคาสเตอร์6-7ถนนเพชรบุรี งานนี้มีสื่อมวลชนและเหล่าแฟนคลับมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง 

 

          โดยนิชคุณปรากฎกายบนเวทีก่อนจะทักทายผู้ร่วมงานด้วยรอยยิ้มก่อนจะเผยถึงความรู้สึกที่ได้จัดงานในครั้งนี้ว่า 

         "มันเป็นความรู้สึกที่อะเมซิ่งมาก เพราะมันเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่ประเทศไทย ที่บ้านเกิดของผม เป็นอะไรที่ต้องทำให้ดีจริงๆ ต้องโชว์ให้แฟนคลับทุกคนที่มาดูว่าคุณก็ทำได้ เรียกว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่าเราก็ทำได้ ซึ่งคอนเสิร์ตที่เมืองไทยจะพิเศษกว่าที่ประเทศอื่น คือผมคิดว่ามันพิเศษตรงที่คนดูมากกว่า เพราะคนไทยไม่เหมือนประเทศอื่นอยู่แล้ว แต่ขออุบไว้ก่อน "

@@ สำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งนี้ อะไรที่หนักที่สุดหรือยากที่สุดสำหรับนิชคุณ

          หนักใจมากทุกเรื่องเลย เพราะตามสไตล์แนวเพลงที่ผมชอบจะเป็นเพลงง่ายๆ ไม่ได้เป็นเพลงที่ต้องหนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ แต่การจะทำคอนเสิร์ตขึ้นมาแล้วร้องแต่เพลงสบายๆ มันก็ดูเหมือนกับไม่พยายาม มันดูชิลไป ผมก็เลยบอกกับทีมงานว่า งานครั้งนี้ผมก็เลยขอเล่นดนตรีด้วยแจมกับวงดนตรีไปเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพอผมพูดแบบนั้นออกมา ทุกคนบอกว่าชอบคอนเซปต์ ทำให้ผมต้องกลับไปซ้อม และผมพยายามจะคุมคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเวที แสง ดนตรี ให้เป็นสไตล์ผมก็เลยหนักนิดหนึ่งในการซ้อม

@@ ได้ซ้อมบ้างแล้วสบายใจขึ้นไหม

          มันก็สบายขึ้น แต่ด้วยความที่การแสดงของเรา  อย่างการเต้นมันเต้นด้วยร่ายกายร่างกายเราก็จำได้มันก็จะไปเอง แต่การเล่นดนตรีมันมีอะไรหลายอย่างที่เข้ามา บางครั้งมันก็ทำให้เราหลุด ทำให้เราเล่นผิดเล่นเพี้ยน มันทำให้เราต้องคิดหลายก็เลยจะหนักกว่าปกตินิดหนึ่ง ซึ่งเล่นทุกครั้ง แสดงทุกครั้ง ผมก็ตื่นเต้นทุกครั้ง 

 

 

@@ก่อนหน้านี้ไปแสดงที่เกาหลีกับญี่ปุ่นมาแล้ว ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

           คือตื่นเต้นเป็นหลายวันก่อนจะขึ้นคอนเสิร์ต พอมาถึงที่ฮอลล์ ซ้อมอะไรเสร็จผมก็จะกลับเข้าไปที่ห้องพัก ซึ่งของพักของผมก็จะมีเปียโนตั้งอยู่ เราก็จะเล่นเปียโนไม่ยอมให้ใครเข้ามาที่ห้องเพราะต้องการทำสมาธิ คือตื่นเต้นมาก พอแสดงเสร็จก็รู้สึกโล่งอกมาก เพราะว่าเป็นอะไรที่มันจบลงด้วยความสุข ไม่มีอะไรผิดพลาด คืออย่างแรกที่ผมอยากจะทำคือให้ความสุขกับคนดู โชว์ความเป็นผม ไม่อั้นเรื่องการพูด แสดง เต้น ร้อง ผมให้เต็มที่ อย่างที่สองคือทำให้ผิดพลาดน้อยที่สุดเพราะมันเป็นการแสดงสด มันเป๊ะไม่ได้ทุกครั้ง คือตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าเราเป็นนักแสดงเราต้องเพอร์เฟคขนาดไหน แต่พอได้แสดงคอนเสิร์ตมาเราก็รู้เลยว่า ความสำคัญของคอนเสิร์ตไลฟ์นั้นคือโมเม้นต์ๆ นั้นที่เราส่งพลังออกมาให้คนดูได้มากขนาดไหน อย่างบางทีเราแสดงคอนเสิร์ตแต่เรากลับไปคิดเรื่องอื่นอยู่ผมว่าคนดูก็น่าจะรู้แหละว่าเราแค่ร้องเพลงให้ฟังเฉยๆ แต่ถ้าเราอยู่กับคนดูส่งพลังให้คนดู คนดูก็จะมีความสุขมากขึ้น

@@สมาชิกทูพีเอ็มให้กำลังใจกับการโซโล่คอนเสิร์ตของเราอย่างไรบ้าง

          เรียกว่าดูกันเกือบทุกคนแล้ว เหลือแค่ 2 คนที่ยังอยู่ในกรมมาไม่ได้ ชันซอง ‎แท็กย็อน‎ และ  ‎จุนโฮ เขามาดูแล้ว เขาบอกว่าเขาอึ้งที่เราทำได้และทำได้ดีเพราะผมในทูพีเอ็มจะไม่ค่อยมีบทบาททางดนตรีสักเท่าไหร่ ผมไม่เคยแสดงตัวว่าผมเป็นนักดนตรีแต่เวทีนี้ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ละคนก็อึ้งกัน ก็เก่งนี่อะไรแบบนี้ ก็เป็นรูปแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อยากจะบอกว่าถึงแม้ผมจะเป็นไอดอล แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเหมือนไอดอลที่คุณเคยดูกันมา ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี แต่มันจะมีความสบายในตัวมากกว่า คุณจะไม่เห็นผมอยู่ดีๆ ก็โผล่จากพื้นเวที ไม่มีๆ คือเราไม่ใช้ตังค์เยอะขนาดนั้น (ยิ้ม)

 

 

@@ มีแอบชวนเพื่อนๆ ในวงมาดูคอนเสิร์ตที่ไทยไหม

          ไม่กล้าชวน เดี๋ยวเขาให้ผมออกค่าเครื่องบินให้ เลยไม่กล้าชวน 

@@ ถามถึงอัลบั้มเดี่ยว ME ทราบว่านิชคุณมีส่วนร่วมทั้งเนื้อร้องและทำนองเกือบทุกเพลง อยากทราบว่าหนักใจหรือเหนื่อยบ้างไหม

          เหนื่อยมากช่วงนั้น อัลบั้ม ME ผมใช้เวลาแต่ง 7 เดือนได้ คือผมไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ คือเปียโนผมพอเล่นได้เราก็เล่นเปียโน แต่งไป ร้องไป แล้วส่งให้กับพี่ที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งเขาก็ช่วยคิดช่วยอะไรหลายอย่าง แต่ผมอยากทำให้มันเป็นของผม ไม่ใช่แต่งมานิดเดียวแล้วให้เขาไปทำต่อ ผมก็เลยคุมทุกขั้นตอนเลยก็เลยหนักหน่อย 

 

 

@@ มีเพลง Umbrella ที่มีหลายเวอร์ชี่น หลายภาษามาก ทั้งไทย อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน อยากทราบว่าภาษาไหนแต่งยากที่สุด 

          คือตอนแรกผมแต่งเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว แล้วให้เขาไปแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น จีน โดยภาษาอังกฤษกับไทยผมเป็นคนแต่งเนื้อร้อง ส่วนภาษาเกาหลีผมมีช่วยคิดนิดหน่อย ถ้าถามว่าภาษาไหนยากสุด ผมว่าภาษาไทย เพราะผมพยายามหาคำสวยๆ ไปใส่ข้างใน ตอนที่ผมแต่งผมอยู่เมืองไทย คือตอนนั้นกลับมาถ่ายทองเอก่แล้วมานั่งอยู่ในห้อง เราก็คอยถามทีมงานคนไทยว่าตัวนี้สะกดอย่างไร คำนี้สะกดอย่างไร เพราะผมไม่ได้เขียนมานานแล้วก็สะกดผิดสะกดถูก แต่งเนื้อเองภาษาไทยก็ไม่ง่าย ส่วนเวอร์ชั่นที่ร้องยากคือภาษาจีน 

@@ หลายคนถามว่าถ้าให้เลือกเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้ม ME ทำไมนิชคุณต้องตอบว่าเพลง Mare เสมอ มันมีอะไรพิเศษ

          เออ...ผมชอบเมโลดี้ของมัน เพลงนี้ผมแต่งที่เมืองไทยตอนนั้นกำลังนั่งรถตู้ไปเที่ยวหัวหิน ระหว่างที่ฮัมเพลงอยู่ดีๆ มันก็มีบางท่อนที่เรารู้สึกว่าใช้ได้ก็เลยเอาโทรศัพท์มาอัดเสียงแล้วค่อยไปใส่เนื้อร้องทีหลัง ตอนแรกผมจะแต่งเพลงนี้ให้เป็นเพลงเร็ว แต่พอฟังเพลงอื่นๆ แล้วมันไม่มีเพลงบัลลาดช้าๆ ก็เลยใส่เปียโนทำเป็นเพลงช้า ซึ่งโดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบเพลงช้าอยู่แล้ว ก็เลยถูกใจ

 

 

@@ แล้วทำไมถึงเลือกเพลง Luck charm เป็นเพลงไตเติ้ล

          ผมว่ามันฉีกแนวดี เพราะทุกคนในทูพีเอ็มเคยออกโซโล่อัลบั้มกันมาหมดแล้ว และแต่ละคนจะเสนอเพลงที่มีบีชนิดหนึ่งและเป็นเพลงเร็วๆ เต้นๆ หน่อย จริงๆ เพลง Luck charm ออกมาพร้อมๆ กับ เพลง bridge ซึ่งทางบริษัทอยากเอา bridgeมาเป็นไตเติ้ล คือผมก็ชอบทั้ง 2 เพลงนะแต่ถ้าเราใช้ bridge มันก็จะไม่มีความต่างกับทูพีเอ็มคนอื่น ก็เลยเลือกเพลง Luck charmเป็นเพลงไตเติ้ล จะก็จะดูฉีกแนวและเป็นตัวผมมากกว่า และผมก็ซื้อกีต้าร์เพื่อจะเล่นเพลงนี้บนเวที

@@ ก่อนหน้านี้เล่นหนังละครมากมาย บรรยากาศตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

          เป็นนักแสดงก็สนุกอีกแบบ ผมว่ามันเป็นคนละฟีลมากกว่า อย่างแสดงบนเวทีเราก็จะเห็นฟีตแบคจากคนดูทันที ส่วนงานแสดงด้านอื่น เราก็ต้องรอหนังออกมาก่อน ละครออกมาก่อน เราถึงจะทราบถึงปฎิกิริยาของคนดู มันเป็นความตื่นเต้นที่แตกต่างกัน

 

 

@@ หนังเรื่อง “น้องพี่ที่รัก” ได้ไปโปรโมทหลายที่ ประทับใจที่ไหนที่สุด 

          ใช่ๆๆ ก็มีไปโปรโมทที่ สิงคโปร มาเลเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ก็ต้องประทับใจที่ประเทศไทยอยู่แล้ว ส่วนที่ไต้หวันและมาเลเซียก็ค่อนข้างให้การตอบรับที่ดี คือเป็นหนังเรื่องแรกที่ผมออกไปโปรโมทก็ตกใจนิดหนึ่งที่มีคนให้ความสนใจ คนมาดูเยอะ ที่ประทับใจคือเขาให้ความสนใจหนังไทยก็รู้สึกดีใจที่ผมเป็นหนึ่งในโปรเจคหนังเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ดูแล้ว ผมก็ชอบเหมือนกัน (หัวเราะ)

@@ เป้าหมายปีนี้และปีหน้ามีอะไรบ้าง

          ปีนี้มีงานแสดงเข้ามาเยอะ โดยที่ผมไม่ได้คาดหวังอะไร คือผมเป็นคนไม่เรื่องมาก ตอนนี้รับไปแล้วกำลังถ่ายอยู่เรื่องหนึ่งเป็นซีรีส์ และมีหนังอีกเรื่องหนึ่ง แต่นอกจากงานแสดงผมก็มีงานเพลงด้วย 

 

 

@@ ณ วันนี้ภูมิใจอะไรในตัวเองมากที่สุด 

          ผมว่าอัลบั้มแรกกับคอนเสิร์ตครั้งแรกนี่แหละ เพราะว่า... คือแฟนคลับผมก็จะรู้แหละว่าในวงผมไม่ได้เป็นนักร้องนำ ไม่ได้เป็นคนร้องเก่ง เต้นเก่ง ผมไม่ได้เก่งในด้านดนตรี คือผมคิดอย่างนั้นมาโดยตลอดจนกระทั่งได้ทำอัลบั้มนี้  ได้ทำคอนเสิร์ตนี้ คือผมอาจจะไม่ใช่คนเก่งแต่เราก็ทำได้ เพียงแค่เราตั้งใจทำมัน อยากจะทำมัน สิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำได้มันก็ทำได้ขึ้้นมา มันก็เลยเป็นการภูมิใจในตัวเอง ว่าถ้าเราพยายามมากกว่านี้ก็จะทำได้ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นการบอกกับตัวเองว่า ยูทำได้ ๆๆ

@@ อยากบอกอะไรกับแฟนๆ บ้าง

         ขอโทษด้วยที่ต้องใช้เวลากว่า 11 กว่าจะมีอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มแรก ขอโทษที่ให้รอนาน ถือว่าเป็นก้าวแรกของผมก็แล้วกันในการเป็นศิลปิน เป็นนักดนตรี นักร้อง และหลังจากนี้ผมจะโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าผมทำได้ดีกว่านี้ ไม่หยุดแค่นี้ และจะก้าวต่อไป 

 

 

          สำหรับงานคอนเสิร์ต คอนเสิร์ต‘โฮม’อิน แบงคอก วิท ดร.จิลล์” (NICHKHUN SOLO CONCERT ‘HOME’ IN BANGKOK with Dr.Jill) จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 กรกฏาคม2562 ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ