"เพชรา" เผยโฉมคู่ "ชรินทร์" ประหลาดใจที่ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ขอบคุณแฟนภาพยนตร์ ที่ยังรักและเมตตานักแสดงที่มองไม่เห็น
บันเทิง คมชัดลึ - ไม่ค่อยออกงานให้แฟนๆ ได้ยลกันสักเท่าไหร่สำหรับ เพชรา เชาวราษฎร์ ล่าสุด ชรินทร์ นันทนาคร สามีได้จัดงานเลี้ยงฉลองแสดงความยินเนื่องในโอกาสที่ เพรชาได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์) ประจำปี 2561 โดยงานครั้งนี้เพชราได้เผยโฉมในวัย 76 ปี ที่ยังคงความสวยแบบไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว เจ้าตัวและสามียังได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังครั้งแรกในรอบหลายปี ถึงเคล็ดลับการทำให้ชีวิตคู่ ที่ เดอะแบงเควทฮอลล์ แอท นาทอง ฮอลล์ 3
@@ เคล็ดลับของการใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขในทุกๆ วัน ในฐานะคู่รักศิลปินแห่งชาติ ?
เพชรา : ตั้งแต่แรกยังไง ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ เลยไม่รู้ว่าเรามีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า ก็อยู่มันเฉยๆ อยู่ด้วยกันมาตลอด ตามองไม่เห็นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่พอได้นึกถึงเขาทุกครั้ง ก็ยังนึกถึงภาพเก่าๆ และทุกวันนี้ ชรินทร์ นันทนาคร ก็ยังเป็นคนเก่าอยู่ เหมือนเมื่อตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ตลอดมา
ชรินทร์ : ไม่มีอะไรมาก ทำให้เหมือนเรารักกันใหม่ๆ อย่าไปคิดว่าเราอยู่กันมานานแล้ว คิดซะว่าเราเพิ่งเจอกันแล้วเรามีความรู้สึกต่อกันยังไง มันก็สดชื่น หลีกเลี่ยงข้อบกพร่องของกันและกัน เขาไม่ชอบอะไรเราก็อย่าทำ”
@@ คุณอาชรินทร์ยังมีหยอดคำหวานให้อยู่บ่อยๆ ไหม ?
ชรินทร์ : เวลาเราคุยกันก็ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งอะไรเลยนะ สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนที่เขามากอดผมและมาซบหน้ากับหน้าอกของผม พร้อมพูดว่า “เธอ... ฉันมองไม่เห็นแล้ว มืดสนิด ฉันจะไม่มีชีวิตต่อไปแล้ว” โอ้โห... วันนั้นเหนื่อย (เสียงสั่น) คือเราเตรียมรับมือกับมันไว้อยู่นะ ว่าวันหนึ่งคุณเพชราจะมองไม่เห็น แต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาเร็วขนาดนั้น เมื่อมาเราก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ พยายามเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านผมบังเอิญมีสระน้ำ ก็กลัวตรงนี้แหละ จะระวังตรงนั้นให้มากที่สุด กลัวเขาจะหล่นลงไป เขาว่ายน้ำไม่เป็นด้วย (หัวเราะ) เราก็ระวัง พอเวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้าก็คุ้นเคย เพราะไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่เห็น เราก็ยังรักกันเหมือนเดิม
@@ ความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่าจะได้ออกงานมาเจอคนที่รักมากขนาดนี้ เป็นยังไงบ้าง ?
เพชรา : รู้สึกขอบคุณ ที่แม้จะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ยังมีความรัก ความระลึกนึกถึงกันอยู่ และไม่ลืมนักแสดงที่ตามองไม่เห็นอย่าง เพชรา เชาวราษฏร์ ขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ท่าน (ยกมือไหว้)
@@ ปีนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
เพชรา : ทีแรกก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะได้รับการพิจารณา เพราะเราก็แสดงมาเป็นเวลานานแล้ว และก็ไม่รู้ว่าขอบเขตการพิจารณาการเป็นศิลปินแห่งชาติมีระบบระเบียบยังไงบ้าง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้รับ แต่เมื่อทางคณะกรรมการได้พิจารณาให้ได้รับเลือกว่าเป็นศิลปินแห่งชาติ ก็ต้องกราบขอบพระคุณ ที่ยังนึกถึง เพชรา เชาวราษฏร์ อยู่ ตัวเองมองไม่เห็นก็ไม่รู้ว่าจะทำงานให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวมได้ยังไง หรือตอบแทนอะไรให้กับสังคมได้บ้าง
@@ แฟนๆ ยังคิดถึงผลงานเยอะมาก ส่วนตัวคิดถึงแฟนๆ มากน้อยแค่ไหน ?
เพชรา : คิดถึง เพราะตลอดเวลาที่แสดงภาพยนตร์มา ไม่ว่าจะไปที่ไหน จังหวัดไหน หรือกิจกรรมอะไร จะได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่นเสมอมา ทุกวันนี้ถ้าไปที่ไหน หรือไปงานที่มีผู้คนเยอะแยะหน่อย เขาจำได้ก็จะเข้ามากอดและบอกว่าหายไปเลยนะ ทำไมไม่มีละครให้เห็นหน้ากันบ้างเลย บางคนก็ร้องห่มร้องไห้ ก็เลยพากันร้องไห้ไปตามๆ กัน (ยิ้ม) ขอบคุณทุกๆ คนทุกๆ ท่าน ที่ยังระลึกนึกถึง และยังจดจำความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อ เพชรา เชาวราษฏร์ ตลอดมา และขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไปด้วย ขอบคุณ
@@ ทำอย่างไรถึงได้ครองใจปวงชนได้ยาวนาน
ชรินทร์ : ความรักและการชอบร้องเพลงเป็นสิ่งหนึ่งที่หล่อหลอมให้ผมเป็น ชรินทร์ นันทนาคร ในทุกวันนี้ ผมชอบร้องเพลง ร้องมาตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมาผมไม่เคยประกวดร้องเพลงที่ไหนเลย โชคดีครั้งหนึ่งได้ไปร้องเพลงงานๆ หนึ่ง แล้วครูไสล ไกรเลิศ ไปพบเข้าก็เลยชักชวนให้มาร้องเพลงออกวิทยุ และอัดแผ่นเสียงพอดีมีเพลงเกี่ยวกับอิเหนา ชื่อ “อิเหนารำพัน” ซึ่งเป็นเพลงที่ฮิตมาก ชาวบ้านร้องได้หมด ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงตั้งแต่นั้นมา
เพชรา : บอกตรงๆ ว่าไม่ทราบเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความเป็นกันเอง เวลาเราไปไหนมาไหน เจอกันใครก็รู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้อง เหมือนญาติ เราไม่มีพิธีการอะไร และอีกสิ่งหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า ผู้คนจะชมหนังชมภาพยนตร์กันเยอะ และภาพยนตร์แต่ละเรื่องนางเอกก็ต้องเป็นดี๊ดี คนดูก็เลยยิ่งให้ความเมตตา เอ็นดู สงสาร ก็ต้องขอบคุณทุกคน ทุกท่านที่ให้ความรัก ความเมตตาเพชรา
@@ มีเคล็ดลับอะไรที่ยังทำให้คงความสวยและสุขภาพดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ?
เพชรา : ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย แค่เดินไป เดินมาในบ้าน ออกกำลังกายนิดหน่อย (หัวเราะ) บางครั้งก็บ่นไปบ่นมาให้คนข้างๆ เขารำคาญบ้าง และสุขภาพจิตถ้าเราคิดแต่สิ่งดีๆ ก็จะทำให้จิตใจเรามีแต่ความสุขและสบายใจขึ้น อดีตอะไรที่ไม่ดีคิดแล้วมันเป็นทุกข์ ก็พยายามตัดๆ มันไป
ชรินทร์ : พอดีบริเวณบ้านกว้างหน่อย ผมก็จะวิ่งรอบบ้าน คุณเพชราก็จะเดินจากตัวบ้านไปถึงประตูบ้าน เดินไปกลับแบบนี้ เราก็จะตะโกนถามกันว่าเหนื่อยหรือยัง พอหรือยัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง