วันที่ดีที่สุดของ 'นิว' วงศกร

         บันเทิง คมชัดลึก - เป็นนักแสดงหนุ่มมากความสามารถคนหนึ่งที่ผันออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้ว สำหรับ “นิว” วงศกร ปรมัตถากร ซึ่งดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไปได้สวย ซึ่งนักแสดงหนุ่มได้กล่าวอัพเดทถึงผลงานของตัวเองในตอนนี้ว่า 

 

       “ตอนนี้มี ”คลับฟรายเดย์“ กำลังออกอากาศอยู่ และมีเรื่อง “สายลับจับกลิ่น” จะออกอากาศวันที่ 5 ก.ค. และก็มี ”แรงเทียน" อีกเรื่องหนึ่ง น่าจะออกวันที่ 2 ส.ค. ถามว่าเป็นอิสระแล้วงานแน่นกว่าเดิมไหม ก็แน่นกว่าเดิม เพราะมันมีตัวเลือกหลายช่อง ตอนที่เรามีสังกัดเราก็เล่นได้แค่ช่องเดียว มันก็ถ่ายได้แค่ทีละ 2 เรื่อง แต่พอเราออกมา เราสามารถรับได้เยอะขึ้นและตัวเลือกก็มีมากขึ้น"

@ มันแฮปปี้ขึ้นไหม

          "ผมรู้สึกว่าเราโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง เพราะมันมีโอกาสเลือกในสิ่งที่ใช่เราจริงๆ และมันทำให้เรากล้าที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่เมื่อก่อนไม่กล้าทำ อย่างเมื่อก่อนถ้าให้ผมเล่นร้ายขนาดนี้ผมอาจจะรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงเวลาหรือเปล่า แต่เป็นตอนนี้เรารู้สึกว่าเราต้องพิสูจน์มันเราต้องผ่านมันไปให้ได้กับการเปลี่ยนแปลงเรียกว่าปลดล็อกตัวเองได้ไหม มันเป็นสิ่งที่ดีนะ ทุกคนมันต้องมีพัฒนาการ และที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระเอกนะผมจะใช้คำว่าเป็นนักแสดง และการที่ผมเป็นนักแสดงเราก็ต้องทำได้หลายอย่าง แล้วผมรู้สึกว่า ถ้าเราทำอะไรแล้วไปไม่สุดแล้ว สุดท้ายตัวเราเองนี่แหละที่มานั่งเสียใจว่ารู้อย่างนี้เราน่าจะทำอย่างนั้น ซึ่งตอนนั้นเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว"

 

 

@ ตอนที่จะมาเป็นนักแสดงอิสระรู้สึกหนักใจไหม 

        "ผมไม่ได้รู้สึกหนักใจหรืออึดอัดอะไรเลย แต่ผมรู้สึกกลัว กลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะที่ผ่านมาเราอยู่ในเซฟโซน เป็นนักแสดงที่มีสังกัดมาตลอด เคยมีคนปกป้องดูแล เราไม่เคยเผชิญหน้ากับคลื่นที่ลูกใหญ่ๆ แล้วเราไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงมันจะเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว มนุษย์ทุกคนกลัวการเปลี่ยนแปลง ถ้าทุกคนอยู่ในเซฟโซนรู้สึกปลอดภัยแล้วเขาก็จะไม่อยากเปลี่ยน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทุกคน เพราะบางคนที่ประสบความสำเร็จได้ เขาต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง ต้องสู้กับกับและฝ่าฟันกับมัน อย่างที่ผมเคยบอกว่า สมมุติวันนี้ผมยังไม่ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมัน ไฟในการทำงานของผมอาจะค่อยๆ มอดและดับลง แต่ถ้าผมกล้าที่จะตัดสินใจและเปลี่ยนมัน ผมก็อาจจะพบแหล่งพลังงานแหล่งใหม่ที่ทำให้ไฟมันติดขึ้นมาอีกครั้ง ผมรู้สึกขอบคุณช่อง 7 มากๆ ที่ให้โอกาสผม เคารพการตัดสินใจของผม และคอยซัพพอร์ตตลอดเวลา เราก็สามารถก็กลับไปร่วมงานกับช่องได้ และด้วยความที่เราโตแล้ว ช่องก็ให้อิสระกับเราเคารพในการตัดสินใจของเราว่าเราจะเลือกไปทางไหน"

 

 

@ ทำไมถึงตัดสินใจออกมา 

           แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าออกมาแล้วมันจะไม่ดี ผมรู้ตัดว่าเราโตพอที่จะก้าวออกมาได้แล้ว ผมเชื่อว่าสัญญาของช่องมันเหมือนเป็นการป้องกันเราไม่ให้หลุดออกนอกกรอบในระหว่างที่เราหัดเดินต้องมีผู้ใหญ่ดูแล แต่วันหนึ่งที่เราเดินได้ ที่เราวิ่งได้ เราก็ต้องย้ายออกมาจากบ้านพ่อแม่เราเพื่อมาอยู่บ้านของเราเอง แต่มันก็ไม่แปลกทีเ่ราจะกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ของเราเอง เพราะช่อง 7 ก็เหมือนบ้านพ่อแม่ผมในวงการบันเทิง เขาดูแลประคบประหงมผมมา แล้วมันก็น่ารักตรงที่ช่องให้โอกาสเราตัดสินใจแล้วบอกกับเราว่า ในเวลาที่เหมาะสมเรากลับมาร่วมงานกันได้นะ ซึ่งมันทำให้เราแฮปปี้ ช่องแฮปปี้ ทุกคนแฮปปี้ทุกอย่างมันก็โอเค

 

 

@ มาเป็นอิสสระ ลิมิตในการรับงานมันกว้างขึ้นแค่ไหน

         เออ...ตอนนี้ผมเลือกที่บทอย่างเดียวเลย เพราะว่าพอไม่มีใครกลั่นกรองให้เรา ว่าอะไรที่เหมาะกับเรา เราต้องเป็นคนเลือกเองว่าบทแบบไหนที่เราอยากลอง บทแบบไหนที่เราไม่เคยเล่น บทแบบไหนที่อยากทำ เพราะว่าไม่มีใครกลั่นกรองเราต้องดูด้วยตัวเองทั้งหมด 

@ ลำบากขึ้นไหม

         ไม่นะ คือถ้าผมออกมาในวันที่ผมไม่พร้อม ก็อาจจะมีปัญหา แต่เรามาในวันที่เราพร้อมแล้ว เราพร้อมเจอ คือเรามาเราก็มีของระดับหนึ่งแล้ว เรามีประสบการณ์ 10 กว่าปีที่เราเล่นละครมา เราออกมาข้างนอกมันก็ต้องมีการปรับตัวใหม่อยู่แล้ว ด้วยความที่เรามีพื้นฐานมาเราก็ต้องมาปรับตัวใหม่ มาจูนให้เข้ากับที่ทำงานใหม่ ซึ่งมันคืองานเดิม เหมือนนักฟุตบอล ที่หมดสัญญาจากสโมสรเก่าย้ายมาสโมสรใหม่ เขาก็ยังเตะฟุตบอลเหมือนเดิม เพราะฉะนั้่นมันก็เป็นแค่การปรับตัวทีมใหม่ที่เข้ามาอยู่ ละครที่ผมเล่นพอปิดเรื่องหนึ่งเราก็มาเล่นเรื่องใหม่ ก็มาเจอทีมงานใหม่ มันก็ไม่ต่างกันมาก ก็ต้องมาเจอกับคนใหม่ ทีมงานใหม่ นักแสดงใหม่ 

 

 

@ ต้องแอคทีพขึ้นไหม

         โห...มันเหมือนเล่นละครเรื่องแรกเลย ความรู้สึกนั้นมันกลับมา ปกติเวลาเราไปกองถ่ายเราจะชิลๆ แต่พอวันแรกที่ออกมาแล้วต้องไปถ่ายละครนอกค่ายวันแรก รู้สึกเหมือนเล่นละครใหม่อีกครั้ง ตอนเข้าฉากก็รู้สึกว่าทำไมมันยากจัง แค่คุยกันเท่านั้นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งจำเป็น ให้กับชีวิตเราในการทำงาน ถามว่าผมแฮปปี้กับการทำงานมากแค่ไหน ผมรู้สึกว่าวันนี้ที่ดีสุด พรุ่งนี้ก็คือเรื่องของพรุ่งนี้ เมื่อวานนี้ก็คือเรื่องเมื่อวาน แต่วันนี้ ปัจจุบันนี้มันคิือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา

@ พอนิวออกมา หลายคนจับตาว่านาวจะออกตามนิวไหม

         ก็ต้องแล้วแต่เขา อย่างที่บอกว่าเรามีปรึกษากัน มีคุยกัน แต่เรื่องการตัดสินใจก็ต้องขึ้นอยู่กับเขา เพราะผมไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับเขาอยู่แล้ว ถามว่ามีคุยไหมก็มี เรื่องที่นักแสดงช่อง 7 มีการผลัดเปลี่ยนไปเป็นนักแสดงอิสระนั้น ผมมองว่าเป็นนโยบายของช่องด้วย คือช่อง 7 จะมีลิมิตระดับหนึ่งว่าเด็กที่ถึงเกณฑ์แล้วไม่ต้องต่อสัญญาแล้ว ก็คือออกไปเป็นอิสระ แต่คนข้างนอกจะไม่รู้ คนข้างนอกจะคิดว่า ทำไมคุณออกจากช่อง ทำไมอกตัญญูกับช่อง ทำไมทำแบบนี้กับช่อง ซึ่งมันไม่ใช่ แต่มันเป็นนโยบายของช่อง คือผมไม่แน่ใจเรื่องตัวเลขนะ แต่ถ้าคุณอายุ 30 35 คุณไม่ต้องมีสัญญากับช่องก็ได้ แต่คุณสามารถทำงานกับช่องได้