'อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์' บอกเล่าถึงช่วงเวลาป่วยกว่า 10 เดือน 

 

    ทีมบันเทิง  คมชัดลึก  - เมื่อปีที่แล้ว ทำเอาแฟนๆ ใจคอไม่ดี  หลัง "อ๊อฟ" พงษ์พัฒน์ นักแสดงและผู้กำกับมากคุณภาพล้มป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบระหว่างถ่ายทำละครยอดนิยม "กรงกรรม" เวลาผ่านมากว่า 10 เดือน ล่าสุด "อ๊อฟ" พงษ์พัฒน์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวครั้งแรก บอกเล่าอาการป่วยที่ผ่านมา

     สุขภาพเป็นยังไงบ้าง
     “ดีขึ้น”

    แข็งแรงไวมาก ดูแลตัวเองยังไง
     “ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราดูแลกัน ส่วนมากช่วงนี้ไปไหนก็บีบี  (เอกนรี วชิรบรรจง ลูกสาวคนโตของอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์) ไอ้ตัวเล็ก (ไรเฟิล-ภูรีพงษ์ วชิรบรรจง) ตอนนี้เขาซ้อมกีฬา ก็ไม่ค่อยได้มาด้วย จะเป็นบีบีมากกว่า ครอบครัวสำคัญ คนป่วยเป็นโรค ไม่ว่าโรคอะไรก็ตาม ผมว่ากำลังใจจากครอบครัวสำคัญที่สุด แล้วก็ต้องเข้าใจ เราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย เพราะเราป่วยไม่ใช่ปัญหาของเรา เป็นปัญหาครอบครัว เพราะเขาต้องมาดูแลเรา สมัยก่อนตอนเป็นใหม่ๆ ลุกขี้เยี่ยวไม่ได้ เขาก็ต้องมาทำให้ เดี๋ยวนี้เราพอทำได้ หน้าที่ของเราก็พยายามฟื้นให้เร็วที่สุด พยายามอันไหนที่ทำได้ก็ทำด้วยตัวเอง เมื่อก่อนก็สื่อสารไม่รู้เรื่องเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ (หัวเราะ)”

    เห็นคุณภรรยาบอกว่าต้องคอยเอาใจ
    “นี่...เอาใจแล้วเหรอ (หัวเราะ)”

 

 

 

 

 

    กลับมาลุยงานแล้ว
     “มันต้องทำ แล้วก็ไม่ทำหนัก มีคนช่วย บี (บีบี-ลูกสาว) มีอู๋ (ธนากร โปษยานนท์) มีไรเฟิล (ลูกชาย) ตอนนี้ก็กลับมาทำลายกินรี กลับมากำกับเอง ทำเอง”

 

     คิดถึงการทำงานไหม
     “ก็หยุดไป 10 เดือนที่ป่วย ตั้งแต่ล้มตอนนั้นก็ 10 เดือน ก็ได้พักบ้าง ตอนนี้ยังไม่ได้ออกกอง พอกองก็คือ เราวิ่งไม่ได้ เราก็ให้คนวิ่ง เราพูดไม่ชัดเราก็ให้คนพูดแทน เราก็ต้องทำงาน เราเป็นคนทำงานอ่ะ อีกอย่างคนที่ป่วยเป็นโรคนี้นะ ถ้า...มันก็ไม่มีอะไรนอกจากฟื้นฟูสิ่งที่เป็นอยู่และทำตัวให้ปกติ ส่วนมากจะเก็บตัวเพราะว่ามันน่าเกลียด เดินเป๋มั้ง เดินเกร็งมั้ง พูดไม่ชัดมั้งอย่างเราเนี่ย แต่เราคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา พูดไม่ชัดก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะคนอื่นเป็นคนฟัง (หัวเราะ) เราไม่ได้ฟังเองหนิ”
   

 

 

 

 

 

 

 

 

    เรียกว่าตอนนี้ลูกมาคอยแบ่งเบางานได้แล้ว
    “จริงๆ การป่วยของเราไม่ใช่ปัญหา เพราะที่ผ่านมาก็พูดมาตลอดเวลาว่า เราทำงานกันเป็นทีม ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของตัวเองอยู่ เพราะฉะนั้นหน้าที่จริงๆ ของตัวเราเองในฐานะผู้กำกับนะมันแค่นิดเดียวเลย เพราะว่าทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้ว ถ้าหากว่าเขาทำการบ้านดีๆ เพราะฉะนั้นเราถึงประชุมเยอะ เราถึงคุยกันเยอะ ด่ากันเยอะ แล้วก็พอถึงเวลาปุ๊บแยกย้ายไปทำงาน แล้วกลับมารวมกัน เราเองไม่ต้องทำอะไร”

 

    ย้อนกลับไปตอน “กรงกรรม” ที่ต้องทิ้งให้ “อู๋” ธนากร และ “บีบี” ดูแลต่อ แต่กระแสดังมาก
    “ตอนที่เราป่วย ตอนนั้นละครถ่ายไปได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์แหละ ถามว่ากระแสอตอบรับดีขนาดนั้น เราเองก็ต้องดีใจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะว่าถ้าพูดกันตรงๆ แล้ว กรงกรรมเป็นละครที่เครียดนะ แล้วเราหวังว่าคนจะดู เพราะว่ามันมีอะไรหลายอย่าง กรงกรรมเป็นละครที่มีโอกาสที่ดีในการใส่ธรรมะเข้าไปในบทละคร โดยที่คนดูไม่รู้ตัว เราฉวยโอกาสอย่างนี้แทบทุกครั้ง ในเรื่องสมัยก่อนอย่างเรื่องทองเนื้อเก้าเราก็ทำ เรื่องไหนที่มีโอกาสทำ เราทำไม่ลังเลที่จะทำ เราโชคดีที่คนดูละครเรื่องนี้เยอะ”

 

    ความฟีเวอร์กลับมารีรีนอีกรอบแล้วอย่างรวดเร็วรู้สึกยังไง
    “มันเป็นกรงกรรม (หัวเราะ)”