บันเทิง

'พ่อน้ำตาล' เผยนาทียื้อชีวิตรอปาฏิหาริย์ (ที่ไม่มีจริง)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คุณพ่อของ "น้ำตาล เดอะสตาร์" เผยวินาทีการเสียชีวิตของลูกสาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

 


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  จากกรณี "น้ำตาล เดอะสตาร์ 5"  บุตรศรัณย์ ทองชิว เกิดอาการป่วยหนักอย่างกะทันหัน มีเลือดไหลออกทางปาก จมูกและหายใจไม่สะดวก ก่อนครอบครัวนำตัวส่ง รพ.สมุทรสาคร มีอาการโคม่า ต้องปั๊มหัวใจถึงสองรอบ จากนั้นนำตัวรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลา เวลา 02.17 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน ที่นักร้องสาวจากเวทีเดอะสตาร์ได้จากไปอย่างสงบ     
 

    โดยคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชยังไม่สามารถสาเหตุของการเสียชีวิตไม่ได้ ด้านครอบครัวอนุญาตให้นำชิ้นส่วนของน้ำตาลไปวินิจฉัยหาเพื่อเป็นกรณีศึกษาต่อไป 
    ด้าน คุณพ่อวิโรจน์ ทองชิว พ่อของน้ำตาล ได้เปิดใจถึงการเสียชีวิตของลูกสาวว่า
    "เมื่อคืนหมอเรียกไปพบน่าจะห้าทุ่มเที่ยงคืน เพื่อขอคำปรึกษา เนื่องจากน้ำตาลหัวใจหยุดเต้น การเต้นของหัวใจหรืออวัยวะในร่างกายส่วนใหญ่อยู่ได้ด้วยยา ถ้ายาหมดฤทธิ์ ก็ต้องให้ยาตลอด อยู่ดีๆ หัวใจหยุดเต้น หมอบอกสาเหตุมาจากสมอง อนุมานได้ว่าสมองน้ำตาลเสียหายหมด นั่นเท่ากับว่าเป็นการยื้อไว้ เราก็ยื้อดูเผื่อมีปาฏิหาริย์ เป็นชั่วโมงเหมือนกันนะ เป็นเวลาที่ทรมาน หมอก็ทรมาน เราก็ทรมาน เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน เผื่อมีปาฏิหาริย์ ทีนี้คำว่าปาฏิหาริย์ต้องมีสิ่งไปกระตุ้น มีการไปพูดโน่นพูดนี่ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกดี ไม่ใช่ความคิดผม เป็นความคิดของน้ำผึ้งที่เอาเพลงของหลานรัก ซึ่งน้ำตาลมีหลานรักอยู่คนเรา  ในบ้านเราตระกูลเราจะมีหลานอยู่คนเดียวตอนนี้ (ร้องไห้) น้ำตาลรักหลานคนนี้มาก ตอนนี้หลานก็ยังไม่รู้ หลานสามขวบกว่าชื่อไอริส บางคนอาจเคยเห็นในเพจกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ น้ำตาลเคยสอนน้องไอริชร้องเพลงไว้หนึ่งเพลง แล้วแม่ก็เอาเพลงนั้นมาเปิดข้างหูน้ำตาล ถ้าใครอยากได้ก็ดูดเอาไป เป็นเพลงที่ผมก็เพิ่งได้ยินเต็มๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพลงฝรั่ง น้ำผึ้งบอกว่าเสียงไอริชร้อง ผมรู้สึกว่าถ้าผมเป็นน้ำตาลผมจะฟื้นเลย แล้วผมเชื่อว่าน้ำตาลได้ยิน แต่ด้วยร่างกายไม่ไหว เราพยายามแล้ว พยายามกลับบ้านที่มหาชัย เชิญบรรพุบุรุษทำทุกอย่างเพื่อมาช่วยน้ำตาล แต่คิดว่าร่างกายคงไม่ไหว พอร่างกายไม่ไหว จิตหรืออะไรต่างๆ ก็คงอยู่ไม่ได้ ผมเชื่อว่าน้ำตาลก็คงเห็นและรับรู้ทุกเรื่องราว ตั้งแต่น้องเกิดเหตุจากวันนั้นจนวันนี้น้องยังไม่ฟื้นเลย ผมจะพูดเสมอสิ่งที่ผมหวังคืออะไรก็ได้นิดนึง นิ้วกระดิก ลืมตา หายใจ สะอึก อะไรก็ได้ให้เป็นสัญญาณที่ดีมันจะได้ไปต่อ แต่นี่มันไม่มีไง พอไมมีผมก็เริ่มทำใจ พยายามสนุก แต่เวลาเราพูดอะไร (ร้องไห้)

 

       ถ้าใครรู้จักน้ำตาลก็จะเป็นเหมือนผม น้ำตาลเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปแต่ก็ไม่เหมือนใคร เขามีความเป็นคนทำงานศิลปะค่อนข้างสูง เขียนรูปก็ชอบ ถ่ายรูปก็ชอบ ร้องเพลงนี่คือที่หนึ่ง การแสดงก็ทำได้ เขาทำเพลงมาเพลงหนึ่ง อย่างเมื่อวานซืนได้เกริ่นไปนิดนึง แล้ววันนี้เพลงที่แต่งกับวิน ซึ่งวินได้อนุญาตแล้ว เพราะวินบอกว่าเป็นจุดประสงค์ของน้ำตาลที่ทำเพลงเพื่อให้คนฟัง เป็นผลงานที่น้ำตาลทำด้วยตัวเอง ไม่เคยปรึกษาผม ไม่ใช่ว่าเขาอยากได้คำแนะนำนะ เขาอยากทำด้วยตัวเอง เรารู้เราเห็น แม้กระทั่งพร็อบ อาร์ต การถ่าย เราทำงานตรงนี้ไม่เห็นเขาปรึกษาเราสักคำ ผมเชื่อว่าเขาทำได้ เราเห็นอยู่ว่าลูกเราทำได้ บางอย่างเก่งกว่าเราอีก สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ชื่นชม ไม่ได้เห็นว่าคนฟังแล้วจะรู้สึกยังไง แต่น้ำตาลบอกอยู่เสมอ เขาทำมาเพื่อกลุ่มคนที่ชอบแนวนี้ เป็นเพลงแนววินเทจย้อนยุคหน่อยๆ ฟังสบายๆ นั่นเป็นผลงานก่อนน้ำตาลจะจากเราไป จริงๆ น้ำตาลถ้าพูดตามภาษาเป็นคนที่ติสต์มาก ถ้าอยู่หน้ากล้องหน้าสื่อจะเป็นอีกคน ซึ่งคุณจะจับเขาไม่ได้ เพราะเขาออกมาหมดเลย สนุกสนานเฮฮา เราเห็นทำไมพออยู่หน้าสื่อมันพลิ้วจัง มันยิ้มเก่ง เป็นการแสดงหรือเปล่า ส่วนหนึ่งคงใช่ ถ้าจะต้องทำเขาก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ถ้าเขาเลือกได้ก็คงเลือกทำงานที่เป็นเขาจริงๆ เขาคิดเขาทำ ถึงไม่ได้ดีที่สุดก็ชอบที่เป็นตัวของเขา เขาชอบเที่ยวมาก เที่ยวไปที่ต่างๆ นั่งร้านโน้นออกร้านนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงใช้ของแพง เสื้อผ้าแสนจะถูก รูปสวยๆ คือสิ่งที่เขาเลือก เขาถ่าย เขาจะซื้อเสื้อชั่งกิโล เป็นเด็กที่บ้าหนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊กซื้อ แพ็กเกจสวยซื้อ ดินสอซื้อ ทอยสตอรี่ชอบมากตั้งแต่เด็ก ของจุ๊กจิ๊กเยอะแยะไปหมด หวงมาก"
   

 

 

'พ่อน้ำตาล' เผยนาทียื้อชีวิตรอปาฏิหาริย์ (ที่ไม่มีจริง)

 

 

 
    พ่อได้คุยกับน้ำตาลก่อนเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ไหม 
    "วันที่น้ำตาลป่วย คือวันจันทร์ช่วงเช้า (10 มิ.ย.) ผมไม่เจอ เราพักคนละที่ เราเจอก่อนหน้านั้น ถามว่ากินข้าวไหม ได้ๆ ไปร้านนี้ร้านนั้นก็ปิด มันตรงกับวันสำคัญของมหาชัย พอเจอกันก็โชว์งานเขียนของเรา เขาบอกว่าสวย ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าน้องจะมีอาการป่วย  วันรุ่งขึ้นผมก็ตื่นมาปกติ เขียนรูป ถ้าไม่มีถ่ายหนังก็เขียนรูป โทรศัพท์ผมมีสองเบอร์สองเครื่อง เครื่องเก่าแก่หลายคนรู้จักคือเบอร์เก่าแต่เครื่องแก่ มันเน่าเปิดไม่ติด เปิดติดก็ดับเอง วันนั้นมีเบอร์โทรติด เราก็ใครวะ มันโทรติดเก่งมาก เราก็ดูอ้าว แม่น้ำตาล ว่าไงคุณ เขาก็บอกคุณน้ำตาลไม่หายใจ เลือดออกในปาก เราก็ไปเจอรถแอมบูแลนซ์จอดอยู่ น้ำตาลอยู่ในนั้น ร่างแม่เขาเลือดเต็มแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่เห็นน้ำตาลลุกขึ้นมาอีกเลย"
 

   คุณพ่อของน้ำตาลยังบอกอีกว่า "น้ำตาลตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่เล่นอะไรเล่นใหญ่ เล่นเยอะ ซึ่งไม่เนียนด้วย แล้วในบ้านเรามีสามคน ตอนน้ำตาลเล็กๆ น้ำตาลจะดำ เขาจะเรียกน้ำตาลอีดำ เขาก็จะฝังใจว่าดำ เขาจะดูแลผิวพรรณ ไปร้านเสื้อผ้าไม่ได้ต้องปีนกระจก ชั้นเชลล์วางปีนขึ้นไป กระจกแตกบาดขา อีกครั้งนึงที่เดอะมอลล์บางแค น้ำตาลหาย มีชาวบ้านเขาเจอ เขามาส่งใจหายหมดเลย มีแววการแสดงตั้งแต่เด็ก แต่เป็นการแสดงที่เอาจริงๆ ก็ไม่กล้า ไปแคสติ้ง ตอนนั้นเจ เจตรินเป็นแอมบาสเดอร์ เขาไม่แสดงซะงั้นก็อดเลย เราก็ไม่เป็นไร"
    

 

'พ่อน้ำตาล' เผยนาทียื้อชีวิตรอปาฏิหาริย์ (ที่ไม่มีจริง)

 

 

    ตอนนี้ให้น้ำตาลทำบุญกุศลครั้งใหญ่ 
    "ทีแรกว่าจะ ทางแม่น้ำตาลเขาก็กังวล จริงๆ กรณีน้ำตาลสรุปเรายังไมรู้ว่าเลือดออกมาจากไหน แต่เลือดโชว์ในหลอดลม ในปอด พัวพันอยู่ในนี้ หมอเลยวิเคราะห์ยาก หมอก็อยากได้เอาไปศึกษา เขาอยากได้ชิ้นเนื้อนิดๆ เล็กๆ น้อยๆ หลายๆ ส่วน เพื่อไปศึกษาเพื่อวันข้างหน้าใครเป็นประมาณนี้ เขาจะได้รักษาได้ถูก มีคนถามน้ำตาลเป็นอะไร ดีที่สื่อลง ทุกคนก็เข้าใจ พอทีมแพทย์แถลงข่าวทุกคนก็เข้าใจ ทุกคนอาจมีอยู่อย่างที่หมอบอก เพียงแต่ไม่แสดงผล และที่น้ำตาลมี มันไปอยู่ในที่ลึกๆ ซึ่งยากแก่การปิดแผล ตอนนี้ก็ยังคุยๆ กันอยู่"

 

    ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้หรือไม่ให้
    "ใช่ครับ ก็ 50-50 ผมไม่รู้ ผมจะไม่ตัดสินใจเรื่องแบบนี้ ให้แม่เขาตัดสินใจ ถ้าใจผมคนเดียวผมให้ เพื่อคนอีกวันข้างหน้าอีกเยอะ ต้องคุยกับแม่อีกที แม่เป็นใหญ่ เพราะเขาเลี้ยงของเขามา พ่อเป็นพ่อก็ใช่แต่มันไม่เท่ากัน" 

 

    ลูกสาวคนโตพูดเรื่องนี้ยังไงบ้าง
    "ผู้หญิงมีความเห็นคล้ายๆ กัน คิดว่านะ สามสาวเขาติดแม่ เราเหมือนตัวประกอบ ไม่ใช่ไม่มีค่านะ เราก็โอเค เราทำงานของเรา ทำอยู่ในบ้านนั่นแหละ"

 

    จะรับกลับบ้านสมุทรสาคร
    "ครับ เดี๋ยวเราจะไปบำเพ็ญกุศลที่มหาชัย วัดป้อมวิเชียรโชติการาม ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เราจะสัมพันธ์ สนิทกับที่วัดนี้ จริงๆ วัดไหนก็ได้ แต่เราสะดวกวัดนี้ มันใกล้แค่นั้นเอง"

 

    น้ำตาลชอบศิลปะมากๆ น้องสร้างความสุข คุณพ่อมีโมเมนต์อะไรกับน้อง
    "จริงๆ ผมชอบฟังเพลงลูกทุ่ง อนุบาล ป. 1-3 ในรถผมสายัณห์ สัญญาอย่างเดียวเลย มันซึมซับนะ เด็กบางครอบครัวเขาได้ไปก็ได้ไป ใจเราอยากให้เขาร้องลูกทุ่ง แต่เขาไม่เอาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวนี้ลูกทุ่งมันได้รับการยอมรับแล้ว ตลาดมันใหญ่ แต่เขาไม่ได้ทำเพื่อธุรกิจ เราทำเพื่อความสุข เราก็จบ ไม่ต้องพูดต่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนลูกทุ่งจะทำเพื่อเงินนะ"

 

 

 

'พ่อน้ำตาล' เผยนาทียื้อชีวิตรอปาฏิหาริย์ (ที่ไม่มีจริง)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ