ครอบครัว "น้ำตาล เดอะสตาร์ 5" มั่นใจแพทย์โรงพยาบาลศิริรราชจะรักษาดีที่สุด รอผลชี้ชัดอาการว่าเป็นป่วยเป็นโรคอะไรจากแพทย์พรุ่งนี้ (13 มิ.ย.)
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - จากกรณีที่ "น้ำตาล เดอะสตาร์ 5" บุตรศรัณย์ ทองชิว ถูกหามส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังมีอาการเลือดออกทางปากและจมูก หายใจไม่สะดวก และหมดสติ จนต้องปั๊มหัวใจถึง 2 ครั้ง เมื่อเช้าวันที่ 11 มิ.ย. ก่อนจะส่งตัวมาที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเช้าของวันที่ 12 มิ.ย. หลังจากได้มีการย้ายมารักษา
ทางครอบครัว ได้แก่ คุณแม่สุขใจ ถิรเมธีกุล วัย 54 ปี พร้อมด้วย พี่สาว "น้ำผึ้ง" พิมพ์รดา ทองชิว และ พี่เขย กิตต์ธีธัช ก้องภพจิรพัฒน์ ได้แถลงข่าวถึงอาการป่วยของน้ำตาลเดอะสตาร์ 5
ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ?
แม่ : ก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ทุกอย่างปกติ อาบน้ำแต่งตัว มาทานข้าวกับแม่ แต่จู่ๆ เขาก็บ่นว่าเหมือนเลือดกำเดาจะไหล แล้วเขาก็แตะดูบริเวณจมูกไม่มีเลือด ในขณะที่เขาพูดเสร็จ มันเหมือนมีอาการคล้ายเด็กสำรอกออกมานิดนึง เป็นลิ่มเลือด เขาถามว่าทำไมถึงออก หรือเลือดจะไหลมาบริเวณลำคอ และออกมาที่ปาก แม่บอกว่าอาจเป็นไปได้ แต่พอพูดได้แปปเดียว ก็มีอาการออกมาอีก จากนั้นก็ขย้อนออกมาเรื่อยๆ ครั้งนี้ออกมาทางจมูกด้วย จนเขาไม่มีแรงแล้ว เลือดออกมาเยอะมาก แม่เลยให้เขาไปนั่งลงก่อน แต่พอนั่งได้แปปเดียว เขาก็หายใจไม่คล่องแล้ว แม่เลยให้เขานอนลง และปั้มหัวใจ จากนั้นแม่เลยให้ลูกน้องโทรศัพท์เรียกรถโรงพยาบาล พอรถพยาบาลมาจากนั่นแม่ไม่ทราบแล้วว่าขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร
ตกใจแค่นั้นตอนรู้อาการว่าเขาเป็น
แม่ : ตกใจค่ะ คือตอนแรก เรานึกว่าเป็นเลือดกำเดาไง แต่มันเยอะมาก ตอนนั้นเขาก็ไม่ไหวแล้ว หน้าเขาแสดงอาการตกใจ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเลือดมันทะลักออกมา จนพูดไม่ได้ ตอนนั้นเขายังไม่หมดสติ แต่มีอาการหายใจขาด ต้องคอยปั้มหัวใจ จนรถพยาบาลมา
สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร
พี่เขย : หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายๆที่ อย่างที่ร.พ.กรุงเทพ ก็ได้ส่งรถที่มีอุปกรณ์พร้อมในการเคลื่อนย้ายที่ดีที่สุดมา ตอนนี้ได้อยู่ในมือของแพทย์ที่ดีที่สุด เท่าทีจะดีได้ในสถาการณ์ปัจจุบันตอนนี้ หากถามว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร มันมีความปลอดภัยที่ได้อยู่ในมือแพทย์ ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะทางนี้ แต่ถามว่าเอาชัดๆ ว่าเป็นอะไรหรือยังไง อันนี้ก็ต้องรอข้อมูลจากทางแพทย์นะครับ ซึ่งก็น่าจะเป็นพรุ่งนี้ที่ทางแพทย์จะออกมาบอกได้ว่าาการทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรจริงๆ และผลการดูแลต่อไปจะทำยังไงต่อ"
จากการได้รับการรักษามา 1 วัน อาการดีขึ้นไหม ?
พี่เขย : ต้องบอกแบบนี้นะครับ คือส่วนตัวผมนะเรามั่นใจว่าเราได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน อาจจะมีช่วงที่ขลุกขลัก แต่มันคือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าถามผมในฐานะที่เป็นญาติกันหมดนะครับ เราตอบไม่ได้หรอก ว่ามันแย่ลงกว่าครั้งแรกหรือเปล่า เพราะว่ามันคือเรื่องของภายใน การที่เราจะทราบว่าภายในมันจะแย่ลงหรือเปล่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร มันจะแย่ลงหรือดีขึ้นกว่านี้ อันนี้เราตอบไม่ได้ แต่ปัจจุบันเชื่อว่าสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันก็ยังมีสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งเรื่องการรักษาจากผู้ที่มีความสามารถ คอยดูแลทั้งหมดอย่างดีที่สุด เชื่อว่ามันแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น
แสดงว่าตอนนี้ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าสาเหตุเกิดอะไรกันแน่
พี่เขย : เขาจะให้คำตอบพรุ่งนี้ ตอนนี้เราก็ยังรออยู่เหมือนกัน และเราก็คาดหวังในผลลัพธ์ที่มันดีที่สุดอยู่แล้วครับ แต่มันจะเป็นอย่างไร ก็ต้องพรุ่งนี้ ให้ทางอาจารย์แพทย์ออกมาบอกอย่างชัดเจน
แม่ : ตอนนี้คิดอะไรไม่ถูกเลย
พี่สาว : ต้องบอกตรงๆเลยว่าครอบครัวเราจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ในส่วนของการรักษา ผึ้งอยากให้หมอเป็นคนดูแลและเป็นคนบอกจะดีกว่า วันนี้เราเห็นทุกคนให้ความสนใจ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจ เราเชื่อว่าถ้าตาลรับรู้เขาจะต้องดีใจ และอยากให้โฟกัสในสิ่งดีๆที่มันจะเกิดขึ้น อยากให้เป็นกำลังใจให้พวกเรา(เสียงสั่น) อย่างไรเขาจะต้องหาย และเราจะต้องมีความหวังให้ดีขึ้น
ได้บอกน้องไหม ตอนเข้าเยี่ยม
แม่ : มีเรียกค่ะ บอกเขาว่าให้สู้นะ แม่ก็เรียกอยู่ตลอด
โดยในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ทางทีมแพทย์จะมีการแถลงอาการในเวลา 14.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง