'ริต้า' แฮปปี้กระแสไปคานส์ดีเกินคาด

         ทีมบันเทิง คมชัดลึก - เป็นนักแสดงสาวชาวไทยอีกคนหนึ่งที่ได้ไปร่วมเดินพรมแดงที่เทศาลหนังที่เมืองคานส์ ได้สอบถามความรู้สึกของสาว ศรีริต้า เจนเซ่น ในงานเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางค์สัญชาติญี่ปุ่น “Koh Gen Do” ที่โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพได้ความว่า

 

 

         “ดีมากเลย ต้องขอขอบคุณมากๆ เลย สำหรับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ขอบคุณมากๆเลย (มันมี 2 กระแสได้เห็นด้านลบไหม) ไม่ได้ดูเลย เขาบอกเราจือปากมากเกินไป นี่เป็นครั้งแรกของริต้านะ ก็ตื่นเต้นมากเลย ตอนอยู่ตรงนั้น มันอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นเยอะมากมาย มันตื่นเต้นด้วยกดดันตัวเองด้วย อาจจะทำอะไรไป มีจือปาก จริงๆริต้า พยายามทำทุกหน้าเลยนะ เดี๋ยวก็โพสต์ เดี๋ยวก็จิก เดี๋ยวก็ยิ้ม ทำทุกอย่างเลย เพราะกล้องเยอะมาก ก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุด ขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วก็ทุกคำติชม ริต้าพยายามจะเอามาปรับปรุง ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีก ก็จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น

 

 

         ถามว่านอยด์ไหม นอยด์มาก เพราะมันเป็นเวทีระดับโลก สื่อมวลชนเยอะมาก หมายถึงช่างภาพจากทั่วทุกมุมโลกเยอะมาก ตัวเราไปในนามไทยแลนด์ เราก็รู้สึกถึงความกดดันที่เราอยากทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อยากให้คนไทยรัก อยากให้เป็นที่รู้จักในต่างชาติด้วย อยากจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเลย มันก็กดดันตัวเองเยอะเหมือนกันค่ะ ก็ออกมาอย่างที่เห็น ส่วนคอมเม้นต์ถ้าเป็นไปได้ ก็จะอ่านเลย แล้วก็อ่านให้น้อยที่สุดเพราะเวลาเราน้อยด้วย มันอยู่ตรงนั้นไม่มีเวลาอ่านแล้วด้วย ทุกวันเราจะทำโน่นนั่นนี่เยอะแยะมากมาย เพราะเสร็จจากพรมแดงก็จะมีอีเว้นต์ต่อ ตื่นมาก็พรมแดงต่อไปถึงปุ๊บริต้าทำงานเลย ทำงานจนถึงวันสุดท้ายเลย ริต้าเสร็จตีหนึ่งขึ้นเครื่องตีห้า ทำทุกวันเลยจริงๆ”

 

 

         เมื่อถามต่อว่าชอบลุกส์ของตัวเองไหม เพราะหลายคนติว่าชุดไม่ได้ หน้าผมไม่ได้ ?

         “กว่าเราจะเลือกออกมาเป็นลุกส์นี้ ก็คิดและทำการบ้านกันเยอะ มีดีไซน์เนอร์ติดต่อมาให้เราใส่เสื้อผ้าเยอะแยะมากมาย เราก็เลือกเป็นของ ไมเคิล เชงเกอร์ เขาก็ให้เกียรติเรามาก เขาเดินทางมาจากดูไบ มาแต่งตัวให้ริต้าเองเลย เป็นลุกส์ที่เขาทำขึ้นมาใหม่ล่าสุดไม่เคยให้ใครใส่มาก่อน เราก็เลยเลือกเป็น 2 ชุดนี้ ส่วนผมกับหน้าเราก็คุยกันว่าอันไหนจะเหมาะกับชุดมากที่สุด เราต้องแต่งหน้าของ ดิออร์ คอสเมติกด้วย ที่ต้องเข้ากับเสื้อผ้า มันมีโจทย์หลายโจทย์ไปหมด ก็ออกมาอย่างที่เห็น เป็นโอกาสครั้งแรกของชีวิตริต้า ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษ ขออภัยด้วย ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเลย มีคนคอมเม้นต์ว่าเราฉีดโบท็อกซ์จริงๆ อยากจะรีวิวมากเลย เดี๋ยวทำเป็นรีวิวออกมาดีกว่า ไม่ได้ฉีดไม่ได้โบอะไรเลย มันเป็นวิธีการมัดผมของช่างผม เวลาดึงเส้นผม(ไม่ได้ทำโบท็อกซ์ใช่ไหม) ไม่ได้ทำ จริงๆช่างแต่งหน้าริต้าประจำที่ไทยโทรมาถามริต้าว่าริต้าไปทำโบท็อกซ์ ไปทำปากอะไรมาหรือเปล่าก่อนไป ริต้าเลยบอกริต้าไม่ได้ทำ พี่ช่างผมเขาดึงเส้นผมขึ้นไป เขาบอกว่าไม่ได้ริต้า เดี๋ยวจะมีเบลล่า ฮาดิด นะ ต้องแบบนี้ๆ เราก็โอเค ในที่สุดมันออกมาวันแรกดูตึง แต่วันที่ 2 ดูไม่ตึงเห็นไหม (หัวเราะ) เพราะไม่รัดแน่นแล้ว ก็เป็นอะไรแบบนั้นค่ะ แต่ว่าขอบคุณนะคะเท่าที่ริต้าเห็นก็มีทั้งคนติและชมเข้ามาเยอะแยะมากมาย ทุกคำติชมเราก็พยายามที่จะเอามาพัฒนาตัวเอง"

 

         เมื่อถามถึกระแสที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ "ชมพู่" อารยา ที่ไปเดินพรมแดงงานเดียวกัน นักแสดงสาวกล่าวว่า

         “จริงๆถ้าเกิดถามส่วนตัวริต้านะ ริต้าไม่อยากให้เปรียบเทียบกันเลย ไม่ว่ากับใครก็ตาม เพราะทุกคนที่ไปยืนตรงนั้น เขาก็ไปในฐานะตัวแทนของประเทศไทย แล้วแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองนะคะ อยากให้มองด้วยใจที่แปิดกว้างมากกว่าว่าแต่ละคนก็ทำหน้าที่ของเรา ทุกๆคนเต็มที่นะคะ ลับหลังเรายังทักทาย เราคุยกันน่ารัก เป็นผู้ร่วมงานที่สนิทกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก และเห็นกันมา อย่างริต้าเจอปู ก็เข้าไปกอดกัน คือเราทุกกันเราอยู่ในวงการบันเทิงเราคือเพื่อนร่วมงาน เราคือพี่น้องค่ะ พอไปอยู่ตรงนั้นไม่อยากให้เปรียบเทียบคนไทยด้วยกันเลย น่าจะเอาเราไปเปรียบเทียบกับดาราเอเชีย หรือดาราคนอื่นมากกว่า เพราะต่างชาติเขามองว่าประเทศไทยแข็งแรง มีนักแสดงจากเมืองไทยมาเยอะแยะ มากมาย แล้วก็ยังทีนีกแสดงจากหลายๆคนจากเอเชียก็ไปเยอะนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคนจีน คนอินเดีย ญี่ปุ่น เราในฐานะประเทศไทย เราพยายามนำเสนอประเทศไทยออกมาหลายๆแบบนะคะ และแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป บางทีริต้าก็เห็นบางคนสนุกนะเวลาเขียน นักเลงคีย์บอดร์ด เขียนติกันเยอะแยะมากมาย เราอยากให้มองด้วยใจที่เปิดกว้างมากกว่าว่าเราไปในนามของประเทศไทยจริงๆ เวลาเขาลอง Last Name ว่าเป็นนักแสดงจากเมืองไทย มันก็ดี ก็อยากให้คนไทยไปเยอะ ริต้าว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ริต้าไปด้วยใจที่ไม่ได้คิดอะไรเลย อาจจะเพราะริต้าเป็นคนคิดบวกด้วย ก็มองแค่ว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ฟีดแบคทุกอย่างที่ออกมาเราก็พร้อมที่รับ ริต้าเป็นคนที่ใจเปิดกว้าง เราก็ทำใจให้สบายๆ ตอนไปเราก็ทำใจสบายๆเหมือนเดินเล่น (หัว้ราะ) ก็พยายามรีแล็กซ์ที่สุด

         (มีจังหวะที่เขาบอกว่าช่างภาพให้เราเดินแล้ว แต่เราไม่ขยับ) ไม่มีนะคะ มันจะเป็นจังหวะของมันอยู่แล้ว มีแต่ว่าช่างภาพไม่ยอมให้เราขยับไป เขาเรียกให้เราหันมา และโกรธที่ยังไม่ได้รูปเราเลย ใครมาใกล้ๆเขาจะไล่ออกไป ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี งานนี้ต้อง (ให้ตัวเองกี่คะแนน)ก็คงต้องพัฒนาอีกเยอะ ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านที่คอยทำข่าว ก็ถือว่าเป็นประการณ์ครั้งแรกในชีวิต(ไฮโซกรณ์ก็ให้กำลังใจ เห็นโพสต์ซัพพอร์ตด้วย) ใช่  (ยิ้ม) คือเวลามันต่างกัน และเขาก็ไปลงของเขาเอง ไม่ได้ปรึกษาอะไรนิต้าเลย เขาเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของริต้าเลยค่ะ เขาช่วยได้มาก เพราะพอไปอยู่ตรงนั้นเราเหมือนตัวคนเดียวมาก มีแค่ทีมเล็กๆ เราก็จะมีความกดดันหลากหลายอย่าง หวังว่าเขาจะไปกับเราด้วย เพราะคงน่าจะช่วยเราได้เยอะ แต่เขาก็ติดงานเลยไม่ได้ตามไป”