'เบิร์ด-ธงไชย' เผยความรู้สึกที่ได้ถวายงานอีกครั้ง

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-นักร้องขวัญใจคนทั้งประเทศ "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์ เผยความรู้สึกที่ได้มีโอกาสร่วมแสดงมหรสพสมโภชละคร "ในสวนฝัน ผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี" เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีกำหนดจัดการแสดงขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ณ เวทีกลางท้องสนามหลวง ซึ่ง นักร้องคนดัง เดินทางมาซ้อม โดย เจ้าตัว ต้องขับร้องเพลงไทยเดิม "ลาวคำหอม" 

   "วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เห็นซ้อมแบบพร้อมเพรียงกัน เพราะก่อนหน้านี้ก็จะเจาะศ้อมกันเป็นกลุ่มๆ ไป เราภูมิใจทุกก้าวที่จะก้าวต่อไป นี่เป็นงานสมโภชพระราชพิธีบรมราชาภิเษกซึ่งตอนนี้พวกเราก็มีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกอย่างคือความภูมิใจในทุกด้าน และคราวนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของเรา ที่ได้ร่วมสมโภชในงานนี้ด้วยครับ ในการแสดงครั้งนี้เราได้รับบทเป็นหนึ่งในเสียงเพลงสมัยก่อน เป็นเสียงเพลงไทยเดิม ซึ่งก็ไม่เคยมีใครได้ยินว่าเราเคยร้องที่ไหนมาก่อน เคยร้องตั้งแต่สมัยที่เรียนหนังสือ ตอนสอบร้องเพลงหน้าห้อง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ร้องอีกเลย และพอมีงานสมโภชฯ ครั้งนี้เกิดขึ้น พ่ออี๊ด สุประวัติก็ได้ติดต่อมา และไม่ทราบว่าท่านทราบได้ไงว่าเราร้องเพลงแบบนี้ได้ ก็เลยติดต่อมา และที่เราทราบมาว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงโปรดอยู่ 2 เพลงคือลาวดวงเดือน และลาวคำหอม ซึ่งลาวดวงเดือนเราเคยได้ฟังแล้ว แต่เพลงลาวคำหอม ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่เคยฟัง แต่พอทางทีมงานเปิดให้ฟัง เราก็อ๋อขึ้นมาทันที เพราะเป็นเพลงที่ป๋าของเราเคยเปิดให้ฟังตอนเด็ก ฉะนั้นถ้าไม่มาร่วมงานไม่ได้เลย เราเกิดในแผ่นดินนี้ เรามีความภาคภูมิใจเป็นสิริมงคลกับตัวเรา ครอบครัวเรา รวมไปถึงแฟนๆ เพลงของเรา เราก็ขอเป็นตัวแทนของคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ มาร่วมกันถวายความจงรักภักดี ความยากของเพลงลาวคำหอม เป็นเพลงที่ยากมาก ต้องฝึกร้องทุกวัน เพลงนี้เป็นรากฐาน รากเหง้าของไทยเลย ฝรั่งเขามีโอเปร่า แต่เรามีลาวคำหอม คือเราต้องเรียนร้อวเพลงมาก่อนก็จริง มีบทเพลงต่างๆ ก็จริง แต่พอได้มาร้องลาวคำหอม นี่คือบทเรียนที่แท้จริงของเรา ก็ไหว้พระขอให้ได้ (ยิ้ม) เราเต็มที่แน่นอนครับ รวมไปถึงนักแสดงมากมายที่ตั้งใจมาร่วมในงานครั้งนี้ เรามาเข้าร่วมเป็นส่วนนึง เป็นหนึ่งเสียง เป็นหนึ่งคน เป็นหนึ่งชีวิตที่มาร่วมถวายความจงรักภักดีต่อองค์ท่าน และนี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราได้ถวายงาน เราก็มีความรู้สึกตื่นเต้น และมีความภูมิใจ รวมไปถึงมีความกดดันตลอดเวลา และเรารู้สึกว่าต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ดีที่สุด ให้ดีเท่ากับที่ทุกคนอีกหลายๆ คนที่อยากจะมาทำ เราเองก็จะเป็นตัวแทนของทุกคน เป็นคนทำเอง พยายามทำให้ดีที่สุด และงานจะมีตั้งแต่วันที่ 22 พค. จนไปถึงวันที่ 28 พค. ใครอยู่ใกล้ก็มา ใครอยู่ไกลก็มา คือยังไงก็ต้องมา คราวนี้เป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย จะได้เป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อท่าน แค่เรามาก็เป็นการบอกว่าเรารักท่านแล้ว ในส่วนของเสื้อผ้าก็ช่วยๆ หากัน ทางเราเองก็หามาเพิ่มเติม เพราะเราก็ไปดูตัวอย่างมาว่าจะต้องเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ ก็เป็นโจงกระเบน ให้เราใส่อะไรก็ได้ แต่ขอให้ได้มา"