'ออม-สุชาร์' โต้ 'แอม' ซื้อแหวนเพชรเม็ดเป้งให้

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ทำเอาหลายคนถึงกับตาโต เมื่อสาวร่างเล็ก "ออม" สุชาร์ สวมแหวนเพชรเม็ดงามไว้ที่นิ้วนางซ้าย จนอดสงสัยว่าคนรักอย่าง "แอม" พิธาน เป็นคนซื้อให้หรือเปล่า ล่าสุด สาวออม มาร่วมงาน ลา บูทีคส์ เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ได้รีบตอบเรื่องนี้ทันทีว่า

วันนี้ไม่มีแหวนมา?
   “คะ..ไม่มีค่ะ วันนี้ลุกค์ไม่เข้ากับแหวนค่ะ”
งานครั้งที่แล้วคนก็สังเกตว่าแหวนเม็ดมันใหญ่มาก พี่แอมให้มา?
   “ไม่ใช่เลยค่ะ (หัวเราะ) ทุกคนพยายามจับจ้องมาก เราก็ให้เกียรติงานเขา เราก็มีสไตล์ลิสมีอะไรค่ะ”
เป็นแหวนงานไม่ใช่แหวนตัวเอง หรือว่าใครให้มา?
   “ยืมแม่มา (หัวเราะ)”
หลายคนจับจ้องแอบกดดันมั้ย?
   “ก็ไม่ค่ะ คือออมว่าหลายๆคนเขาก็ใส่เวลาไปงานอะไรอย่างงี้ค่ะ”

เพราะว่าใส่นิ้วนางข้างซ้ายไงคนก็เลยจับตา?
   “จริงๆเคยใส่ได้นิ้วชี้ตลอด แต่ว่าไม่รู้อ้วนขึ้นหรืออะไร ต้องมาใส่นิ้วนางค่ะ”
คนสังเกตว่าเม็ดมันใหญ่?
   “ตัวออมมันเล็กเองหรือเปล่าคะ  นิ้วออมเล็กหรือเปล่า(หัวเราะ)”
เคยใส่ได้แค่นิ้วนางก็เลยได้แค่นิ้วเดียวเหรอ?
   “ยืมแม่มา (หัวเราะ)  อันนี้จริงๆ อย่าไปเขียนอย่างนั้นนะ ไม่มีอะไร”
พี่แอมเคยให้แหวนหรือเครื่องประดับมั้ย?
   “ก็มีบ้างค่ะ แต่ว่าไม่ใช่แหวนค่ะ เป็นอย่างอื่นค่ะ”
หรือเขาเก็บไว้เป็นวันนั้นทีเดียว?
   “อันนี้ต้องไปถามเขาดูนะคะ (หัวเราะ)”

ถ้าพี่แอมให้ต้องเม็ดใหญ่กว่านั้น?
   “ไม่ใจเลยค่ะ (หัวเราะ)”
แต่ได้หมด ถ้าได้?
   “ก็เขาให้อะไรมาก็โอเค(หัวเราะ)”
มีคนถามมีคนแซวมั้ย?
   “พี่ๆนักข่าวคนแรกเลยค่ะ ไม่มีใครแซวเลยเพราะปกติไปงานบางทีเราก็มีบ้างเพราะสไตล์ลิสต์จัดมาให้อย่างนี้ค่ะ”
ปีนี้จะได้ใส่กับพี่แอมมั้ย?
   “ปีนี้เหรอ น่าจะยังค่ะ”
เขาได้ตามข่าวมั้ยว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดี?
   “เขาเป็นคนที่ตามข่าวน้อยที่สุดแล้วแหละ เขาไม่ค่อยรู้เพราะเขาไม่ได้เล่นโซเชียลคือเขาจะหยิบโทรศัพท์มาเล่นโซเชียลทีนึงก็ต้องมีวาระสำคัญ อย่างเช่น รู้สึกว่าวันนี้วันเกิดอยากจะโพสต์เปิดไอจีนิดนึงก็จะเป็นแบบนั้นค่ะ”
เรากดดันมั้ยที่ต้องมาตอบเรื่องนี้ตลอดเพราะเราเป็นผู้หญิง?
   “ก็ไม่หรอกค่ะก็เข้าใจพี่ๆจะไปถามเขาที่ไหนอ่ะวันๆเขาก็ทำงานก็ไม่ได้มาเจอกันแบบนี้”
แอบไปเล่าให้เขาฟังมั้ยเวลาเราเจอข่าวอะไรประมาณนี้?
   “ไม่ค่อยได้เล่าค่ะ เพราะว่ามันก็เป็นสิ่งที่เขาก็น่าจะรู้อยู่แล้วก็มีบ้างที่เราจะตัองโดนถาม”

ล่าสุดเป็นอิสระแล้ว?
   “ใช่ค่ะ สักพักแล้ว หมดสัญญาปีที่แล้วค่ะ”
ทำไมถึงตัดสินใจเป็นอิสระ?
   “จริงๆตอยแรกที่ออมเพิ่งได้เซ็นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สำหรับออมมันเหมือนเป็นการลองดูหน่อย เพราะก่อนหน้านี้ออมก็ไม่เคยเซ็นที่ไหนอยู่แล้วค่ะ ออมก็ลองดูหน่อยว่าจะเป็นยังไง แล้วพอหมดสัญญาก็ต้องกลับมาคิดว่าเราจะเอายังไง เราอยู่ในช่วงจังหวะที่เรามีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วยส่วนหนึ่ง แล้วก็ปัญหาเรื่องการทำงานต่างประเทศที่เรารู้สึกว่า เราต้องจัดการอะไรบางอย่างด้วยตัวของเราเอง และเราก็มีความรู้สึกว่าการที่เราเซ็นสัญญา หรือติดสัญญากับที่ใดที่หนึ่ง มันทำให้เรารู้สึกเกรงใจ เวลาที่เราจะไปต่างๆ โดยที่เราตัดสินใจด้วยตัวเอง ทั้งๆที่เรามีผู้ใหญ่อยู่นะที่เขาจะต้องเป็นคนตัดสินใจให้ แต่ว่าออมก็คิดว่า ณ ช่วงจังหวะอายุตอนนี้ด้วย อะไรด้วย เราควรที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ว่าเราจะทำอะไรืไม่ทำอะไร อยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไร”
เกี่ยวกับเรื่องผลงานในช่องที่ผ่านมาด้วยมั้ย?
   “ไม่ได้เกี่ยวเลยค่ะ คือจริงๆช่องมีงานให้ออมตลอด ก่อนหน้านี้หลังจากเรื่องตุ๊กตาผี ก็จะมีงานให้ออมตลอด ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องมีงานไม่มีงาน คือช่องก็น่ารักกับออมมาก คือออมก็อธิบายผู้ใหญ่ไปตรงๆว่าหลักๆมาจากเรื่องสุขภาพ  พอมันมีเรื่อองสุขภาพเข้ามา มันมีความหมายว่าในเรื่องของความเครียด คือคุณหมอบอกเลยว่าต้องไม่เครียด ออมก็เลยคิดว่าอะไรที่เป็นปัจจัยเรื่องของความเครียด หรือไม่สบายใจ โดยนิสัยของออมเป็นคนขี้เกรงใจมากๆ เราก็จะตัดปัญหาเรื่องนี้ไป เพราะเราจะกังวลไงคะทุกครั้งที่เราไปต่างประเทศ หรือว่าอะไรแบบนี้ เราก็มาชั่งใจว่าถ้าเราเป็นฟรีแลนซ์เราก็ตัดภาระตรงนี้ไปได้นิดหนึ่ง คือทุกอย่างเราก็ตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองว่าอยากจะทำอะไร ไม่ทำอะไร หรืออยากจะไม่ทำอะไรไปเลย (หัวเราะ)”

การมีสัญญาทำให้เรารับงานต่างประเทศได้ไม่เต็มที่?
   “มันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือเวลาที่ผู้ใหญ่เขาบอกกับเราว่าจะมีงานให้เรา เขาก็ป้อนงานให้เราเรื่อยๆ สมมุติว่าแต่ช่วงปีนี้เราอยากจะไปทำอย่างอื่น แต่บางทีผู้ใหญ่เขาก็มอบหมายให้เราแล้ว เขาก็หวังดีกับเรา แต่ด้วยความที่เรารู้สึกว่า บางช่วงบางจังหวะเราอยากจะจัดการเวลานั้นด้วยตัวเอง มันเป็นเรื่องแค่นี้เองค่ะไม่ได้มีปัญหาหรือไม่ได้มีอะไรเลยค่ะ”
พอเป็นอิสระเราจะลุยงานต่างประเทศเต็มที่?
   “ซึ่งเราก็ยังตอบไม่ได้อีก (หัวเราะ) นี่เป็นสิ่งที่ออมยังคิดไม่ออกไงคะ เพราะปัญหามันอยู่ที่สุขภาพเราก่อนหน้านี้ แล้วเราก็คิดว่าปีนี้เราขอคิดว่าเราขออยู่เมืองไทยก่อนได้ไหม ทำงานที่เราคิดว่าเราไหวในช่วงเวลานี้ ที่เราจัดการเวลากับทีมได้เอง”
ตอนที่เรามีสัญญากับช่องเราปฏิเสธงานต่างประเทศไปเยอะมั้ย?
   “ก็ไม่ได้เยอะมากนะคะ คืออมเป็นคนไม่ได้จำด้วยแหละว่าเราปฏิเสธอะไรไป คือออมไม่ได้คิดตรงนั้น คือถ้าเรารับงานอะไรมาแล้ว เราจะทำให้เต็มที่ สิ่งที่ทำให้ออมไม่สบายใจคือแค่ออมจะทำให้เขาได้ไม่เต็มที่แค่นั้นเองค่ะ”

จะมีโอกาสเห็นออมไปเล่นช่องอื่น?
   “ก็มีโอกาสค่ะ ตามจังหวะเวลา และโปรเจ็กต์ที่ออมคิดว่ามันเหมาะกับออม และเรารู้สึกว่าเราโอเคกับบทประมาณนี้ค่ะ”
มีติดต่อมาบ้างมั้ย?
   “ก็มีค่ะ ค่อนข้างมีเหมือนกันค่ะ”
ปีนี้เน้นงานที่ไทยก่อน?
   “ปีนี้ 2 เรื่องแรกน่าจะอยู่ที่ไทยก่อนค่ะ ไม่ใช่ช่อง 3 ค่ะ เป็นช่องอื่นค่ะ”
มันจะคลายเครียดลงหรือว่ายังไง?
   “คือเตรียดมันเหมือนว่าถ้าทำงานต่างประเทศบางทีก็นอนน้อยค่ะ เครียดจำบทจำอะไร ก็ขอหื้นฟูตัวเองก่อนแล้วกัน เตรียมพร้อมก่อน แต่ไม่ใชาไม่สนใจไม่อยากทำเลย ใจมันอยากไปอยู่แล้ว แต่ร่างกายมันไม่ไหวค่ะ”

ปีหน้าไปลุยจีนเต็มที่?
   “อยากจะเป็นอย่างนั้นนะ”

อย่างที่เราบอกว่าปัญหาสุขภาพของเรามันแย่ตอนนี้มันดีขึ้นหรือยังหรือเราดูแลมันยังไงบ้าง?
   “คือมันดีขึ้นด้วยยาค่ะ คือกินยาตลอดแล้วก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอก็โปรเจ็กต์อะไรที่มันรู้สึกหนักมากนี่ก็ไม่ไหวแล้วอ่ะ ก็คงเบรกไว้ก่อน”
อย่างมากก็คือยังไม่ได้รับในช่วงนี้?
   “ในช่วงนี้ยังค่ะ”
อาจจะเป็นคอมเมดี้?
   “อาจจะเป็นมีประมาณนั้น ในทางที่เราถนัดแต่ว่าก็จะมีความแต่งต่างในแง่ของการแสดงอยู่ค่ะ”