(คลิป) 'ณเดชน์' แจงไม่ได้จุ๊บ 'ญาญ่า' แค่เป็นการอิมโพรไวส์ 

         ทีมบันเทิง  คมชัดลึก  -  หลังจากช็อตหวานเมื่อวันงานครบรอบ 49 ปีช่อง 3 จังหวะที่ "ณเดชน์" มาเต้นคู่และเกิดการเข้าประชิดตัวแบบไม่เตี๊ยมจนเกิดเป็นมุมภาพจมูกชนแก้มขึ้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหนุ่มณเดชน์ในงานเปิดตัว "Autobot" หุ่นยนต์ดูดฝุ่นฉลองจับมือกับ "Shopee" จึงถามถึงเรื่องนี้ 

 

 

ถามถึงงานฟุตบอลช่อง 3 เมื่อวาน?
         “ต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ไปร่วมสนุกกัน แฟนคลับของนักแสดงทุกคนน่ารักและสุดยอดมากๆ ไปรอกันตั้งแต่เช้าแล้วอยู่กันจนงานเลิกเลย”

เต้นสู้ตายเหมือนกันเนอะ?
         “จริงๆ ก็เป็นการทำงานที่มอบให้กับแฟนๆ ผู้ใหญ่และทีมงานทุกคนบอกว่างานนี้มันเป็นการตอบแทนให้กับแฟนคลับทุกคนที่มาดูทั้งทางบ้านและที่สนาม ถ้าพวกเราทำกันไม่เต็มที่ก็จะยังไงอยู่ ฉะนั้นต้องทำให้ทุกคนสนุกเหมือนอยู่ที่สนามเลย”

ช็อตจมูกชนแก้มนอกสคริปต์นี่เตรียมมาจากบ้านหรือเปล่า?
         “(หัวเราะ)มันอินกับจังหวะเพลง เลยเป็นประมาณที่เห็นกันนั่นแหละ ผมดึงเขาเข้ามา ต่างคนก็ต่างตกใจ แต่ว่าไม่ได้หอมแก้มหรือว่าอะไรนะครับ ไม่ได้มีการเตรียมมาก่อนว่าจะทำแบบนี้ จริงๆ ท่าทุกท่าที่ผมไปเข้าหาแต่ละคนก็คือมานะตอนนั้นเลย คิดสดๆ ไม่ได้คิดว่าต้องทำเพราะถ้าคิดจะยิ่งเพิ่มการบ้านเข้าไปอีก”

 

 

ความรู้สึกตอนนั้นคือยังไง ทนกับความน่ารักของญาญ่าไม่ไหวหรือเปล่า?
         “(ยิ้ม)ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ อาจจะด้วยมุมภาพมุมกล้องเลยทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการหอมแก้ม ไม่ใช่นะครับ จริงๆ มันคือการดึงตัวเขาเข้ามา”

ภาพที่ออกมาเหมือนโดน ของจริงโดนไหม?
         “เอ่อ...ไม่โดนนะครับ(ยิ้ม) ผมก็จำไม่ค่อยได้เพราะตอนนั้นก็ตกใจเหมือนกัน แต่น้องดูตกใจกว่า เห็นแล้วก็สงสารครับ(ยิ้ม) แต่ก็สนุกดีไม่มีอะไร เรียกว่าเป็นซีนที่เหมือนอิมโพรไวส์ทั้งหมด”

หลังจากนั้นญาญ่าได้ถามไหมว่าทำไมถึงดึงตัวเข้ามา?
         “หลังจากลงเวทีเขาก็บอกเหมือนกันว่าตกใจเลย แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ส่วนเพื่อนนักแสดงคนอื่นก็ไม่ได้มีแซวอะไร แต่หลังมีภาพออกมาถึงเริ่มมีคนแซวเพราะเข้าใจว่าหอมแก้มกัน”

แล้วอย่างนี้ในคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองจะมีช็อตนอกสคริปต์กว่านี้ไหม?
         “จริงๆ ก็ไม่แน่นะครับ ครูอู๋ที่มาสอนเต้นจะบอกเสมอว่า ความสนุกของการทำคอนเสิร์ตหรือการแสดงมันไม่ได้อยู่ที่การทำตามคำสั่ง บางทีการนอกสคริปต์มันอาจจะเป็นตัวตนของเรา หรือเป็นความสนุกที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ ณ ขณะนั้น ซึ่งทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นมาเอง แล้วเป็นสิ่งที่น่าสนใจและดูจริงที่สุด การที่ทุกคนอาจจะคาดหวังอะไรแบบนี้ในคอนเสิร์ตอันนี้ผมก็ให้คำตอบไม่ได้ แต่ว่ามันจะต้องมีแน่ๆ อยู่แล้วอะไรที่เป็นเรื่องของเคมีระหว่างเจ้าของคอนเสิร์ตกับแขกรับเชิญ”

แสดงว่าความฟินมีมาเสิร์ฟแน่นอน?
         “มีครับ แต่ว่าผมทำคอนเสิร์ตกับน้องญาญ่ามาค่อนข้างจะเยอะแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นโจทย์หลักที่จะต้องแก้ทางคนดูว่าจะเดาอะไรออกบ้าง”

ถ้าอินเนอร์มันพาไปมากกว่านี้ ในคอนเสิร์ตก็อาจจะเห็นได้มากกว่างานฟุตบอลช่องเมื่อวาน?
         “โอ้โหพี่...(ยิ้ม)มันก็ไม่ขนาดนั้นปะ มันก็ยังเป็นคนสาธารณะอยู่ ในส่วนของคอนเสิร์ตตอนนี้เตรียมงานไปได้ 50% แล้ว ทุกคนจะได้เห็นผมในมุมที่หลากหลาย เอาทุกอย่างที่มีในชีวิตออกมาให้หมดเลย เรียกว่าเป็นไม้สุดท้ายแล้วสำหรับคอนเสิร์ตนี้”

หลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้วเหรอ?
         “ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ยาก ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปจะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือเปล่า ถ้าคอนเสิร์ตจบไปก็คงจะเป็นนักแสดงรับละครกลับมาในชีวิตที่เป็นโหมดปกติ แต่ว่าอันนี้มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ท้าทายผมมากเหมือนกัน ส่วนตัวไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นคอนเสิร์ตที่เป็นแขกรับเชิญตามปกติก็คงจะมีอยู่แล้ว แต่ถ้าคอนเสิร์ตเดี่ยวแบบนี้มันน่าจะยากนะครับ”

 

 

ถามถึงละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” เห็นว่ามีคิวออกอากาศเดือนพฤษภาคมนี้แล้ว?
         “จริงๆ กะว่าเป็นเดือนเมษายน แต่ในเมื่อช่วงสงกรานต์แล้วคนดูอาจจะไปพักผ่อนกัน ตรงนี้มันก็เป็นเรื่องของการตลาดด้วย ส่วนผู้ใหญ่ก็บอกว่าหลังสงกรานต์ต้องออนแอร์แน่ๆ เพราะว่ามีสัญญากับทางจีนด้วยที่ระบุเอาไว้แล้ว ฉะนั้นเราต้องออนแอร์พร้อมกับเขา จริงๆ ครเรื่องนี้ถ่ายเสร็จเมื่อตอนปลายเดือนมกราคม แต่จะต้องทำโพสต์โปรดักชั่นและซีจีอีกหลายอย่าง แล้วซีจีในเรื่องนี้เยอะมากๆ เลยต้องเสียเวลาประมาณ 2-3 เดือนในการทำ”

ช่องเคาะมาแล้วว่าเป็นเดือนพฤษภาคมแน่นอนใช่ไหม?
         “เท่าที่ผมทราบมาแน่ๆ ครับ น่าจะเป็นช่วงพฤษภาคม ส่วนตัวไม่ได้ลุ้นอะไร แต่ไม่อยากให้แฟนๆ แบบเมื่อไหร่จะออนแอร์ นานจังเลย ผมก็เข้าใจว่าก็มีทั้งคนที่อยากจะดูแล้ว รอนิดนึงรับรองว่าตอนที่มันตัดต่อเสร็จแล้วเป็นอะไรที่สวยมากๆ”