บันเทิง

'ผกก.สันต์ ศรีแก้วหล่อ' ย้ำทำ 'ฤกษ์สังหาร' อย่างเป็นกลาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้กำกับชื่อดัง "สันต์ ศรีแก้วหล่อ" เผยระมัดระวังขั้นสุดทำละคร "ฤกษ์สังหาร" ไม่ให้พาดพิงถึงใคร พร้อมบอกอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหากละครจะอดฉายเหมือน "เหนือเมฆ"

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดนิยายเรื่อง "ฤกษ์สังหาร" ก็ถูกทำมาเป็นละคร ด้วยการผลิตของทางช่องวัน 31 โดยมอบหมายให้ "สันต์ ศรีแก้วหล่อ" ผู้กำกับมือทองของช่องมากำกับเรื่องนี้ และได้ "ฌอห์ณ จินดาโชติ, มอส-ปฏิภาณ" และ "ตู่" ภพธร นำแสดง และก็เหมือนประจวบเหมาะ เพราะเมื่อเปิดตัวละครปุ๊บก็ตรงกับการประกาศการเลือกตั้งทันที ทำให้มีหลายคนที่เป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ตั้งคำถามว่า "ฤกษ์สังหาร" จะออนแอร์ หรือปลิวไปเหมือนละครเรื่อง "เหนือเมฆ" ของทางช่อง 3 
    "ฤกษ์สังหาร" เป็นเรื่องเกี่้ยวกับนักการเมืองที่มักใหญ่ใฝ่สูงอยากจะเป็นใหญ่ ด้วยการทำคุณไสยใส่ประเทศ เพื่อให้ตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ โดยมีพระเอกของเรื่องซึ่งเป็นหมอดูและรู้เรื่องการทำสิ่งนี้และมาขัดขวาง 
 

    "บันเทิง คมชัดลึก" ได้มีโอกาสคุยกับ "สันต์ ศรีแก้วหล่อ" ถึงการทำละครที่เกี่ยวกับการเมืองในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังมีการเลือกตั้งจะส่งผลกับละครไหม 
    กับเรื่องฤกษ์สังหารเป็นยังไงบ้าง
    "บังเอิญได้ทำ (หัวเราะ) อ่านเรื่องแล้วมันก็แบบ เรื่องมันใหญ่ ทุกอย่างมันก็เลยต้องใหญ่ตามเรื่องตามราวไปด้วย ถามว่ายากไหมก็ยากอยู่ เพราะมีหลายอย่างในเรื่องนี้ที่ไม่เคยทำ และต้องมาลองทำดู ก็คิดว่าน่าจะสนุกดี"

 

    พอได้อ่านเรื่องนี้ชอบตรงไหนของเรื่องนี้
    "ชอบในเชิงพล็อตที่มันเป็นเรื่องโหราศาสตร์ แต่มันก็ไม่ได้เป็นไสยศาสตร์ มันมีความเชื่อมโยงเกี่ยวความเป็นจริงค่อนข้างมาก แล้วก็มันมีการจับเอาเรื่องของโหราศาสตร์มาอยู่กับเรื่องคนที่อยากเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านในเมือง ผมว่ามันก็น่าสนใจดี เพราะจริงๆ ความเชื่อแบบนี้ในประเทศเราก็เชื่อกันอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่าไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับคนดู และในขณะเดียวกันก็คิดว่าคนดูน่าจะได้อะไร" 

 

    ทำไมถึงเลือก ฌอห์ณ มารับบทมหากระทิง (พระเอกของเรื่อง) บทนี้ค่อนข้างหนัก
    "ก็หนักอยู่ คือจริงๆ ตามบทเขาต้องเป็นหนุ่มรูปงามอยู่ประมาณหนึ่ง จากที่เราพลิกดูแล้วเนี่ย ดูนั่นดูนี่แล้ว ก็คิดว่าเขาก็คมเข้มตามที่อยากได้อยู่ และเขาเหมือนมีอะไรบางอย่าง มันมีความเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ ในความเซ้นส์ของผมนะ ผมรู้สึกว่าเขามีอะไรบางอย่าง"

 

    ดูคาแรกเตอร์ฌอห์ณไม่น่าจะเข้ากับเรื่องของโหราศาสตร์
    "เขาก็คงเป็นคนไม่เชื่อเรื่องแบบนี้หรอก ถ้าเราดูจากภาพเขา แต่ภาพรวมในความคิดของผม รู้สึกว่าเขามีอะไรแบบนี้อยู่ ถ้าเขามาเล่่นบทมหากระทิง ซึ่งผมขอใช้คำว่าหมอดูแล้วกันจะได้เข้าใจกันง่ายๆ มันต้องพูด ต้องอะไรให้คนเชื่อ แต่การที่เราจะทำให้คนเชื่อได้ เราต้องเชื่อสิ่งนั้นอย่างจริงๆ จังๆ ก่อน หมือนกับเราเล่าเรื่องผี เราก็ต้องอาจจะต้องเคยเจอผีจริงๆ มั้ง ไม่งั้นคนก็คงไม่เชื่อ แล้วผมรู้สึกว่าผมได้เซ้นส์นั้นจากฌอห์ณ และในขณะเดียวกันบางฉากบางตอนก็จะต้องมีฉากแอ็คชั่น ซึ่งดูจากบุคลิกภาพของเขาก็น่าจะโอเคอยู่ เพราะว่าเขาเคยเป็นนักกีฬา และในอีกมุมหนึ่งที่ต้องเล่นก็คือจะต้องเล่นเข้าพระเข้านางในแบบ... คือเรื่องนี้มันก็ไม่กุ๊กกิ๊กมาก อย่างเขาอาจจะเคยผ่านละครกุ๊กกิ๊กมา แต่เรื่องนี้จะท้าทายเขาอีกแบบหนึ่ง ต้องเล่นแบบรักจริง รักโรแมนติก ผมว่าเขาก็น่าจะเหมาะดี"

 

'ผกก.สันต์ ศรีแก้วหล่อ' ย้ำทำ 'ฤกษ์สังหาร' อย่างเป็นกลาง

 

 

'ผกก.สันต์ ศรีแก้วหล่อ' ย้ำทำ 'ฤกษ์สังหาร' อย่างเป็นกลาง

    แล้วในตัวนางเอก ทำไมเป็น "มิลลี่" เห็นว่าแคสแล้วแคสอีกกับบทนี้
    "ก็ต้องยอมรับว่ามีการเรียกมาออดิชั่นหลายคนเหมือนกัน คือคอนเซ็ปต์ของเรื่องเลย คือเรื่องนี้ต้องการนางเอกที่ขาวใส แบบใสๆๆๆ ในเงื่อนไขของเรื่อง ผู้หญิงคนสุดท้ายที่เป็นเหยื่อจะต้องพรหมจรรย์ มันต้องแบบนั้น ตอนที่เขามาออดิชั่นแล้วมาเล่นกับฌอห์ณ คือหนึ่งเลยเขาก็ดูใส ดูเด็กมาก และก็ดูซื่อๆ เลย แล้วพอมาเล่นกับฌอห์ณ เรารู้สึกว่าทั้งคู่มีเสน่ห์ไปด้วยกัน"

 

    อย่างเรื่อง "ฤกษ์สังหาร" มีการพาดพิงเรื่องของการเมือง ต้องระมัดระวังไหม 
    "คือ...เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้กังวลเรื่องการเมืองมากนัก จะกี่ปีกี่ชาติก็มีทั้งคนดีคนชั่วอยู่แล้วในทุกๆ สังคม และตามบทประพันธ์เขาเป็นแบบนี้มา เราก็ไม่ได้ไปว่าใคร มันเป็นแค่การยกตัวอย่างของคนที่อยากมีอำนาจ และใช้การกระทำด้วยวิธีี่มันไม่ดีเท่านั้นเอง แต่ว่าก็จะระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบว่าไปพาดพิงหรือไปพูดถึงใคร เอาง่ายๆ คือในเรื่องจะต้องมีพรรคการเมือง เรื่องสีของพรรคการเมืองผมให้หาสีที่ไม่มีเลย จะไม่น้ำเงิน ไม่แดง ไม่เหลือง ไม่อะไร จบเรื่องสีไปให้หมด โลโก้พรรคก็ไม่ให้ใกล้เคียงกัน ไม่ให้เหมือนกัน"

 

    มีประสบการณ์จากตอนเรื่อง "ล่า" ที่ถูกโวยมาแล้วด้วยหรือเปล่า
    "ใช่ๆๆ ตอนล่าก็เป็นเรื่องปวดหัวมาทีหนึ่งแล้ว ซึ่งขนาดละครเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับการเมืองเลยนะ เราก็ถือว่าตอนเรื่องล่าก็เป็นบทเรียน อันนี้เราก็ระมัดระวังกันเต็มที่ ก็จะไม่ให้ไปพาดพิงถึงใครแน่ๆ"

 

    เรื่องนี้มีการดัดแปลงจากบทประพันธ์ไหม เพื่อให้ทันยุคทันสมัยในสไตล์ช่องวัน
    "แน่นอนว่าทุกอย่างเราพยายามจะปรับให้อยู่ในสมัยนี้ ความสมัยของผมในที่นี่คือว่าทำให้บุคลิกของคนมันมีจริง ยกตัวอย่างเช่นนางเอกที่เป็นใสๆ ผมก็คงไม่ทำให้เป็นใสแบบผ้าพับไว้ แต่เป็นใสของเด็กสมัยนี้ ความรู้สึกน่าจะเป็นแบบนั้นมากกว่า แต่พูดถึงการดูโหราศาสตร์ สมัยนี้มันมีความทันสมัย ผมไปดูหมอมา หมอทุกคนก็ีไอแพดจิ้มป้อนเข้าซอฟท์แวร์ มีซอฟแวร์เฉพาะเพื่อการคำนวน แต่การตีความเป็นหน้าที่ของหมอ ผมว่ามันก็ทันตามสมยนี้อยู่แล้ว และก็เรื่องความคิดความเชื่อของตัวละครฐานความคิดต้องเป็นคนรุ่นนี้ เพราะเขาเป็นคนพ.ศ.นี้ มันก็จะไม่มีพระเอกโง่ ไม่มีนางเอกซื่อบื้อ ไม่มีตัวร้ายแบบที่กรี๊ดๆๆๆ ตลอด มีความกลมๆ จริงๆ หน่อย เรื่องนี้เป็นละครสืบสวนสอบสวน ผสมแอ็คชั่น แต่แอ็คชั่นในที่นี่ไม่ได้เป็นแอ็คชั่นเตะต่อย แต่เป็นแอ็คชั่นสถานการณ์ ตึกถล่มเรือชน น้ำท่วม เป็นแอ็คชั่นในทำนองนั้น ไม่ได้เป็นแอ็คชั่นเตะต่อย ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เป็นแอ็คชั่นสถานการณ์"

 

    งบประมาณในการทำเรื่องนี้ก็ต้องเยอะมาก
    "บาน (หัวเราะ) เทหมดหน้าตัก รวมไปถึงหน้าแข้งด้วย (หัวเราะ) ซึ่งทางผู้ใหญ่อนุมัติแล้ว เราได้เงินแล้ว เราทำเต็มที่"

    กลัวไหมว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งแล้ว ถ้าละครออนแอร์าจจะมีปลิวแบบละคร "เหนือเมฆ" ไหม
    "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมว่า คือถึงเวลานั้นมันพูดไม่ได้ แต่เราทำมันไปตามเนื้อผ้า ในประเด็นที่บท และบทประพันธ์ต้องการสื่อสาร ผมก็ทำไปด้วยจิตใจอันดีว่าไม่ได้คิดที่จะไปด่าใครแน่ๆ เราก็ทำไป ว่าเรื่องมันต้องเล่าแบบนี้ จะต้องทำแบบนี้แมสเสสมันต้องการบอกแบบนี้ แต่ถ้าทำไปแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแค่นั้นเอง เราต้องการนำเสน่ห์ของเรื่องนี้ คือถ้าเราถอดรากมันเลยคือว่าคนเลวที่ไม่พอ อยากได้อยากมีเพิ่มเติม เขาทำทุกอย่างเพื่อความอยากได้อยากมี มันต้องมีคนดีเพื่อมาจัดการสิ่งนี้ ในทุกสังคมมีสิ่งนี้ ในทุกวงการมีสิ่งนี้ เพียงแต่เราหยิบเรื่องนี้มา เพราะบทประพันธ์เขาว่าด้วยเรื่องนี้ ผมว่าถ้าถอดรากมันก็แค่นี้"

 

    อยากบอกอะไรกับคนที่รอดูเรื่องนี้
    "ตอนแรกผมไม่รู้ว่ามีแฟนนิยายเรื่องนี้เยอะมาก ก็เพิ่งมาทราบตอนที่รับปากว่าจะทำเรื่องนี้ ก็จะพยายามทำเรื่องนี้ให้สนุกเท่ากับที่นิยายเขียนไว้"

 

'ผกก.สันต์ ศรีแก้วหล่อ' ย้ำทำ 'ฤกษ์สังหาร' อย่างเป็นกลาง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ