'แบมแบม'ให้กำลังใจ 'ลิซ่า' หลังโดนดราม่า

         บันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าเดินทางมาร่วมงานที่เมืองไทยบ๊อยบ่อย สำหรับ “แบมแบม” กันต์พิมุกต์ ภูวกุล นักร้องวง Got7  ล่าสุดได้ถามถึงเรื่องดราม่าที่ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ลลิษา มโนบาล ถูกคนเกาหลีบางกลุ่มดูถูก จนชาวบริ๊งค์ออกมาปกป้องและเกิดกระแส #Respectlisa มาแรงในโซเชียล ซึ่งไอดอลหนุ่มชาวไทยได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ ในงานเปิดตัวคอนเทนต์รับปีใหม่ ภายใต้คอนเซปท์ ‘True for All, More 4U สนุกเกินคาด มากกว่าที่คิด ที่ โรงภาพยนตร์ IMAX, Icon Cineconic ศูนย์การค้า ICONSIAM กรุงเทพฯ ว่า

        “อ๋อ..ได้ดูนะ คือผมเป็นเพื่อนกับพี่ลิซอยู่แล้วผมก็ติดต่อพี่ลิซไป ก็ให้กำลังใจเขาไป คือจริงๆพอผมดูข่าวแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กๆ เลยไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันเป็นแค่คน 2-3 คนเองแค่คน 10 คน ผมว่าทำอะไรพี่ลิซไม่ได้อยู่แล้วเพราะมีคนรักพี่ลิซเยอะกว่าอยู่แล้วผมรู้จักกับพี่ลิซมาตั้งแต่ก่อนผมเข้าวงการอีกเพราะฉะนั้นผมรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง พี่ลิซเป็นคนนิสัยดี ร่าเริง เป็นคนคิดดี ทำดีอยู่แล้วตอนนี้อาจจะมีบางคนที่อาจจะยังไม่รับรู้ แต่ผมว่าสักวันหนึ่งเขาต้องรับรู้แน่นอน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพี่ลิซรับรู้ถึงกำลังใจนะอันนี้เขาฝากบอกผมมา พี่ลิซเขาฝากมาบอกว่าขอบคุณทุกคน ถามว่าเขาเครียดไหม ไม่นะผมโทรไปถามก่อนว่ามีเรื่องอะไร โอเคหรือเปล่า จริงๆ คนไทยที่อยู่เกาหลี เรารู้จักกันอยู่แล้วเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมก็บอกว่าไม่ต้องเครียด รอผมกลับเกาหลีเดี๋ยวผมไปเลี้ยงข้าวอะไรแบบนี้

         (เคยโดนบ้างไหม)มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแต่ของพี่ลิซคนที่พูดอาจจะพูดแรงเกินไปนิดหนึ่งของผมก็มีไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ผมไม่ได้อะไรกับเรื่องนั้นอยู่แล้ว ผมจะโดนตอนแรกๆ แต่ว่าตอนนี้ก็มีบ้าง แต่ว่าน้อยลงแล้ว เหมือนคนก็เริ่มยอมรับในตัวผมมากขึ้น (ตอนนั้นที่โดน เรามีการรับมืออย่างไร) คือผมพยายามคิดในด้านบวกเขาด่าผมว่าร้องเพลงไม่ดี เต้นไม่เก่ง อะไรแบบนี้ หรือภาษาเกาหลีไม่เก่ง อันนี้ผมอาจจะเฮิร์ตหน่อยเพราะว่ามันเป็นเรื่องของความสามารถแต่ถ้าเขาไม่ได้ด่าเรื่องความสามารถ แต่เขามาด่าเพราะผมเป็นคนไทยแบบนี้ มันเหมือนกับว่าเขายอมรับในทักษะของผมแต่เหมือนเขาไม่ชอบที่เราเป็นคนไทย เหมือนกับว่าเขาไม่มีเรื่องอะไรให้ด่าเขาก็เลยด่า เอาอะไรก็ได้มาด่าเพราะฉะนั้นเราก็ไม่ค่อยแคร์ แต่ก็เป็นส่วนน้อย เรื่องนี้มันปกติมันมีทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ไทยอยู่เกาหลี ไม่เกี่ยวกับว่าจะเหยียดประเทศอะไร ไปไหนก็มีคนคิดไม่ดีอยู่แล้ว (ตอนนี้สตรองมาก) ผมก็ไม่ได้ชิวๆไม่ได้บอกว่าตัวเองสตรองหรือว่าอะไรแต่ผมก็ใช้ชีวิตมีความสุขแบบนี้ของผมไปทุกวันดีกว่า ยังไงคนพวกนั้นผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ในชีวิตนี้ผมไม่น่าจะมีโอกาสได้เจอเขาก็ปล่อยเขาใช้ชีวิตของเขาไป ผมก็ใช้ชีวิตของผมไป”

        เมื่อถามถึงโปรเจคที่ทำในเมืองไทยล่าสุด นักร้องหนุ่มกล่าวว่า 

        “กลับมาครั้งนี้มาเพื่อ GOT7 REALTHAI มาก่อนสองวันแรกถ่ายในสตูดิโอ เป็นอีพีพิเศษเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ถ่ายกับพี่ดีเจนุ้ย พี่จั๊กจั่นและพี่นิกกี้() รายการรูปแบบธรรมชาติเลยครับ เรียลลิตี้เลยครับ ไม่แต่งหน้า ไม่ทำผม มันจะเป็นอีกภาคหนึ่งที่ไม่เคยเห็นใน GOT7 มาก่อน ทึกอย่างจะธรรมชาติมาก มันจะเรียล ไม่มีเฟค ถ้าเกิดแพ้เกมส์อดกินข้าววคืออดจริงๆเลย (พอเพื่อนๆรู้คอนเซ็ปแล้วเขาว่าอย่างไรกันบ้าง) ตอนแรกผมโดนหลอก ผมบอกมากไม่ได้ เดี๋ยวผมบอกสปอย ตอนแรกเขาบอกว่าจะไปเที่ยวนะแต่แค่มีกล้องตามเฉยๆ แต่พอมาจริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย (ระแวงกล้องตลอดเวลาเลยไหม) เรื่องระแวงกล้องไม่มีปัญหา แต่ทิชชั่นที่ให้มาแต่ละอันคือมันผจญภัยมากๆ อันนี้เดี๋ยวรอดูในรายการดีกว่า คืออันนี้ถ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ผมดูก็สนุกดี ดูแล้วก็แอบเป็นห่วง เพราะบางทีมันก็หน้าสดไป ไม่รู้ว่ามันธรรมชาติไปหรือเปล่า ตื่นนอนมาผมยังไม่ได้โกนหนวดเลยก็ถ่ายแลป ประมาณนั้น (นอกจากนี้จะยังมีโอกาสได้ร่วมงานอื่นๆในไทยอีกไหม) ในปีนี้มี แต่ว่าผมยังบอกไม่ได้ อาจจะมีโฆษณาเพิ่มอีกสัก 2-3 ตัว มีไม่ขาดตอนแน่นอน แต่ผมยังไม่บอกดีกว่า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ขอให้รอกันดีกว่า มันมีอะไรดีแน่นอน ที่ไทยโดยเฉพาะเลย (เป็นอีกปีที่กลับมารับงานที่ไทยเยอะขึ้น) แน่นอน รอบนี้เหมือนทางค่ายให้เวลาทำงานเดี่ยวเยอะขึ้น เดี๋ยวประมาณต้นปีนี้ผมจะลุยไทยอย่างเดียวเลย ส่วนเพื่อนๆ ในวงเดี๋ยวได้เจอแน่นอน เดี๋ยวบอกอีกที (ก่อนหน้านี้เหมือนเราภูมิใจมีโปสเตอร์ติดทั่วบ้านทั่วเมืองเลย) ก็ภูมิใจ ก็สนุกดี เวลาเพื่อนๆ วงอื่นมาไทยก็ส่งรูปมาให้ผมดู ก็ดีใจ" แบมแบม กล่าว 

         เมื่อถามต่อว่าอยากทำอะไรอีกไหม นักร้องหนุ่มกล่าวว่า 

        “จริงๆผมก็รู้ว่าหลายๆ คนอยากเห็นผมในจอหนังบ้าง แต่เอาจริงๆเรื่องหลักคือเรื่องเวลาเลย ผมจะมาอยู่ไทยเป็นเดือนมันก็ไม่ได้ และผมอยากหาบทที่มันเข้ากับผมจริงๆ เพราะฉะนั้นรอเรื่องของเวลาดีกว่า อยากให้มันออกมาดีที่สุด ก็มีคนเสนองานเข้ามาเรื่อยๆ คือเข้ามาแบบร้อยเปอร์เซนต์ เข้ามาคุยเฉยๆ สุดท้ายก็ไม่ลงตัว หลักๆ การตัดสินใจอยู่ที่ทั้งเราและค่าย ก็ทั้งสองฝ่าย ทางค่ายประมาณ 50 เปอร์เซนต์ ของผมก็ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์เหมือนกัน เพราะว่ายังไงคนที่แสดงก็คือตัวผม ถ้าผมพร้อมที่จะรับมันก็ดีกว่า ดีกว่ามีคนมาสั่งให้ทำแล้วผมไม่เต็มใจทำ  (เหมือนตอนนี้โตขึ้นเรื่อยๆอำนาจการตัดสินใจก็มากขึ้น) ก็เยอะขึ้น ผมก็สะสมประสบการณ์ไป กับแฟนคลับที่ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม ก็ขอบคุณ เป็นเกียรติคือบางทีมาบ่อยเกินไป ก็กลัวว่าพี่ๆ นักข่าวจะเบื่อหน้า ไม่มาสัมภาษณ์ ผมก็กลัวนิดหนึ่ง มาทุกรอบก็มาต้อนรับดี ผมก็ขอบคุณ ผมก็เต็มที่กับทุกงาน (ตอนนี้เหมือนเราจะป่วย) อ๋อ..ผมป่วยมาตั้งแต่ปลายปีปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เหมือนจะเจ็บคอและไอ แต่ไม่ได้เป็นไข้หรืออะไร เดี๋ยววันหยุดจะมาแล้วขอฟื้นฟูอีกนิดหนึ่ง