บันเทิง

'เพิร์ธ-เซ้นต์' จับมือข้ามผ่านทุกปัญหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "เพิร์ธ" ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ "เซ้นต์" ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา สองนักแสดงนำจากจากซีรีส์ "บังเอิญรัก" บอกเล่าความดังในปีนี้ 


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ถึงซีรีส์จะจบไปแล้ว แต่ความฮอตของ “เพิร์ธ” ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร และ “เซ้นต์” ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา สองนักแสดงนำจากจากซีรีส์ “บังเอิญรัก” ยังคงอยู่ โดยทั้งคู่มีแพลนงานมีทติ้งในต่างประเทศยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งกว่าจะโด่งดังมากขนาดนี้ทั้งสองหนุ่มผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกันมามากมาย ล่าสุด “บันเทิง คมชัดลึก” มีโอกาสจับเข่าคุยกันกับทั้งสองหนุ่ม
 

    @@ ความรู้สึกเป็นยังไงตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน จนถึงวันนี้ที่ซีรีส์ “บังเอิญรัก” ดังข้ามประเทศขนาดนี้
    เซ้นต์ : “มันเกินคาด ตั้งแต่วันแรกที่เราทำงานด้วยกัน เราก็มีความสุข พอวันนี้ได้รับกระแสดีจนถึงวันที่ซีรีส์จบไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ จากที่เราเป็นเด็กที่ไม่มีใครรู้จักเลย มาวันนี้เรามีคนรู้จักเยอะขึ้น มีคนที่เรารักเยอะขึ้น และเขาก็รักเราเยอะขึ้น”
    เพิร์ธ : “ไม่เคยคิดเลยว่า เราจะได้รับความรักมากมายทั้งคนไทยและคนต่างชาติ มันเป็นความรู้สึกมากกว่าดีใจ มากกว่าคำว่าขอบคุณ ทุกครั้งที่ผมพูดคำว่าขอบคุณไป ผมยังรู้สึกเลยว่ามันน้อยไปไหม กับสิ่งที่ทุกคนให้พวกเรามา”
    @@ คิดไหมว่าซีรีส์เรื่องเดียวจะทำให้เรามาไกลกันถึงขนาดนี้
    เซ้นต์ : “ไม่กล้าคิดเลยแม้แต่นิดเดียว”
    @@ ความประทับใจแรกในกันและกัน
    เซ้นต์ : “ครั้งแรกที่เซ้นต์เจอน้อง คือรู้เลยว่านี่เด็กมัธยม (หัวเราะ) หัวเกรียน แต่งชุดนักเรียนมาเลย สิ่งแรกที่คิด น้องจะกลัวเราไหม ก็พยายามคุยกับน้อง น้องก็จะหลบๆ ตาตลอด ไม่ค่อยคุยด้วย ตอนนั้นก็แอบคิดน้องกลัวเราหรือไม่ชอบเราหรือเปล่า”
    เพิร์ธ : “ไม่ใช่ๆ ผมเขิน (ยิ้ม) สำหรับผมตอนที่เจอพี่เซ้นต์ครั้งแรก คือตอนนั้นพี่เซ้นต์เป็นคนที่ตัวเล็กมาก และก็ขาวมาก แต่ตอนนี้ตัวใหญ่แล้ว แต่ตอนนั้นคือเขาผอมมาก และขาวมาก คิดในใจผู้ชายอะไรจะขาวขนาดนี้ (หัวเราะ)”

 

\'เพิร์ธ-เซ้นต์\' จับมือข้ามผ่านทุกปัญหา

 


    เซ้นต์ : “ด้วยความที่เราเล่นคู่กัน มันก็สนิทกันเร็วๆ จากตอนแรกเกร็งๆ ก็เข้าใจกัน มีอะไรคุยกันและปรึกษากันตลอด อันนี้แอบแซวน้อง คือตอนเล่นเลิฟซีนกันครั้งแรก น้องคือแบบว่า เป็นไงบอกพี่เขาไป (เซ้นต์โยนให้เพิร์ธตอบ)

    เพิร์ธ : “คือผมเป็นคนที่เวลาเขินแล้วหน้ามันจะออกมาก หน้าจะแดง แววตาก็จะออก แล้วคือตอนนั้นคือตัวผมแดงทั้งตัว เล่นไปเขินไป”

    เซ้นต์ : “ตอนนั้นคือผลัดกันแดงเลย โดนแซวกันหนักมาก (ฉากนั้นคือฉากอะไร) เป็นฉากบนรถ แล้วตอนนั้นคือต้องจูบกันเลย ซึ่งก่อนเขาฉาก เราคุยกันโอ้ย!! ชิลๆ แต่พอไปอยู่ในฉากปุ๊บ เขินเลย คือแค่มองหน้ากันก็เขินแล้ว และจากฉากนั้นก็มาจูบกันต่อเลย คือเป็นฉากจูบกันบนราวทางบันได ซึ่งฉากแรกที่จูบกันบนรถคืออันนั้นหลายคัทมาก แต่พอมาฉากตรงบันได 2 คัทผ่าน (หัวเราะ)”
        เพิร์ธ : “ครั้งแรกแล้วชินเลยไง (หัวเราะ)”
        เซ้นต์ : “เพราะพี่นิว (ผู้กำกับ) จะบอกว่า มีครั้งแรกและก็ต้องมีครั้งต่อๆ ไป (เพิร์ธเสริมขึ้น “ใช่”)”

 

\'เพิร์ธ-เซ้นต์\' จับมือข้ามผ่านทุกปัญหา
 

    @@ ตอนนี้เราสองคนก็ดูเขินกันนะ
    เพิร์ธ-เซ้นต์ : (ยิ้มหน้าแดง)
    @@ กลัวคนติดภาพความเป็น “เอ้-พีท” ไหม
    เซ้นต์ : เซ้นต์ขอพูดในสถานะที่เล่นเป็นพีทก่อน ว่าเรารู้สึกดีใจที่ทุกคนเชื่อว่าเราเป็นพีทจริงๆ เพราะในฐานะนักแสดงเราก็อยากให้ทุกคนเชื่อในตัวเราว่าเราเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ยิ่งทุกคนเชื่อและเห็นว่าเราเป็นตัวละครนั้น เราดีใจอยู่แล้ว เพราะเหมือนเราประสบความสำเร็จในเรื่องของการแสดง (เพิร์ธพูดขึ้น “เคยมีคนเข้ามาทักพี่เซ้นต์ว่า พีทๆ ด้วย) ใช่ๆ ส่วนเรื่องที่ว่าคนจะติดภาพไหม เราสองคนมองว่ามันคือการแสดง เราดีใจนะที่เราได้มาเล่นตรงนี้ เพราะทำให้เราได้พัฒนาและเรียนรู้การแสดง”
    เพิร์ธ : “ก็มีคนคนเรียกเอ้ๆ เหมือนกัน ซึ่งก็จะเป็นคนที่เข้าดูซีรีส์เรา แต่อาจจะไม่ได้ติดตามเรา พอเวลาเขาเรียก เอ้ๆ เราก็จะหันไป เพราะก็เหมือนเป็นชื่อที่สองของเราเลย ส่วนเรื่องการที่คนจะติดภาพ คือในตอนแรกที่เราตัดสินใจเล่นเรื่องนี้ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นบทบาทที่ท้าทายมากๆ”
    @@ แต่อย่างบางคนเขาก็ไม่เล่นบทแบบนี้
    เซ้นต์ : “ก่อนหน้าที่จะมาเล่นเรื่องบังเอิญรัก มีซีรีส์ติดต่อให้ไปเล่นหลายเรื่องมาก แต่จุดหนึ่งที่เราชอบซีรีส์เรื่องนี้คือ เรื่องความรักระหว่างแม่กับพีท เรารู้สึกชอบมากกับการนำเสนอความอบอุ่นของความรักของแม่กับลูก ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง คือในเรื่องเรารู้สึกว่าความรักของพีทกับแม่ในเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่แม่คนหนึ่งจะรักลูกมากขนาดนี้ที่รับได้ทุกอย่างเพื่อลูก และลูกที่รักแม่มาก ถึงขนาดยอมเจ็บตัว ปิดบังความเป็นตัวเอง เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจ”

 

\'เพิร์ธ-เซ้นต์\' จับมือข้ามผ่านทุกปัญหา

 


    เพิร์ธ : “ในส่วนของผม ถ้าให้พูดตรงๆ เลยนะ ผมไม่เคยมองซีรีส์เรื่องนี้ว่าเป็นซีรีส์วายเลยนะ ผมมองว่าเป็นศิลปะการแสดง ผมมองว่าซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครทุกตัวในมุมต่างๆ ออกมา ผมจะบอกคำพูดหนึ่งในซีรีส์เรื่องนี้ และผมจะพูดตลอดคือ “เกย์ก็เป็นคนเหมือนกัน” ผมว่าคำนี้มันสะท้อนหลายๆ อย่างนะ ผมอยากจะถ่ายทอดบทบาทเอ้ออกมาโดยไม่ได้มองว่ามันเป็นซีรีส์มันเป็นความรักของชายรักชาย คือผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้เลย ส่วนตัวผมไม่เคยมองว่าเรื่องเพศที่สาม หรือเพศไหนๆ จะมาเป็นตัวตัดสินว่าผมจะไม่เล่นเรื่องไหน”
    @@ แต่พอคนที่ดูเขามองเรากลับมา แล้วเกิดคำถามว่าเราสองคนเป็น (ชายรักชาย) หรือเปล่า เรารู้สึกยังไง
    เซ้นต์ : “เอาจริงๆ เลยนะ (ยิ้ม) ผมดีใจนะที่คนคิดแบบนั้น นั่นแปลว่าเราประสบความสำเร็จในการแสดงที่ทำให้คนเชื่อได้ อย่างเวลาไปไหนก็มีคนมาถามบ้างว่าเป็นไหม เราก็บอกว่าเป็นการแสดง”
    เพิร์ธ : “แต่ถ้าคนที่รู้จักนิสัยพี่เซ้นต์จริงๆ จะรู้เลยว่าพี่เซ้นต์แมนมาก (ยิ้ม)”
    เซ้นต์ : “แต่มีคนคิดว่าเป็นเยอะนะ”
    @@ เราดูสนิทกันมากขนาดนี้ แต่ที่ผ่านมามันมีปัญหาเข้ามาหาคู่เราเยอะเหมือนกันนะ
    เพิร์ธ : “อย่างที่ผมเคยบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ณ วันนี้ทุกอย่างมันก็เคลียร์ชัดไปแล้ว แต่ในส่วนของผมกับพี่เซ้นต์ ความรู้สึกของเราตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จริงๆ อาจจะเพิ่มความสนิทและเข้าใจกันมากขึ้นด้วย”
    เซ้นต์ : “ผมกับน้องเราคุยกันตลอด แต่ถามว่าการคุยกันของเรา แต่เราคุยกันในมุมที่ว่าคอยให้กำลังใจ คอยให้คำปรึกษากัน ในทุกๆ เรื่อง คือส่วนของเซ้นต์กับเพิร์ธ เราสองคนแฮปปี้กันดีมาตลอด คู่เราไม่มีตีกันนะ ถ้าตีกันต้องเป็นคู่ “2วิท” คู่ “มีน-แปลน” (หัวเราะ)”
    ความสัมพันธ์ในแบบ “เพิร์ธ-เซ้นต์” 
 
 

\'เพิร์ธ-เซ้นต์\' จับมือข้ามผ่านทุกปัญหา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ